HEALTH
เริ่มต้นดูแลสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
ถอดรหัสอัลไซเมอร์ รู้จัก 3 โปรตีนหลักในสมอง สาเหตุหลักของความเสื่อม
ไขความลับ ‘ปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์ และจิตใจ’ ในผู้ป่วยสมองเสื่อม
อันตรายที่ไม่คาดคิดจาก ยาสามัญติดบ้าน
หัวเราะจนฉี่เล็ด เรื่องปรกติ ที่ไม่ปกติจริงเหรอ
หัวเราะจนฉี่เล็ด เรื่องปรกติ ที่ไม่ปกติจริงเหรอ
พาไปรู้จักกลุ่มอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ กับ น.ท.นพ.ศุภวิช เหลืองภัทรวงศ์ แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ
ลืมเล็กลืมน้อย MCI เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก
ลืมเล็กลืมน้อย MCI เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก
รู้หรือไม่ว่า...ภาวะความรู้คิดบกพร่องบกพร่องเล็กน้อย หรือ MCI เป็นภาวะความเสื่อมถอยของสมองที่สามารถพัฒนาไปสู่ภาวะสมองเสื่อมได้
นอนไม่หลับบ่อยๆแก้ไขอย่างไรดี
นอนไม่หลับบ่อยๆแก้ไขอย่างไรดี
การนอนหลับ เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เราจะพาไปคลายสงสัย ⁉️ เรื่องความผิดปกติของการนอนหลับ โดยเฉพาะโรคนอนไม่หลับ ไปกับ รศ.พญ.นฤชา จิรกาลวสาน หัวหน้าศูนย์นิทราเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
มะเร็งเต้านมในผู้ชาย เกิดขึ้นได้ผู้ชายต้องรู้ !
มะเร็งเต้านมในผู้ชาย เกิดขึ้นได้ผู้ชายต้องรู้ !
ชวนมาทำความเข้าใจกับโรคมะเร็งเต้านมกันมากขึ้นกับ ผศ.นพ.ไนยรัฐ ประวงค์สุข อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา รพ.พระมงกุฎเกล้า
นอนไม่ดี นอนไม่พอ อาจแก่ก่อนวัยโดยไม่รู้ตัว
นอนไม่ดี นอนไม่พอ อาจแก่ก่อนวัยโดยไม่รู้ตัว
การนอนส่งผลต่อสมองและความจำอย่างไร โดย ผศ.นพ. ศิกวัส ธนาวิรัตนานิจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาทและการนอนหลับ รพ.จุฬาลงกรณ์
เริ่มต้นดูแลสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง ได้ที่นี่
hhc Thailand
…คลังความรู้และสาระสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าที่เคย…
วันนี้คุณดูแลสุขภาพของตัวเองแล้วหรือยัง?
เรื่องสุขภาพคือเรื่องใกล้ตัวที่เราไม่ควรมองข้าม เนื่องจากในวิถีการดำเนินชีวิตของเราอาจส่งผลให้ร่างกายมีความผิดปกติเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในบางครั้งอาการเหล่านี้อาจเป็นอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นชั่วคราว แต่ในบางครั้งก็อาจส่งผลเสียมากมายจนกลายเป็นโรคร้ายที่ต้องรีบเข้ารับการรักษาให้ทันท่วงที ดังนั้นเราจึงควรเริ่มดูแลสุขภาพของตัวเองเพื่อรับมือกับอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
เคยสงสัยหรือไม่ เรากำลังป่วยเป็นโรคอะไรอยู่หรือเปล่า?
Health บทความสาระสุขภาพ
“ที่จะทำให้ทุกคนได้เริ่มต้นดูแลตัวเอง ก่อนที่จะสายเกินไป”
อาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นมักจะมีสัญญาณเตือนเสมอ เราสามารถสังเกตอาการหรือสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตัวเองเพื่อรับมือกับโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ด้วยการติดตามบทความ Health จาก hhc Thailand ที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับอาการเบื้องต้นของโรคร้าย สาเหตุหรือปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรค วิธีการรับมือ รวมไปถึงแนวทางการเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยให้เรามั่นใจในวิธีการดูแลสุขภาพของตัวเองมากยิ่งขึ้น
ทำไมการดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง ‘ยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งดี’
เมื่ออายุมากขึ้น สภาพร่างกายก็ย่อมเสื่อมถอยลงตามกาลเวลา ระบบการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายจะเริ่มเสื่อมสภาพ ระบบภูมิคุ้มกันก็ลดต่ำลง การทำงานของฮอร์โมนและการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทั้งภายในและภายนอกจะเริ่มช้าลง ส่งผลให้ผู้ที่เคยมีร่างกายที่แข็งแรงก็อาจมีอาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อก้าวเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ โรคที่เกิดขึ้นมักจะมีความรุนแรงมากกว่าการเกิดขึ้นในผู้ที่อายุยังน้อย
ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับวิธีดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี หมั่นดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างมีวินัย เพื่อช่วยลดความเสื่อมโทรมของสภาพร่างกายและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ในระยะยาว
– สุขภาพที่ดี เป็นพื้นฐานของการมีคุณภาพขีวิตที่ดี –
แล้วจะดีกว่าไหม? ถ้าคุณและคนรอบข้างได้เริ่มต้นดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“hhc Thailand สนับสนุนให้ทุกคนเริ่มต้นดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี
เพื่อการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขในทุกช่วงวัย”
ข้อดีของการเริ่มต้นดูแลรักษาสุขภาพอย่างถูกต้อง
เมื่อเราเริ่มดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองอย่างถูกวิธี ในบทความ Health ได้รวบรวมความรู้เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพ ทั้งเคล็ดลับที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคร้ายใกล้ตัวและวิธีการรับมือ รวมถึงข่าวสารและเทรนด์สุขภาพน่ารู้ จาก hhc Thailand ส่งผลให้เราได้รับประโยชน์มากมาย ดังนี้
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายในระยะยาว
ช่วยรักษาระดับภูมิคุ้มกันเมื่อมีอายุมากขึ้น
ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภัยไข้เจ็บ
สามารถรู้ทันและรับมือกับโรคร้ายได้อย่างทันท่วงที
สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็วหากมีอาการเจ็บป่วย
ส่งเสริมความมีวินัยในการดูแลตัวเอง
เลี่ยงผลเสียที่เกิดจากการดูแลสุขภาพแบบผิด ๆ
ช่วยเพิ่มความเปล่งปลั่งของผิวพรรณ ทำให้หน้าตาดูอ่อนเยาว์
จะเห็นได้ว่าประโยชน์ของการดูแลรักษาสุขภาพนั้นมีอยู่มากมาย ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีต่อร่างกายของตัวเองในระยะยาวอย่างแน่นอน! มาเริ่มดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองและคนรอบข้างเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นไปกับเรา Community สำหรับคนรักสุขภาพที่ดีที่สุดจาก hhc Thailand
รอบรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ กับ hhc Thailand
เนื่องจากเราเป็นชุมชนที่รวบรวมเรื่องราว ข่าวสาร ความรู้ และวิธีการดูแลสุขภาพไว้มากมาย โดยมุ่งหวังให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข จากพื้นฐานทางด้านร่างกายที่ดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ทั้งทางกายและทางใจ
วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆเกี่ยวกับวิธีดูแลสุขภาพเบื้องต้นมาแบ่งปันให้คุณได้นำไปปรับใช้กับตนเองและคนรอบข้าง แต่ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหาในส่วนนั้น เราไปดูกันก่อนว่าปัญหาทางด้านสุขภาพยอดฮิตที่มักพบเจอได้บ่อยครั้ง มีอะไรบ้าง
ท๊อปฮิตปัญหาสุขภาพยอดฮิตในประเทศไทย
จากวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ทำให้เรามักจะหลงลืมการดูแลสุขภาพของตัวเอง ส่งผลให้ร่างกายขาดภูมิคุ้มกันและเกราะป้องกันโรคร้าย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพมากมายตามมา ซึ่งปัญหาด้านสุขภาพยอดฮิตในประเทศไทย ได้แก่
- ปัญหาเรื่องโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ
- ปัญหาเรื่องโรคเบาหวาน
- ปัญหาเรื่องโรคความดันโลหิตสูง
- ปัญหาเรื่องโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ
- ปัญหาเรื่องโรคสมองเสื่อม
- ปัญหาเรื่องโรคทางเดินอาหาร
- ปัญหาเรื่องโรคกระดูกและข้อ
- ปัญหาเรื่องโรคทางเดินปัสสาวะ
- ปัญหาการนอนไม่หลับเพราะความเครียด
- ปัญหาภาวะซึมเศร้า
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของปัญหาสุขภาพยอดฮิตในประเทศไทยที่อาจเข้ามาทำอันตรายต่อร่างกายของเราเพียงเท่านั้น ยังมีโรคต่าง ๆ อีกมากมายที่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจส่งผลกระทบมากมายต่อการดำเนินชีวิตของเรา ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
ดังนั้น เราจึงควรดูแลสุขภาพของตัวเองตั้งแต่ยังมีโอกาส เพื่อเสริมสร้างภุมิคุ้มกันและรู้ทันโรคร้ายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั่นเอง
เริ่มต้นดูแลรักษาสุขภาพด้วย ‘วิธีดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน’
การดูแลสุขภาพของตัวเองให้มีความแข็งแรง ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ในระยะยาวนั้น เราควรให้ความสำคัญตั้งแต่พื้นฐานของการดำเนินชีวิตที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้มีความแข็งแรง สมบูรณ์ ซึ่งการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองเบื้องต้นนั้น จะต้องให้ความสำคัญกับเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ 3 ด้าน ได้แก่
การรับประทานอาหารที่ดี
การออกกำลังกายที่เหมาะสม
การดูแลสภาวะทางอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ
ซึ่งทั้ง 3 ด้านของวิธีการดูแลสุขภาพเบื้องต้นจะมีรายละเอียดและข้อปฏิบัติอย่างไรบ้าง ทาง hhc Thailand ได้รวบรวมไว้ให้ทุกคนแล้ว
1. การรับประทานอาหารที่ดี
รู้หรือไม่? พฤติกรรมการรับประทานอาหารเป็นสาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดโรคที่ไม่ติดต่อหรือโรค NCDs อย่างโรคความดันโลหิตสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกรดไหลย้อน เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น ระบบการกรองของเสียหรือระบบการกำจัดของเสียภายในร่างกายก็จะเริ่มมีประสิทธิภาพที่ลดลง หากทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ก็จะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคร้ายกับร่างกายของเรา
ดังนั้น เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในระยะยาว เราควรเริ่มต้นดูแลสุขภาพของตนเองด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรค ตามหลักการในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ดังนี้
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ
- เน้นการทานอาหารที่มีกากใยหรือไฟเบอร์สูง
- เลี่ยงการทานอาหารหวาน มัน เค็ม
- เลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันทรานส์
- เลี่ยงการทานของทอดและอาหารปิ้งย่าง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละประมาณ 6-8 แก้ว
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มรสหวาน
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการรับประทานอาหารเสี่ยงโรคต่าง ๆ จะช่วยส่งเสริมให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่ไม่ติดต่อต่าง ๆ ได้อีกด้วย
2. การออกกำลังกายที่เหมาะสม
เมื่อเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์และปฏิบัติตามหลักการรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง เพื่อการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธีแล้ว วิธีดูแลสุขภาพในข้อต่อมานั่นคือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเหมาะสม พอดีกับวัย เพื่อส่งเสริมให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงในระยะยาว
โดยเราต้องออกกำลังกายอย่างมีวินัย เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 นาทีต่อวันและประมาณ 3-5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อสร้างเกราะป้องกันโรคร้ายและช่วยให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เราควรดื่มน้ำสะอาดทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกายให้เพียงพอกับปริมาณของน้ำที่เสียไปในระหว่างการออกกำลังกาย เพื่อรักษาสมดุลของน้ำภายในร่างกายของเรานั่นเอง
ประโยชน์ของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
ทำให้หัวใจ กล้ามเนื้อ และปอด ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
ทำให้การไหลเวียนของโลหิตในร่างกายดีขึ้น
ช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
ทำให้เกิดการหลั่งสารแห่งความสุข ลดความเครียด เพิ่มความผ่อนคลาย
ช่วยในการพักผ่อน ทำให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น
ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ใีสุขภาพผิวที่ดี
การออกกำลังกายให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย
เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นวิธีการดูแลสุขภาพที่เกิดประโยชน์สูงสุด เราควรออกกำลังกายให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเรา ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้
ช่วงวัย | การออกกำลังกายที่เหมาะสม |
วัยเด็ก | ในช่วงวัยนี้เป็นวัยที่อยู่ในช่วงของการเจริญเติบโตและมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ การออกกำลังกายจึงควรเน้นที่ความสนุกสนานและความปลอดภัย โดยเลือกกีฬาที่ได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน ช่วยในเรื่องของการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว และช่วยฝึกสมาธิได้เป็นอย่างดี กีฬาหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสม ฟุตบอล |
วัยรุ่น | ในช่วงวัยรุ่น คือช่วงที่เหมาะสมกับการสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย เนื่องจากอยู่ในช่วงที่มีอัตราของการเผาผลาญที่ดี และชื่นชอบการออกกำลังกายที่มีความท้าทายหรือการแข่งขัน กีฬาหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสม กีฬาทุกรูปแบบ เช่น ฟุตบอล แบตมินตัน บาสเกตบอล เป็นต้น |
วัยทำงานหรือวัยกลางคน | ในช่วงวัยนี้เป็นวัยที่เหมาะสมกับวิธีดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายที่ไม่หนักจนเกินไป เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มมีความเหนื่อยล้า ทั้งกล้ามเนื้อ กระดูก และระบบการเผาผลาญเริ่มมีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดน้อยลง กีฬาหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสม ปั่นจักรยาน |
วัยสูงอายุ | เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุเราควรดูแลสุขภาพโดยการหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่หักโหม ควรเลือกออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวที่ง่าย ๆ เพิ่มความผ่อนคลายให้กับกล้ามเนื้อ ร่างกาย และจิตใจ กีฬาหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสม เดินออกกำลังกาย |
3. การดูแลสภาวะทางอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ
นอกจากการรับประทานอาหารและการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การใส่ใจดูแลจิตใจให้มีอารมณ์ที่แจ่มใสก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยเราเริ่มต้นดูแลสุขภาพทางใจได้ง่าย ๆ ด้วยการคิดบวก มองโลกในแง่ดี มองหามุมมองใหม่ ๆ ในการแก้ไขปัญหาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ เรายังสามารถปฏิบัติตามเคล็ดลับการดูแลสภาวะทางอารมณ์ ดังนี้
พักผ่อนให้เพียงพอ เหมาะสมตามช่วงวัย
การพักผ่อนให้เพียงพอเป็นวิธีการดูแลสุขภาพที่สามารถเริ่มได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง โดยการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยส่งเสริมสภาวะทางอารมณ์ให้เรามีจิตใจที่แจ่มใส และมีความสุขมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ เสริมสร้างความจำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้อีกด้วย
และนอกจากการเสริมสร้างสภาวะทางอารมณ์และการทำงานของสมอง การพักผ่อนให้เพียงพอยังเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย รวมถึงช่วยให้เราผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส มีความอ่อนวัยอยู่เสมอ
ข้อเสียของการนอนหลับไม่เพียงพอ
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
- ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดน้อยลง
- รู้สึกอ่อนเพลีย ง่วงซึมตลอดทั้งวัน
- ฮอร์โมนสืบพันธ์ุหลั่งออกมาน้อยลง
- กระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารจำพวกไขมันและคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป
- เป็นต้นเหตุของโรคต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคทางระบบย่อยอาหาร เป็นต้น
ตารางการนอนหลับพักผ่อนของแต่ละช่วงวัยเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี
ตารางการนอนหลับพักผ่อนของแต่ละช่วงวัย | |
ช่วงอายุ | ระยะเวลาที่ควรนอนหลับ |
อายุ 0 – 3 เดือน | 14 – 17 ชั่วโมง |
อายุ 4 – 11 เดือน | 12 – 15 ชั่วโมง |
อายุ 1 – 2 ปี | 11 – 14 ชั่วโมง |
อายุ 3 – 5 ปี | 10 – 13 ชั่วโมง |
อายุ 6 – 13 ปี | 9 – 11 ชั่วโมง |
อายุ 14 – 17 ปี | 8 – 10 ชั่วโมง |
อายุ 18 – 25 ปี | 7 – 9 ชั่วโมง |
อายุ 26 – 64 ปี | 7 – 9 ชั่วโมง |
อายุ 65 ปี เป็นต้นไป | 7 – 8 ชั่วโมง |
ฝึกสติและสมาธิ
การฝึกสมาธิ เป็นหนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพที่ช่วยให้เรารู้เท่าทันอารมณ์และสามารถรับมือกับสภาวะทางอารมณ์ของตัวเองได้ดี ส่งผลให้ผู้ที่ฝึกสมาธิเป็นคนที่มีใจเป็นสุข มีความใจเย็น มองโลกในแง่ดี มีความสุขกับสิ่งรอบตัวได้ง่าย มีจิตใจที่แจ่มใส คิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล รวมถึงตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ
ด้วยเหตุนี้การฝึกสติและสมาธิจึงเป็นวิธีบำบัดความเครียดรวมถึงวิธีการดูแลสุขภาพทางอารมณ์ที่ดีและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
ประโยชน์ของการฝึกสติและสมาธิ
นอกจากการฝึกสมาธิจะช่วยให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ของเราและสามารถรับมือกับสภาวะทางอารมณ์ได้ดีแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนี้
- ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ
- ส่งเสริมบุคลิกภาพ ท่าทางการคิด การพูด และการแสดงออก
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง
- ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ
ใช้เวลาสร้างความสุขกับคนรอบข้างหรือคนในครอบครัว
เคล็ดลับการดูแลสุขภาพทางอารมณ์ที่จะช่วยให้ทั้งตัวคุณเองและคนรอบข้างมีสภาวะทางอารณ์ที่ดีขึ้น นั่นก็คือการใช้เวลาเพื่อสร้างความสุขกับคนรอบข้างหรือคนในครอบครัวโดยการมอบความห่วงใยให้แก่กันและกัน หาเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความสุข รอบยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับตัวเราเอง คนรอบข้างหรือคนในครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น
หากิจกรรมที่เพลิดเพลิน สนุกสนาน เพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความสุข ความเพลิดเพลิน และสภาวะทางอารมณ์ที่ดี เราจึงควรมองหากิจกรรมที่มีความสนุกสนานเพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ให้สมองได้หลั่งสารแห่งความสุขเพื่อส่งเสริมสภาวะทางอารมณ์ให้ดียิ่งขึ้น
โดยตัวอย่างของกิจกรรมที่มีความเพลิดเพลินเพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ รวมถึงเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ช่วยส่งเสริมช่วงเวลาแห่งความสุขนั้น ได้แก่
- การเล่นกีฬา ออกกำลังกาย
- การวาดรูป ระบายสี สร้างผลงานศิลปะ
- การรับชมภาพยนตร์ ซีรีย์ หรือรายการโทรทัศน์
- การฟังเพลง
- การทำอาหารหรือทำขนม
- การปลูกต้นไม้ ทำสวน
ค้นหาแรงบันดาลใจที่ดี
การดูแลสุขภาพเพื่อส่งเสริมสภาวะทางอารมณ์ที่ดีที่หลายคนมักมองข้ามไป นั่นคือการค้นหาแรงบันดาลใจดี ๆ ที่จะช่วยผลักดันและเป็นแรงกระตุ้นให้เรามีความมุ่งมั่นในการทำสิ่งต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น รวมถึงยังเป็นวิธีที่ช่วยจุดประกายไอเดียและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับเราได้อีกด้วย
โดยการค้นหาแรงบันดาลใจที่ดีจะช่วยให้เราได้เห็นถึงมุมมองในการดำเนินชีวิตที่หลากหลายและนิยามของความสุขในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ทำให้เราได้เรียนรู้ เข้าใจในเหตุผลของการดำเนินชีวิต รวมถึงเป็นแนวทางที่ทำให้เราได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในรูปแบบของตัวเราเอง
ตัวอย่างวิธีการค้นหาแรงบันดาลใจที่ดี
- มองหาแรงบันดาลใจจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
- เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ และสังคมใหม่ ๆ
- รับฟังเรื่องราวของผู้คนรอบข้าง
- มองหาไอเดียและแรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือ ดูหนัง และฟังเพลง
โรคที่ไม่แสดงอาการ รับมือได้ด้วยการตรวจสุขภาพพื้นฐาน
ถึงแม้ว่าอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นมักจะแสดงอาการที่เป็นสัญญาณเตือนให้เราได้รู้เท่าทันอยู่เสมอ แต่ในบางครั้งโรคร้ายอาจมาในรูปแบบของภัยเงียบที่ไม่แสดงอาการ เมื่อรู้ตัวอีกทีก็เข้าสู่ระดับขั้นเป็นโรคที่มีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เราจึงควรดูแลสุขภาพของตนเองร่วมกับการเข้ารับการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเป็นประจำ เพื่อทำการวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้น
ประโยชน์ของการตรวจสุขภาพคือเราจะสามารถตรวจพบโรคต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ยังไม่แสดงอาการ เพื่อเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อย่างเหมาะสม เป็นการรับมือกับโรคร้ายไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือมีอาการรุนแรง รวมถึงเป็นการติดตามเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพ ทำให้เราได้รู้ถึงความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ของการเป็นโรคร้าย เพื่อเริ่มต้นการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างถูกวิธี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมถึงหาแนวทางป้องกันก่อนที่จะสายเกินไป
โดยการตรวจสุขภาพนั้นควรเริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป (ยกเว้นในกรณีที่มีความสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงในการเกิดโรค ก็สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพได้ทันที) ซึ่งในแต่ละช่วงวัยจะมีการให้ความสำคัญกับรายการในการตรวจสุขภาพที่แตกต่างกันไปตามความเสี่ยงและอัตราของการเกิดโรคในช่วงวัยนั้น ๆ
และในส่วนนี้ hhc Thailand ขอยกตัวอย่างการตรวจสุขภาพของวัยผู้สูงอายุ ว่ามีโรคใดบ้างที่ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างเจาะลึก ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
ผู้สูงอายุกับความถี่ของการตรวจสุขภาพแบบเจาะลึก
วัยสูงอายุคือวัยที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้มากกว่าช่วงวัยอื่น ๆ เนื่องจากระบบการทำงานของร่างกายที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีความเสื่อมถอย และอ่อนแอลง ทำให้หากไม่มีวิธีการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดโรคร้ายขึ้นในช่วงวัยนี้ได้ง่าย
โรคที่มักพบบ่อยในวัยสูงอายุนี้ ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคข้อเข่าเสื่อม โรคไต โรคความดันโลหิตสูง และโรคอัลไซเมอร์ ในช่วงวัยนี้จึงเป็นอีกหนึ่งช่วงวัยที่ควรหมั่นเข้ารับการตรวจสุขภาพ เพื่อให้สุขภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและเป็นการรับมือกับโรคร้ายต่าง ๆ ให้หายได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้นนั่นเอง
โดยผู้สูงอายุสามารถตรวจสุขภาพในด้านต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น
ตรวจสุขภาพตา
การตรวจสุขภาพตาเป็นการตรวจเพื่อคัดกรองโรคทางตาที่มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุเพื่อการดูแลสุขภาพตาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งโรคทางตาที่มักพบบ่อยในวัยนี้ ได้แก่ โรคต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม และภาวะสายตายาว
คำแนะนำในการตรวจสุขภาพตา
อายุ 60 – 64 ปีควรตรวจตาทุก ๆ 2 – 4 ปี
อายุ 65 ปีขึ้นไป ควรตรวจตาทุก ๆ 1 – 2 ปี
ตรวจสุขภาพหู
วัยสูงอายุมักจะมาพร้อมกับอาการความผิดปกติทางการได้ยิน ในการตรวจนี้จึงเป็นการตรวจสมรรถภาพทางการได้ยิน เพื่อคัดกรองผู้สูงอายุว่ามีปัญหาทางด้านทางการได้ยินหรือไม่ ทั้งอาการหูหนวก หูตึง หรือภาวะประสาทหูเสื่อม
ตรวจสุขภาพจิต
การตรวจสุขภาพจิตเป็นการตรวจสภาวะทางอารมณ์และสภาวะทางจิตใจของผู้สูงอายุ โดยครอบคลุมทั้งการประเมินอาการทางจิตเวชต่าง ๆ รวมไปจนถึงอาการที่พบได้บ่อยอย่างภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุนั่นเอง
ตรวจผิวหนัง
เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุมีอาการทางผิวหนัง จึงควรตรวจคัดกรองโรคมะเร็งผิวหนัง ภาวะผิวหนังแห้ง และเชื้อราที่ผิวหนัง ซึ่งหากผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคเบาหวานจะต้องมีการตรวจในส่วนนี้เป็นพิเศษ
ตรวจสุขภาพช่องปาก เหงือก และฟัน
การตรวจสุขภาพทางช่องปาก เป็นการตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันและเหงือก เช่น อาการฟันผุ เหงือกอักเสบ และปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุอย่างปัญหาในการบดเคี้ยวอาหาร เพื่อรับมือกับอาการเหล่านี้ได้อย่างทันท่วงที
ตรวจเต้านม (สำหรับผู้หญิง)
การตรวจสุขภาพของเต้านมเป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นการตรวจหาก้อนเนื้อเพื่อนำไปตรวจวินิจฉัยหาความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เลือกใช้วิธีดูแลสุขภาพที่เหมาะสมเพื่อการรักษาอย่างทันท่วงที หากมีความผิดปกติหรือมีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น
คำแนะนำในการตรวจเต้านม
อายุ 60 – 69 ปีควรตรวจมะเร็งปากมดลูกทุก ๆ 3 ปี
อายุ 70 ปีขึ้นไป ตรวจได้ตามความเหมาะสม
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (สำหรับผู้หญิง)
การตรวจสุขภาพเพื่อจะคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (สำหรับผู้หญิง) เป็นอีกหนึ่งโรคที่ควรตรวจเพื่อคัดกรองอยู่เสมอแม้จะอยู่ในวัยสูงอายุ เนื่องจากเป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้สูงอายุที่เป็นเพศหญิง
คำแนะนำในการตรวจมะเร็งปากมดลูก
อายุ 60 – 64 ปีควรตรวจมะเร็งปากมดลูกทุก ๆ 3 ปี
อายุ 65 ปีขึ้นไป ตรวจได้ตามความเหมาะสม
ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เป็นการตรวจเพื่อหาความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว รวมถึงเกล็ดเลือด เพื่อวิเคราะห์สุขภาพโดยรวมของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในเรื่องของโรคโลหิตจาง การติดเชื้อในกระแสเลือด และมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น
คำแนะนำในการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
อายุ 70 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจทุกปี
ตรวจระดับไขมันในเลือด
การตรวจระดับไขมันในเลือด เป็นการตรวจเพื่อวัดระดับไขมันในเลือดว่าอยู่ในเกณฑ์ผิดปกติหรือไม่ เพื่อทำการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และมีการวางแผนวิธีการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม หากมีค่าระดับไขมันในเส้นเลือดมากกว่าปกติ
คำแนะนำในการตรวจระดับไขมันในเลือด
ผู้สูงอายุควรตรวจทุก ๆ 5 ปี
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของการตรวจสุขภาพในวัยสูงอายุเพียงเท่านั้น ในการเข้ารับการตรวจจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของแผนการตรวจสุขภาพ ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและแพ็คเกจต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป เราสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพของตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพรอบด้านที่ดีแม้เข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุนั่นเอง
เริ่มต้นดูแลรักษาสุขภาพด้วย ‘วิธีดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน’
การดูแลสุขภาพของตัวเองให้มีความแข็งแรง ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ในระยะยาวนั้น เราควรให้ความสำคัญตั้งแต่พื้นฐานของการดำเนินชีวิตที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้มีความแข็งแรง สมบูรณ์ ซึ่งการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองเบื้องต้นนั้น จะต้องให้ความสำคัญกับเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ 3 ด้าน ได้แก่
การรับประทานอาหารที่ดี
การออกกำลังกายที่เหมาะสม
การดูแลสภาวะทางอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ
ซึ่งทั้ง 3 ด้านของวิธีการดูแลสุขภาพเบื้องต้นจะมีรายละเอียดและข้อปฏิบัติอย่างไรบ้าง ทาง hhc Thailand ได้รวบรวมไว้ให้ทุกคนแล้ว
1. การรับประทานอาหารที่ดี
รู้หรือไม่? พฤติกรรมการรับประทานอาหารเป็นสาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดโรคที่ไม่ติดต่อหรือโรค NCDs อย่างโรคความดันโลหิตสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกรดไหลย้อน เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น ระบบการกรองของเสียหรือระบบการกำจัดของเสียภายในร่างกายก็จะเริ่มมีประสิทธิภาพที่ลดลง หากทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ก็จะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคร้ายกับร่างกายของเรา
ดังนั้น เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในระยะยาว เราควรเริ่มต้นดูแลสุขภาพของตนเองด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรค ตามหลักการในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ดังนี้
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ
- เน้นการทานอาหารที่มีกากใยหรือไฟเบอร์สูง
- เลี่ยงการทานอาหารหวาน มัน เค็ม
- เลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันทรานส์
- เลี่ยงการทานของทอดและอาหารปิ้งย่าง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละประมาณ 6-8 แก้ว
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มรสหวาน
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการรับประทานอาหารเสี่ยงโรคต่าง ๆ จะช่วยส่งเสริมให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่ไม่ติดต่อต่าง ๆ ได้อีกด้วย
2. การออกกำลังกายที่เหมาะสม
เมื่อเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์และปฏิบัติตามหลักการรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง เพื่อการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธีแล้ว วิธีดูแลสุขภาพในข้อต่อมานั่นคือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเหมาะสม พอดีกับวัย เพื่อส่งเสริมให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงในระยะยาว
โดยเราต้องออกกำลังกายอย่างมีวินัย เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 นาทีต่อวันและประมาณ 3-5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อสร้างเกราะป้องกันโรคร้ายและช่วยให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เราควรดื่มน้ำสะอาดทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกายให้เพียงพอกับปริมาณของน้ำที่เสียไปในระหว่างการออกกำลังกาย เพื่อรักษาสมดุลของน้ำภายในร่างกายของเรานั่นเอง
ประโยชน์ของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
ทำให้หัวใจ กล้ามเนื้อ และปอด ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
ทำให้การไหลเวียนของโลหิตในร่างกายดีขึ้น
ช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
ทำให้เกิดการหลั่งสารแห่งความสุข ลดความเครียด เพิ่มความผ่อนคลาย
ช่วยในการพักผ่อน ทำให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น
ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส ใีสุขภาพผิวที่ดี
การออกกำลังกายให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย
เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นวิธีการดูแลสุขภาพที่เกิดประโยชน์สูงสุด เราควรออกกำลังกายให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเรา ซึ่งสามารถทำได้ ดังนี้
ช่วงวัย | การออกกำลังกายที่เหมาะสม |
วัยเด็ก | ในช่วงวัยนี้เป็นวัยที่อยู่ในช่วงของการเจริญเติบโตและมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ การออกกำลังกายจึงควรเน้นที่ความสนุกสนานและความปลอดภัย โดยเลือกกีฬาที่ได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน ช่วยในเรื่องของการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว และช่วยฝึกสมาธิได้เป็นอย่างดี กีฬาหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสม ฟุตบอล |
วัยรุ่น | ในช่วงวัยรุ่น คือช่วงที่เหมาะสมกับการสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย เนื่องจากอยู่ในช่วงที่มีอัตราของการเผาผลาญที่ดี และชื่นชอบการออกกำลังกายที่มีความท้าทายหรือการแข่งขัน กีฬาหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสม กีฬาทุกรูปแบบ เช่น ฟุตบอล แบตมินตัน บาสเกตบอล เป็นต้น |
วัยทำงานหรือวัยกลางคน | ในช่วงวัยนี้เป็นวัยที่เหมาะสมกับวิธีดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายที่ไม่หนักจนเกินไป เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มมีความเหนื่อยล้า ทั้งกล้ามเนื้อ กระดูก และระบบการเผาผลาญเริ่มมีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดน้อยลง กีฬาหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสม ปั่นจักรยาน |
วัยสูงอายุ | เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุเราควรดูแลสุขภาพโดยการหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่หักโหม ควรเลือกออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยท่าทางการเคลื่อนไหวที่ง่าย ๆ เพิ่มความผ่อนคลายให้กับกล้ามเนื้อ ร่างกาย และจิตใจ กีฬาหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสม เดินออกกำลังกาย |
3. การดูแลสภาวะทางอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ
นอกจากการรับประทานอาหารและการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การใส่ใจดูแลจิตใจให้มีอารมณ์ที่แจ่มใสก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยเราเริ่มต้นดูแลสุขภาพทางใจได้ง่าย ๆ ด้วยการคิดบวก มองโลกในแง่ดี มองหามุมมองใหม่ ๆ ในการแก้ไขปัญหาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ เรายังสามารถปฏิบัติตามเคล็ดลับการดูแลสภาวะทางอารมณ์ ดังนี้
พักผ่อนให้เพียงพอ เหมาะสมตามช่วงวัย
การพักผ่อนให้เพียงพอเป็นวิธีการดูแลสุขภาพที่สามารถเริ่มได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง โดยการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยส่งเสริมสภาวะทางอารมณ์ให้เรามีจิตใจที่แจ่มใส และมีความสุขมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ เสริมสร้างความจำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้อีกด้วย
และนอกจากการเสริมสร้างสภาวะทางอารมณ์และการทำงานของสมอง การพักผ่อนให้เพียงพอยังเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย รวมถึงช่วยให้เราผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส มีความอ่อนวัยอยู่เสมอ
ข้อเสียของการนอนหลับไม่เพียงพอ
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
- ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดน้อยลง
- รู้สึกอ่อนเพลีย ง่วงซึมตลอดทั้งวัน
- ฮอร์โมนสืบพันธ์ุหลั่งออกมาน้อยลง
- กระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารจำพวกไขมันและคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป
- เป็นต้นเหตุของโรคต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคทางระบบย่อยอาหาร เป็นต้น
ตารางการนอนหลับพักผ่อนของแต่ละช่วงวัยเพื่อการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี
ตารางการนอนหลับพักผ่อนของแต่ละช่วงวัย | |
ช่วงอายุ | ระยะเวลาที่ควรนอนหลับ |
อายุ 0 – 3 เดือน | 14 – 17 ชั่วโมง |
อายุ 4 – 11 เดือน | 12 – 15 ชั่วโมง |
อายุ 1 – 2 ปี | 11 – 14 ชั่วโมง |
อายุ 3 – 5 ปี | 10 – 13 ชั่วโมง |
อายุ 6 – 13 ปี | 9 – 11 ชั่วโมง |
อายุ 14 – 17 ปี | 8 – 10 ชั่วโมง |
อายุ 18 – 25 ปี | 7 – 9 ชั่วโมง |
อายุ 26 – 64 ปี | 7 – 9 ชั่วโมง |
อายุ 65 ปี เป็นต้นไป | 7 – 8 ชั่วโมง |
ฝึกสติและสมาธิ
การฝึกสมาธิ เป็นหนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพที่ช่วยให้เรารู้เท่าทันอารมณ์และสามารถรับมือกับสภาวะทางอารมณ์ของตัวเองได้ดี ส่งผลให้ผู้ที่ฝึกสมาธิเป็นคนที่มีใจเป็นสุข มีความใจเย็น มองโลกในแง่ดี มีความสุขกับสิ่งรอบตัวได้ง่าย มีจิตใจที่แจ่มใส คิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล รวมถึงตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ ด้วยเหตุนี้การฝึกสติและสมาธิจึงเป็นวิธีบำบัดความเครียดรวมถึงวิธีการดูแลสุขภาพทางอารมณ์ที่ดีและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
ประโยชน์ของการฝึกสติและสมาธิ
นอกจากการฝึกสมาธิจะช่วยให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ของเราและสามารถรับมือกับสภาวะทางอารมณ์ได้ดีแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนี้
- ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ
- ส่งเสริมบุคลิกภาพ ท่าทางการคิด การพูด และการแสดงออก
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง
- ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ
ใช้เวลาสร้างความสุขกับคนรอบข้างหรือคนในครอบครัว
เคล็ดลับการดูแลสุขภาพทางอารมณ์ที่จะช่วยให้ทั้งตัวคุณเองและคนรอบข้างมีสภาวะทางอารณ์ที่ดีขึ้น นั่นก็คือการใช้เวลาเพื่อสร้างความสุขกับคนรอบข้างหรือคนในครอบครัวโดยการมอบความห่วงใยให้แก่กันและกัน หาเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความสุข รอบยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับตัวเราเอง คนรอบข้างหรือคนในครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น
หากิจกรรมที่เพลิดเพลิน สนุกสนาน เพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความสุข ความเพลิดเพลิน และสภาวะทางอารมณ์ที่ดี เราจึงควรมองหากิจกรรมที่มีความสนุกสนานเพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ให้สมองได้หลั่งสารแห่งความสุขเพื่อส่งเสริมสภาวะทางอารมณ์ให้ดียิ่งขึ้น
โดยตัวอย่างของกิจกรรมที่มีความเพลิดเพลินเพื่อสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ รวมถึงเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ช่วยส่งเสริมช่วงเวลาแห่งความสุขนั้น ได้แก่
- การเล่นกีฬา ออกกำลังกาย
- การวาดรูป ระบายสี สร้างผลงานศิลปะ
- การรับชมภาพยนตร์ ซีรีย์ หรือรายการโทรทัศน์
- การฟังเพลง
- การทำอาหารหรือทำขนม
- การปลูกต้นไม้ ทำสวน
ค้นหาแรงบันดาลใจที่ดี
การดูแลสุขภาพเพื่อส่งเสริมสภาวะทางอารมณ์ที่ดีที่หลายคนมักมองข้ามไป นั่นคือการค้นหาแรงบันดาลใจดี ๆ ที่จะช่วยผลักดันและเป็นแรงกระตุ้นให้เรามีความมุ่งมั่นในการทำสิ่งต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น รวมถึงยังเป็นวิธีที่ช่วยจุดประกายไอเดียและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับเราได้อีกด้วย
โดยการค้นหาแรงบันดาลใจที่ดีจะช่วยให้เราได้เห็นถึงมุมมองในการดำเนินชีวิตที่หลากหลายและนิยามของความสุขในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ทำให้เราได้เรียนรู้ เข้าใจในเหตุผลของการดำเนินชีวิต รวมถึงเป็นแนวทางที่ทำให้เราได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในรูปแบบของตัวเราเอง
ตัวอย่างวิธีการค้นหาแรงบันดาลใจที่ดี
- มองหาแรงบันดาลใจจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
- เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ และสังคมใหม่ ๆ
- รับฟังเรื่องราวของผู้คนรอบข้าง
- มองหาไอเดียและแรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือ ดูหนัง และฟังเพลง
โรคที่ไม่แสดงอาการ รับมือได้ด้วยการตรวจสุขภาพพื้นฐาน
ถึงแม้ว่าอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นมักจะแสดงอาการที่เป็นสัญญาณเตือนให้เราได้รู้เท่าทันอยู่เสมอ แต่ในบางครั้งโรคร้ายอาจมาในรูปแบบของภัยเงียบที่ไม่แสดงอาการ เมื่อรู้ตัวอีกทีก็เข้าสู่ระดับขั้นเป็นโรคที่มีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เราจึงควรดูแลสุขภาพของตนเองร่วมกับการเข้ารับการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเป็นประจำ เพื่อทำการวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้น
ประโยชน์ของการตรวจสุขภาพคือเราจะสามารถตรวจพบโรคต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ยังไม่แสดงอาการ เพื่อเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อย่างเหมาะสม เป็นการรับมือกับโรคร้ายไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรือมีอาการรุนแรง รวมถึงเป็นการติดตามเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพ ทำให้เราได้รู้ถึงความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ของการเป็นโรคร้าย เพื่อเริ่มต้นการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างถูกวิธี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมถึงหาแนวทางป้องกันก่อนที่จะสายเกินไป
โดยการตรวจสุขภาพนั้นควรเริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป (ยกเว้นในกรณีที่มีความสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงในการเกิดโรค ก็สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพได้ทันที) ซึ่งในแต่ละช่วงวัยจะมีการให้ความสำคัญกับรายการในการตรวจสุขภาพที่แตกต่างกันไปตามความเสี่ยงและอัตราของการเกิดโรคในช่วงวัยนั้น ๆ และในส่วนนี้ hhc Thailand ขอยกตัวอย่างการตรวจสุขภาพของวัยผู้สูงอายุ ว่ามีโรคใดบ้างที่ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างเจาะลึก ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
ผู้สูงอายุกับความถี่ของการตรวจสุขภาพแบบเจาะลึก
วัยสูงอายุคือวัยที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้มากกว่าช่วงวัยอื่น ๆ เนื่องจากระบบการทำงานของร่างกายที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีความเสื่อมถอย และอ่อนแอลง ทำให้หากไม่มีวิธีการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดโรคร้ายขึ้นในช่วงวัยนี้ได้ง่าย
โรคที่มักพบบ่อยในวัยสูงอายุนี้ ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคข้อเข่าเสื่อม โรคไต โรคความดันโลหิตสูง และโรคอัลไซเมอร์ ในช่วงวัยนี้จึงเป็นอีกหนึ่งช่วงวัยที่ควรหมั่นเข้ารับการตรวจสุขภาพ เพื่อให้สุขภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและเป็นการรับมือกับโรคร้ายต่าง ๆ ให้หายได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้นนั่นเอง โดยผู้สูงอายุสามารถตรวจสุขภาพในด้านต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น
ตรวจสุขภาพตา
การตรวจสุขภาพตาเป็นการตรวจเพื่อคัดกรองโรคทางตาที่มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุเพื่อการดูแลสุขภาพตาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งโรคทางตาที่มักพบบ่อยในวัยนี้ ได้แก่ โรคต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม และภาวะสายตายาว
คำแนะนำในการตรวจสุขภาพตา
อายุ 60 – 64 ปีควรตรวจตาทุก ๆ 2 – 4 ปี
อายุ 65 ปีขึ้นไป ควรตรวจตาทุก ๆ 1 – 2 ปี
ตรวจสุขภาพหู
วัยสูงอายุมักจะมาพร้อมกับอาการความผิดปกติทางการได้ยิน ในการตรวจนี้จึงเป็นการตรวจสมรรถภาพทางการได้ยิน เพื่อคัดกรองผู้สูงอายุว่ามีปัญหาทางด้านทางการได้ยินหรือไม่ ทั้งอาการหูหนวก หูตึง หรือภาวะประสาทหูเสื่อม
ตรวจสุขภาพจิต
การตรวจสุขภาพจิตเป็นการตรวจสภาวะทางอารมณ์และสภาวะทางจิตใจของผู้สูงอายุ โดยครอบคลุมทั้งการประเมินอาการทางจิตเวชต่าง ๆ รวมไปจนถึงอาการที่พบได้บ่อยอย่างภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุนั่นเอง
ตรวจผิวหนัง
เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุมีอาการทางผิวหนัง จึงควรตรวจคัดกรองโรคมะเร็งผิวหนัง ภาวะผิวหนังแห้ง และเชื้อราที่ผิวหนัง ซึ่งหากผู้สูงอายุป่วยเป็นโรคเบาหวานจะต้องมีการตรวจในส่วนนี้เป็นพิเศษ
ตรวจสุขภาพช่องปาก เหงือก และฟัน
การตรวจสุขภาพทางช่องปาก เป็นการตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันและเหงือก เช่น อาการฟันผุ เหงือกอักเสบ และปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุอย่างปัญหาในการบดเคี้ยวอาหาร เพื่อรับมือกับอาการเหล่านี้ได้อย่างทันท่วงที
ตรวจเต้านม (สำหรับผู้หญิง)
การตรวจสุขภาพของเต้านมเป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นการตรวจหาก้อนเนื้อเพื่อนำไปตรวจวินิจฉัยหาความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เลือกใช้วิธีดูแลสุขภาพที่เหมาะสมเพื่อการรักษาอย่างทันท่วงที หากมีความผิดปกติหรือมีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น
คำแนะนำในการตรวจเต้านม
อายุ 60 – 69 ปีควรตรวจมะเร็งปากมดลูกทุก ๆ 3 ปี
อายุ 70 ปีขึ้นไป ตรวจได้ตามความเหมาะสม
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (สำหรับผู้หญิง)
การตรวจสุขภาพเพื่อจะคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (สำหรับผู้หญิง) เป็นอีกหนึ่งโรคที่ควรตรวจเพื่อคัดกรองอยู่เสมอแม้จะอยู่ในวัยสูงอายุ เนื่องจากเป็นโรคมะเร็งที่พบบ่อยในผู้สูงอายุที่เป็นเพศหญิง
คำแนะนำในการตรวจมะเร็งปากมดลูก
อายุ 60 – 64 ปีควรตรวจมะเร็งปากมดลูกทุก ๆ 3 ปี
อายุ 65 ปีขึ้นไป ตรวจได้ตามความเหมาะสม
ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เป็นการตรวจเพื่อหาความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว รวมถึงเกล็ดเลือด เพื่อวิเคราะห์สุขภาพโดยรวมของผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในเรื่องของโรคโลหิตจาง การติดเชื้อในกระแสเลือด และมะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น
คำแนะนำในการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
อายุ 70 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจทุกปี
ตรวจระดับไขมันในเลือด
การตรวจระดับไขมันในเลือด เป็นการตรวจเพื่อวัดระดับไขมันในเลือดว่าอยู่ในเกณฑ์ผิดปกติหรือไม่ เพื่อทำการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และมีการวางแผนวิธีการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม หากมีค่าระดับไขมันในเส้นเลือดมากกว่าปกติ
คำแนะนำในการตรวจระดับไขมันในเลือด
ผู้สูงอายุควรตรวจทุก ๆ 5 ปี
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของการตรวจสุขภาพในวัยสูงอายุเพียงเท่านั้น ในการเข้ารับการตรวจจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของแผนการตรวจสุขภาพ ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและแพ็คเกจต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป เราสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพของตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพรอบด้านที่ดีแม้เข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุนั่นเอง
เช็คลิสต์เบื้องต้น คุณกำลังมีพฤติกรรมเสี่ยงโรคร้ายอยู่หรือเปล่า?
เช็คลิสต์เบื้องต้น คุณกำลังมีพฤติกรรมเสี่ยงโรคร้ายอยู่หรือเปล่า? | |
ทานอาหารหวาน มัน เค็ม และของทอดมากเกินไป | |
มีพฤติกรรมนอนดึก นอนเช้า หรือนอนน้อย | |
ตนเองหรือคนใกล้ตัวสูบบุหรี่ | |
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่เสมอ | |
ใช้สารเสพติด | |
มีภาวะความเครียดเป็นประจำ | |
ขาดการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม |
หากคุณกำลังมีพฤติกรรมเหล่านี้ ควรมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และเริ่มดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างถูกวิธี ผ่านการติดตามบทความ Health จาก hhc Thailand ที่รวบรวมทุกสาระสุขภาพและเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคร้าย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ทั้งกับตัวคุณเองและคนรอบข้างในสังคม
สุขภาพแข็งแรง บอกลาโรคร้าย ในทุกช่วงวัย กับ hhc Thailand
เพราะการปราศจากโรคภัย คือพื้นฐานของความสุขในชีวิต’
รวมวิธีดูแลสุขภาพในทุกช่วงวัย ทั้งวิธีดูแลสุขภาพให้ห่างไกลโรคร้าย การรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ รวมถึงเคล็ดลับที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพของตัวเองและคนรอบข้าง ให้คุณได้รู้ถึงวิธีการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและมีความสุขในทุกช่วงเวลาของการดำเนินชีวิต
ดูแลสุขภาพของตัวเองและส่งต่อความห่วงใยให้คนรอบข้าง
‘เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าที่เคย’
ผ่านบทความ Health จาก hhc Thailand
————————————–