ชวนทาสหมาแมวไปเป็น ‘อาสาสมัคร’ จูงน้องหมา เล่นกับแมว ที่ Soi Dog 

Care / Social Care

จนถึงทุกวันนี้ เชื่อว่าไม่มีคนรักหมารักแมวคนไหนที่ไม่รู้จัก มูลนิธิสุนัขในซอย (Soi Dog Foundation) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า ‘ซอยด๊อก’ (Soi Dog) เพราะเป็นเวลา 20 กว่าปีแล้ว ที่มูลนิธิแห่งนี้ได้ดำเนินการช่วยเหลือหมาแมวด้อยโอกาสในประเทศไทยให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำหมันเพื่อลดประชากรหมาแมวจรจัด การฉีดวัคซีนเพื่อความปลอดภัยทั้งสัตว์และคน การรักษาพยาบาลหมาแมวที่เจ็บป่วย ให้ที่พักพิง และหาบ้านหลังใหม่ให้หมาแมวที่ไม่สามารถส่งคืนกลับที่เดิมได้

ที่ผ่านมา Soi Dog มุ่งมั่นในภารกิจเหล่านี้มาตลอด และมีผลงานออกมาให้เราเห็นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จำนวนหมาแมวที่พวกเขาทำหมันให้ในแต่ละปี (โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา Soi Dog ทำสถิติใหม่คือ เป็นองค์กรแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำหมันให้หมาแมวครบ 1 ล้านตัว) การให้ความช่วยเหลือหมาแมวในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม การรักษาหมาที่ถูกทำร้ายจนพิการ และที่ทำให้ใครต่อใครซาบซึ้งใจมากที่สุดก็คือ หมาที่เคยโชคร้ายเหล่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปก็ได้รับการฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจจนมีอาการดีขึ้น และในที่สุด น้องหมาที่น่ารักก็ได้ครอบครัวใหม่อุปการะ หลายตัวได้บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุข

เมื่อเป็นองค์กรการกุศล การดำเนินงานของ Soi Dog จึงจำเป็นต้องพึ่งพาการบริจาคจากพวกเราทุกคน ทั้งบริจาคทุนทรัพย์ บริจาคยาและเวชภัณฑ์ (ตามที่มูลนิธิเปิดรับ) แต่นอกเหนือไปจากนั้น ยังมีอีกช่องทางหนึ่งที่เราทุกคนสามารถช่วยน้องหมาน้องแมวที่ศูนย์พักพิงของ Soi Dog ได้ นั่นคือการเป็นอาสาสมัครเพิ่มทักษะทางสังคมให้กับน้องหมาน้องแมว

ปัจจุบัน Soi Dog มีน้องหมาอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงกว่า 950 ตัว และน้องแมวอีก 170 โดยน้องๆ ส่วนมากเป็นหมาแมวที่ไม่เคยมีบ้านหรือมีเจ้าของมาก่อน ดังนั้นก่อนดำเนินการหาบ้านหลังใหม่ให้น้องๆ จึงเป็นเรื่องจำเป็นมากที่ต้องฝึกฝนทักษะการเข้าสังคมให้พวกเขา

วิธีการฝึกทักษะการเข้าสังคมอย่างหนึ่งก็คือ การที่มีอาสาสมัครเข้าไปเยี่ยมชม ดูแล และพาน้องหมาที่อาศัยอยู่ในคอก (คอกละ 25 ตัว) ออกมาจูงเดินและปล่อยวิ่งเล่นอิสระในพื้นที่ที่จัดไว้ โดยนอกจากการออกมาจากคอกจะเป็นการทำความคุ้นเคยกับผู้คนและฝึกระเบียบวินัยจากการใช้สายจูงแล้ว ก็ยังเป็นโอกาสดีให้น้องหมาได้ออกกำลังกายและผ่อนคลายหลังจากที่ต้องอุดอู้ในคอกมาตลอดทั้งคืน เช่นเดียวกับแมวเหมียวทั้งหลายที่น่าจะได้คลายเหงาเมื่อได้เจอกับอาสาสมัคร ด้วยการเข้ามาคลอเคลียสัมผัสความรักความอบอุ่น ซึ่งบอกเลยว่าแมวที่มูลนิธินั้นขี้อ้อนจนอาจทำให้อาสาสมัครใจละลายได้ง่ายๆ

ผู้อุปการะหมาแมวจาก Soi Dog หลายรายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหมาแมวจาก Soi Dog นั้น น่ารักและปรับตัวเข้ากับครอบครัวใหม่ได้ง่าย ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการได้อาสาสมัครเข้ามาฝึกทักษะการเข้าสังคมให้กับน้องๆ นี่เอง

กิจกรรมอาสาสมัครจูงหมาและเล่นกับแมวของ Soi Dog นี้ เรามองว่าเหมาะกับคนเกือบทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็กโตไปจนถึงผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรง เพราะเด็กโตจะได้รู้จักการเป็นจิตอาสาทำงานเพื่อสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน และยังถือเป็นกิจกรรมดีๆ ที่สามารถทำร่วมกันได้ในครอบครัวด้วย ส่วนวัยผู้ใหญ่ไปจนถึงผู้สูงอายุ การเป็นอาสาสมัครคือการได้เข้าสังคม เรียนรู้ฝึกฝนทักษะใหม่ๆ และสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่สนใจอยากเป็นอาสาสมัครที่ Soi Dog มีสิ่งที่คุณควรรู้ก่อน ดังต่อไปนี้

  • คุณต้องมีเวลาอย่างน้อย 2 วัน สำหรับงานอาสาสมัครนี้ โดยในช่วงเช้าของวันแรก ทาง Soi Dog จะทำการแนะนำอบรมเกี่ยวกับการทำงาน แผนผังของศูนย์พักพิง และเรื่องความปลอดภัย จากนั้นในช่วงบ่าย คุณจะได้ไปพบกับน้องหมาที่จะอยู่ในความดูแลของคุณ และคุณจะได้เริ่มพาน้องๆ ออกมาเดินในเช้าวันที่สองเป็นต้นไป
  • คุณต้องมีอายุ 8 ปีขึ้นไป โดยอายุ 8-16 ปี จำเป็นต้องมีผู้ปกครองมาด้วย และผู้ที่อายุ 16-18 ปี สามารถมาเองได้ แต่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง 
  • ศูนย์พักพิงของ Soi Dog ตั้งอยู่ที่บริเวณหาดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต กิจกรรมอาสาสมัครนี้จึงเหมาะกับคนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงหรือมีแผนการมาเที่ยวภูเก็ต โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจจะมาเที่ยวภูเก็ตหลายวันและอยากทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มเพื่อนฝูง หรือครอบครัวที่พาลูกๆ (อายุเกิน 8 ปี) มาเที่ยวในช่วงปิดเทอมและอยากให้ลูกหลานได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับงานอาสาสมัคร
  • งานอาสาสมัครใช้เวลาตั้งแต่ 9.00-16.00 น. (พักเที่ยงหนึ่งชั่วโมง) ของวันจันทร์-ศุกร์

Soi Dog เปิดรับอาสาสมัครเพียงแค่ 50 คนต่อวันเท่านั้น และโดยปกติแล้วในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน จะเป็นช่วงที่มูลนิธิได้ต้อนรับอาสาสมัครจากหลากหลายประเทศเป็นจำนวนมาก มูลนิธิจึงแนะนำให้สมัครเข้ามาเป็นอาสาสมัครในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม อันเป็นช่วงเวลาที่มูลนิธิมักขาดแคลนอาสาสมัคร และข้อดีอีกอย่างของการเดินทางมาภูเก็ตในช่วงเวลานี้คือ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก และค่าครองชีพต่างๆ ราคาถูกกว่าในช่วงไฮซีซันเยอะมาก

แต่หากคุณสมัครเข้ามาดูแลน้องหมาน้องแมวในช่วงที่มูลนิธิมีอาสาสมัครเต็มอัตรา และยินดีจะช่วยงาน Soi Dog ในส่วนอื่นๆ ทางมูลนิธิก็ยังมีกิจกรรมรอคอยความช่วยเหลือจากคุณเช่นกัน เช่น ทำความสะอาดศูนย์พักพิง งานตัดแต่งสวนและต้นไม้ งานทาสีบริเวณต่างๆ 

อย่างที่เกริ่นไปแล้วในตอนต้น งานอาสาสมัครจะเปิดโอกาสให้คุณได้เข้าสังคม พบปะพูดคุย และทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพใจอย่างมาก โดยถ้ายังจำกันได้ การทำงานอาสาสมัครและได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ถือเป็นหนึ่งใน 7 เคล็ดลับ ชะลอความชรา รวมทั้งหนึ่งในหนทางสู่การเป็น Super Ager  เพราะนอกจากการเข้าสังคมจะทำให้คุณได้คลายเหงาแล้ว การจูงน้องหมาเดินก็ยังถือเป็นการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ทำให้เป็นการฝึกลับสมองให้เฉียบคมอยู่เสมอ ไม่หลงลืมอะไรง่ายๆ ด้วย

นอกจากนั้น ในการจูงน้องหมาเดิน คุณก็ยังได้ออกกำลังกาย และได้ผ่อนคลายจากการมีสัตว์เลี้ยงที่น่ารักอยู่ข้างๆ ตลอดทั้งวัน ส่วนการดูแล แมวเหมียวที่ส่งเสียง purr ออกมาระหว่างที่เราเกาพุง ลูบคาง ให้พวกมันนั้น ก็จะทำให้คุณผ่อนคลายและดีต่อสุขภาพอย่างไม่น่าเชื่อ ดีไม่ดี เมื่อได้มาทำความรู้จักหมาแมวที่น่ารักเหล่านี้ คุณอาจได้สมาชิกใหม่กลับไปให้ความสุขต่อที่บ้านด้วย

ที่สำคัญที่สุด การได้ทำงานอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือสัตว์ด้อยโอกาสเหล่านี้ จะทำให้คุณรู้สึกถึงคุณค่าในชีวิต ซึ่งสำหรับผู้ที่ขาดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตหรือผู้ที่มีอาการซึมเศร้า ความรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าจะช่วยให้คุณมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปได้

เห็นไหมว่า งานอาสาสมัครของ Soi Dog ให้ประโยชน์มากมายแก่ทั้งหมา แมว และคนที่เข้าไปเป็นอาสาสมัคร ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากทำประโยชน์ให้แก่ชีวิตอื่น อยากช่วยเหลือน้องหมาน้องแมว เราแนะนำให้เข้าไปสมัครและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ soidog.org/volunteer หรือหากต้องการบริจาคทุนทรัพย์ คลิกเพื่อดูรายละเอียดและบริจาคที่  soidog.org/thai/donation

ข้อมูลจาก: soidog.org
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติม: volunteeringssolutions.com

บทความที่เกี่ยวข้อง