ให้รางวัลตัวเองแบบไม่ปรนเปรอตัวเองผิดๆ ด้วย ‘10 วิธีดูแลตัวเอง’ ที่คุณคู่ควร

Care / Self Care

มีประโยคหนึ่งในสารคดีของ Netflix เรื่อง ‘You Are What You Eat: The Twin Experiment’ ที่พูดถึง ‘การให้รางวัลตัวเอง’ ในทำนองว่า หลังจากทำงานเหน็ดเหนื่อยและควบคุมอาหารออกกำลังกายมาทั้งสัปดาห์ คุณก็อาจกำลังคิดว่า “ฉันสมควรได้เค้กสักชิ้นเป็นรางวัล”

ผู้จัดทำสารคดีเรื่องนี้บอกว่า ความคิดนี้ถือเป็นความคิดที่ผิดถนัด เพราะในความเป็นจริงแล้ว คุณไม่สมควรได้เค้กเป็นรางวัลเลย หรือพูดให้ถูกกว่านั้นคือ ของหวานชิ้นนั้นที่จัดเป็นอาหารแบบ empty calories (อาหารที่ให้แคลอรี แต่ไม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์) ไม่คู่ควรกับการเป็นรางวัลของคุณเลยต่างหาก 

เนื้อหาส่วนนี้ในสารคดีทำให้เราต้องหันกลับมามองพฤติกรรม ‘การให้รางวัลตัวเอง’ ที่เรามักใช้กันอยู่บ่อยๆ ว่า จริงๆ แล้ว เรากำลังให้รางวัลตัวเองอย่างที่ถูกที่ควรแล้วหรือเปล่า เพราะการให้รางวัลตัวเองที่ดีที่สุด ไม่ควรจะเป็น ‘การปรนเปรอตัวเอง’ ที่ดูเผินๆ เหมือนจะดี แต่เอาเข้าจริงแล้ว กลับเป็นการบ่อนทำลายสุขภาพของเรา ไม่ว่าจะเป็น การให้รางวัลตัวเองด้วยอาหารมื้อใหญ่ที่เราชื่นชอบ (แต่ไม่ดีต่อสุขภาพ) การออกไปช็อปปิ้งแบบจัดหนัก (แต่กลับมากระเป๋าฟีบเลย) หรือการบอกตัวเองว่า วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ฉันขอนอนดูซีรีส์ถึงเช้าสักหน่อยเถอะ 

หลังจากใคร่ครวญถึงเรื่องนี้อยู่นาน สุดท้ายเราก็ได้ข้อสรุปว่า การให้รางวัลตัวเองที่ดีที่สุดน่าจะต้องเป็น ‘การดูแลตัวเอง’ (Self care) เช่น การพักผ่อนให้เต็มที่ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และทำจิตใจให้สงบ หรืออธิบายให้ชัดเจนอีกนิดก็คือ การให้รางวัลตัวเองที่ดีที่สุด คือ การให้รางวัลแก่สุขภาพร่างกายและจิตใจของเรา

นอกจากการดูแลตัวเองในเรื่องพื้นฐานอย่างที่เรากล่าวไปแล้วข้างต้น  ยังมีอีกหลายวิธีที่ถือเป็นการให้รางวัลตัวเองที่คุณคู่ควร ลองมาดูกันค่ะว่ามีวิธีไหนอีกบ้าง

1. หยุดพักจากโลกออนไลน์

เมื่อคุณมีเวลาว่าง หนึ่งกิจกรรมที่คู่ควรแก่คุณมากที่สุด คือการใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เพื่อนฝูง และสัตว์เลี้ยง … แบบ ‘ตัวต่อตัว’ ไม่ใช่ผ่านทางโซเชียลมีเดียใดๆ เพราะการใช้เวลากับคนที่คุณรักจะช่วยสานสัมพันธ์ให้แข็งแรง ทำให้คุณคลายเหงา รวมทั้งเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกันคุณจากโรคทางใจทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น โรคซึมเศร้า (Depression) หรือ โรควิตกกังวล (Anxiety) เพราะฉะนั้น เมื่อมีเวลาว่างคราวหน้า ลองปิดมือถือ ปิดคอมพ์ ทำโซเชียลมีเดียดีทอกซ์บ้าง และใช้เวลากับคนรอบข้างอย่างมีคุณภาพดูค่ะ 

2. อยู่กับธรรมชาติ 

เราแนะนำกันมาแล้วหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า การอยู่กับธรรมชาติ แม้จะเป็นการออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะเพียงแค่ 15 นาที ก็ช่วยคลายความเครียดให้คุณได้ แถมยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย และการทำสวนเป็นประจำที่จัดเป็นหนึ่งเคล็ดลับของ ขอบฟ้าแห่งอายุร้อยปี ก็ช่วยให้คุณมีสุขภาพดี มีชีวิตยืนยาว หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้น เราอยากให้คุณลองหาเวลาออกไป อาบป่า (Forest bathing) ก็จะยิ่งนับเป็นการให้รางวัลตัวเองด้วยธรรมชาติที่คุ้มค่า 

แต่ถ้าคุณยังไม่มีเวลามากพอหรือไม่มีสวนเป็นของตัวเอง เอาเป็นว่าแค่นั่งข้างหน้าต่างแล้วใช้เวลามองต้นไม้ใบหญ้า ฟังเสียงนกสัก 10 นาที คุณก็จะสามารถรู้สึกถึงความผ่อนคลายที่เกิดขึ้น

3. นวด

ใครที่ชอบนวด ดีใจด้วยค่ะ อย่างน้อยคุณก็ดูแลตัวเองได้ถูกทางหนึ่งข้อแล้ว 🙂 

การนวดตัวไม่เพียงช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ชีพจรเต้นช้าลงและลดความดันโลหิต ส่วนการนวดเท้าจะช่วยปรับสมดุลร่างกาย และนวดอโรม่าที่ใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ จะช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ หรืออาจช่วยลดภาวะหดหู่ ได้ด้วย 

4. เอาตัวออกห่าง toxic people 

Toxic people หมายถึง คนที่ชอบควบคุมบงการ เรียกร้องความสนใจหรือความสงสาร และมักทำให้คนรอบข้างรู้สึกแย่กับตัวเอง ฯลฯ ถ้าคุณรู้ตัวว่ามี toxic people อยู่ในวงจรชีวิต การให้รางวัลตัวเองที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งก็คือ การเอาตัวออกห่างคนประเภทนี้นั่นเองค่ะ หรือถ้า toxic people สร้างมลพิษในใจคุณไว้มากมาย แต่คุณยังไม่สามารถตัดพวกเขาออกจากชีวิตได้เด็ดขาด เราแนะนำว่าลองหาเวลาปลีกวิเวกแล้วใช้เวลากับตนเอง ดูบ้าง

5. อยู่ใกล้คนที่มีความสุข

เมื่อเอาตัวออกห่าง toxic people แล้ว เราก็ควรพาตัวเองไปอยู่ในแวดวงของคนที่มีความสุข โดยคนที่มีความสุขเหล่านี้ ไม่ได้หมายถึงคนที่มีชีวิตหรูหรา สะดวกสบาย เพราะคนที่มีความสุขด้วยตนเองจริงๆ ต่อให้มีปัญหาเกิดขึ้นในชีวิต พวกเขาก็จะมองมันเป็นความท้าทาย และเอาความรู้สึกนั้นมาสร้างเป็นพลังให้ลุกขึ้นสู้ต่อไปได้ 

งานวิจัยหลายชิ้นบอกว่า เราสามารถ ‘ติด’ อารมณ์ของคนรอบข้างได้ไม่ต่างจากเวลาเราติดไข้หวัดจากคนใกล้ชิด ซึ่งถ้าข้อมูลนี้เป็นความจริง อารมณ์ที่เราสมควรติดมามากที่สุด ก็คือ ความหวัง ความสนุกสนาน และความสุข

หาคนที่มีอารมณ์ด้านบวกเหล่านี้ให้เจอ แล้วลองใช้เวลากับพวกเขาให้มากขึ้นค่ะ

6. รับบทผู้ให้

เมื่อพูดถึงการให้รางวัลตัวเอง หลายคนมักนึกถึงแต่กิจกรรมที่เราเป็น ‘ผู้รับ’ จนเราหลงลืมไปว่า จริงๆ แล้ว การที่เราได้เป็น ‘ผู้ให้’ แก่คนอื่นๆ บ้าง ก็เติมเต็มความสุขในใจได้ยั่งยืนมากกว่าเป็นเท่าตัว เพราะฉะนั้นคราวหน้าเมื่อมีโอกาส เราแนะนำให้คุณลองทำงานจิตอาสา เช่น เก็บขยะตามชายหาด สวนสาธารณะ อ่านหนังสือเสียงให้คนตาบอด หรือเป็น อาสาสมัครพาน้องหมาในศูนย์พักพิงเดินเล่น 

ที่สำคัญ การเป็นอาสาสมัครที่ทุ่มเทพลังกาย พลังใจ และเวลาเพื่อทำประโยชน์ให้ผู้อื่นนี้ ไม่เพียงช่วยฝึกกำลังกายและสมอง รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวคุณเองเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่แข็งแรงระหว่างตัวคุณกับสังคม ซึ่งสิ่งนี้เองนับว่ามีความสำคัญมากในการพัฒนาสังคมให้เป็นสังคมที่น่าอยู่ สังคมที่ทุกผู้ทุกคนล้วนเกี่ยวพันเชื่อมโยงและต้องพึ่งพิงอาศัยกัน 

 7. หาเรื่องดีๆ ในชีวิตให้เจอ

เช่นเดียวกันกับข้อที่ผ่านมา บางครั้ง การให้รางวัลตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องมีรางวัลอะไรใหม่ แต่เป็นการนึกทบทวนดูว่า ชีวิตของคุณมีเรื่องดีๆ อะไรที่จัดเป็นรางวัลล้ำค่าอยู่แล้วบ้าง

เราอยากให้คุณลองอย่างนี้ค่ะ วันไหนที่ตรากตรำกับภาระหน้าที่การงานหรือเผชิญกับอุปสรรคมาแล้วมากมาย พอกลับมาบ้าน เมื่อมีเวลา ลองนั่งนิ่งๆ อยู่กับตัวเองและนึกทบทวนดูให้ดีว่า ชีวิตของคุณมีสิ่งล้ำค่าอะไรอยู่บ้าง คำตอบนั้นอาจเป็นครอบครัว สุขภาพที่แข็งแรง เงินทองที่แม้อาจมีไม่มาก แต่คุณก็ยังมีเตียงอุ่นๆ ให้นอนหลับ มีอาหารให้กินครบสามมื้อ หรือมีน้องหมาน้องแมวที่น่ารักคอยอยู่ที่บ้านให้เรากลับมากอดชาร์จแบต ถ้าเจอสิ่งล้ำค่าเหล่านี้แล้ว เราอยากให้คุณนึกขอบคุณสิ่งเหล่านั้น เพราะอย่าลืมว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสมีสิ่งเหล่านี้เหมือนกับคุณ

8. เขียนบันทึก

การเขียนบันทึกส่วนตัวคือการที่คุณได้ค่อยๆ ใช้เวลาเรียบเรียงความรู้สึกนึกคิดของตัวคุณเองออกมาเป็นตัวอักษร ซึ่งในระหว่างนั้นเอง คุณก็จะได้ทบทวนและทำความเข้าใจความคิดความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น รวมทั้งบางครั้งอาจทำให้คุณมองเห็นปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ได้ชัดเจนขึ้นด้วยว่ามีทางออกอย่างไรบ้าง ดังนั้นการเขียนบันทึกจึงถือเป็นช่วงเวลาที่มีค่า

สำหรับมือใหม่หัดเขียนบันทึก เราแนะนำนิดหนึ่งว่า ไม่จำเป็นต้องทำเป็นประจำทุกวัน แต่วันไหนที่อยากเขียน ขอให้นั่งลงบนโต๊ะแล้วใช้เวลาเขียนให้เต็มที่ อีกอย่างหนึ่งคือ บันทึกนี้เป็นบันทึกให้คุณเขียนเอง อ่านเอง เพราะฉะนั้นคุณสามารถระบายความรู้สึกออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา 

9. จัดบ้าน

บ้านรกๆ จะทำให้เรามีความสุขน้อยลง จะทำอะไรก็รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว เผลอๆ จะนอนไม่ค่อยหลับ แถมยังอาจรู้สึกแย่กับตัวเองไปอีก การจัดบ้านจึงถือเป็นการดูแลตัวเองที่สำคัญอีกวิธีหนึ่ง ถ้าคุณไม่มีเวลามากนัก ให้ลองค่อยๆ ทำทีละนิดละหน่อย วางแผนว่าวันนี้จะจัดมุมนี้ พรุ่งนี้ทำมุมนั้น ทำไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งคุณก็จะมีบ้านที่เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมให้คุณได้พักผ่อนหย่อนใจได้อย่างสบายอารมณ์

10. วางแผนท่องเที่ยว

แน่นอนว่า การเดินทางท่องเที่ยวคือการให้รางวัลตัวเองที่ดีที่สุดอีกวิธีหนึ่ง เพราะคุณจะได้ออกจากชีวิตประจำวันเดิมๆ ไปเปิดหูเปิดตา เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ๆ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์เป็นของตัวคุณเอง แต่ถ้าคุณยังไม่มีเงินหรือเวลามากพอจะออกไปท่องเที่ยวได้ เชื่อไหมว่า แค่ได้นั่งวางแผนท่องเที่ยวอยู่กับบ้านก็จะทำให้คุณรู้สึกมีความสุขขึ้นแล้วค่ะ 

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ 10 วิธีดูแลตัวเองง่ายๆ ที่เสมือนเป็นการให้รางวัลแก่ร่างกายและจิตใจของเราอย่างแท้จริง เน้นย้ำกันอีกนิดนึงว่า สาเหตุที่เราอยากให้คุณให้รางวัลตัวเองอย่างถูกวิธีนั้น ไม่ใช่เพราะจะเกิดประโยชน์แก่ตัวคุณคนเดียวเท่านั้น แต่เมื่อคุณมีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง คุณก็จะพร้อมจะดูแลคนรอบข้างได้อย่างเต็มที่และสามารถทำงานที่คุณรักเพื่อสร้างประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ว่าแล้ว หันมาให้รางวัลตัวเองด้วยการดูแลตัวเองให้ถูกทางกันดีกว่าค่ะ 

ที่มา:
webmd.com
verywellmind.com

บทความที่เกี่ยวข้อง