ถ้าคุณคืออีกคนหนึ่งที่เป็น ‘สายสุขภาพ’ เราเชื่อว่านอกจากคุณจะพิถีพิถันกับการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ก็ย่อมต้องอยากได้อาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบที่สะอาดปลอดภัย อย่าง ผักผลไม้อินทรีย์ (organic) ไข่ไก่ที่ได้จากแม่ไก่ที่เลี้ยงปล่อยอิสระ และเนื้อสัตว์ที่ปลอดยาปฏิชีวนะ ฯลฯ หรือบางเวลาที่เหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะลุกขึ้นมาหุงหาเอง ก็อยากจะได้อาหารปรุงสดใหม่ที่ถูกสุขลักษณะ ขณะเดียวกันก็ต้องอร่อยและปรุงรสอย่างพอดีไม่จัดจ้านจนอาจก่อให้เกิดโรคภัย
แต่… ปัญหาคือ แล้วเราจะไปหาวัตถุดิบและอาหารเหล่านั้นมาจากไหนกัน? โดยเฉพาะสำหรับคนกรุงเทพฯ ที่ห่างไกลจากแหล่งผลิตอาหารอินทรีย์เหลือเกิน
เราเชื่อว่าหลายคนประสบปัญหานี้ วันนี้ hhc Thailand จึงมีหนึ่งบริการมาแนะนำ นั่นคือ ‘สุขทุกคำ’ ที่บอกได้เลยว่าไม่ใช่แค่สายสุขภาพเท่านั้นที่จะถูกใจ แต่สายกรีนจะต้องร้องว้าวอีกด้วย
‘สุขทุกคำ’ บริการด้านอาหารอินทรีย์รักษ์โลกแบบครบวงจร
เป็นเรื่องยากอยู่เล็กน้อยที่จะนิยามว่าบริการของสุขทุกคำนั้นคืออะไรกันแน่ เพราะบริการที่พวกเขามีให้นั้นครอบคลุมตั้งแต่เดลิเวอรีของสดและวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร จัดส่งอาหารปิ่นโตรายวัน ไปจนถึงบริการจัดเลี้ยง ฯลฯ
แต่ไม่ว่าจะเป็นบริการในด้านไหนก็ตาม หัวใจสำคัญที่สุดที่สุขทุกคำเน้นย้ำเป็นอันดับหนึ่ง คือ อาหารอินทรีย์ที่สะอาดปลอดภัยและแพ็กเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เรามาดูกันค่ะว่าบริการของสุขทุกคำมีอะไรบ้าง
เดลิเวอรีของสด
บริการอย่างแรกก็เหมือนตลาดสดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่ถ้าแปะยี่ห้อ ‘สุขทุกคำ’ เมื่อไร ของสดที่ว่าจะต้องเป็นผักผลไม้และไข่ไก่ไข่เป็ดอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากสมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืน เนื้อสัตว์จากฟาร์มที่เลี้ยงสัตว์โดยปลอดสารพิษและยาปฏิชีวนะ และเนื้อปลาสดใหม่ที่ได้จากการทำประมงแบบพื้นบ้าน ปลอดสารฟอร์มาลีน เป็นต้น โดยวัตถุดิบเหล่านี้กระจายตัวกันอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย ตั้งแต่เหนือใต้ออกตก ซึ่งถ้าเราต้องไปสรรหาเองก็คงจะยุ่งยากมากๆ แต่สุขทุกคำอาสาทำหน้าที่ออกไปเสาะหาสินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ตั้งไว้มารวบรวมไว้ในรายการเดลิเวอรีและจัดส่งให้คุณถึงบ้าน
ความพิเศษอีกอย่างของเดลิเวอรีสไตล์สุขทุกคำคือ ในการบรรจุหีบห่อเพื่อจัดส่ง สุขทุกคำจะพยายามใช้พลาสติกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งใช้แพ็กเกจจิ้งที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น ตะกร้าสานที่มีฝาปิด ถาดใส่ไข่ทำจากกระดาษ ที่ล้วนถูกนำส่งคืนมายังสุขทุกคำเพื่อใช้บรรจุของสดอีกครั้งในวันต่อๆ ไป ส่วนผักส่วนมากจะใช้ใบตองห่อและมัดด้วยเชือกกล้วย ซึ่งนอกจากจะเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติแล้ว สุขทุกคำยังบอกอีกว่า ผักผลไม้ที่ห่อด้วยใบตองสามารถนำไปแช่ในตู้เย็นได้เลย แถมยังเก็บได้นานอีกด้วย
เรียกว่านอกจากจะได้ของสดที่สะอาดปลอดภัยแล้ว ก็ยังบอกลาประสบการณ์เดลิเวอรีแบบเดิมๆ ที่ก่อให้เกิดขยะพลาสติกมากมายไปได้เลย
ผูกปิ่นโต
หลายครอบครัวในกรุงเทพฯ เลือกใช้บริการผูกปิ่นโตกับร้านอาหารหรือไม่ก็สั่งอาหารเดลิเวอรีผ่านแอปฯ เพราะช่วยประหยัดเวลาและความยุ่งยากในการประกอบอาหาร แต่หลายครั้ง เรากลับพบว่าเราไม่รู้เลยว่าอาหารที่เรากินทุกวันนั้นมีแหล่งที่มาจากไหนและปรุงรสด้วยอะไรบ้าง พูดง่ายๆ ก็คือ อาหารที่มีรสชาติอร่อยถูกปากเรานั้น บางทีอาจผ่านกรรมวิธีและการปรุงรสที่ส่งผลต่อเสียต่อสุขภาพของเราก็เป็นได้ถ้าต้องกินเป็นประจำทุกวัน
สุขทุกคำน่าจะเข้าใจความกังวลและความต้องการนี้ของผู้บริโภค พวกเขาจึงมีบริการผูกปิ่นโตส่งอาหารให้ถึงบ้านทุกวัน โดยเมนูอาหารทุกอย่างล้วนทำมาจากวัตถุดิบแบบอินทรีย์และปรุงรสอย่างพอดีด้วยเครื่องปรุงส่วนมากที่ทางร้านทำขึ้นเอง นอกจากนั้น สุขทุกคำยังมีบริการอาหารปิ่นโตสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยบางโรค โดยมีนักโภชนาการมาคอยควบคุม เช่น ผู้ป่วยโรคไตที่ต้องควบคุมปริมาณโซเดียม เป็นต้น
อาหารทุกรายการจะบรรจุในปิ่นโตที่ช่วยเก็บอุณหภูมิ ไม่หกเลอะเทอะ และนำกลับมาล้างเพื่อใช้ซ้ำได้ โดยแต่ละบ้านจะใช้ปิ่นโตชุดเดิม (ทางร้านจะเตรียมไว้ให้สองชุดเพื่อใช้สลับ) ไม่มีการใช้ปะปนกันระหว่างบ้านอื่น แต่สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกล้างเพื่อส่งคืนปิ่นโต ทางร้านก็จะเลือกใช้แพ็กเกจจิ้งที่เป็นกระดาษให้ แต่จริงๆ แล้ว ถึงกระดาษจะย่อยสลายได้ ก็ยังถือเป็นการเพิ่มปริมาณขยะให้กับบ่อฝังกลบ (landfill) อยู่ดี เราก็เลยอยากแนะนำว่า ไหนๆ ผู้ประกอบการก็มีความตั้งใจดีที่จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว พวกเราในฐานะผู้บริโภคก็ยอมเสียเวลาล้างปิ่นโตสักนิดเถอะค่ะ แล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้นเยอะเลยที่มีส่วนช่วยลดขยะให้กับโลกของเรา
จัดเลี้ยง
บริการจัดเลี้ยงของสุขทุกคำมีตั้งแต่ บุฟเฟต์ เลี้ยงเพล ทำบุญเลี้ยงพระ ไปจนถึงข้าวกล่อง ซึ่งก็ยังใช้แพ็กเกจจิ้งแบบรักษ์โลกเช่นเดียวกับในสองบริการก่อนหน้า เมื่อใช้บริการจัดเลี้ยงของสุขทุกคำ เราจึงยังได้กิมมิคน่ารักๆ ของข้าวเหนียวหมูสามชั้น (plant-based) ที่ห่ออย่างสวยงามในใบตองและมัดด้วยเชือกกล้วย หรือถ้าเป็นบุฟเฟต์ ทางร้านก็จะใช้การตกแต่งแบบไทยๆ คือ ใช้หม้อดิน ชั้นหวาย ขันโตก กระทง ฯลฯ ที่นอกจากจะได้ฟีลแบบธรรมชาติแล้ว ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่มีเสน่ห์ และที่เราต้องขอปรบมือให้ดังๆ ด้วยความชื่นชม คือ สุขทุกคำยังจัดเตรียมถังขยะที่แยกเศษอาหารและบรรจุภัณฑ์ไปใช้ในการจัดเลี้ยงแต่ละครั้งด้วย โดยทีมงานจะคอยคัดแยกขยะ และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจจัดเลี้ยง ลุงวิทยา จาก สวนป่ามะพร้าวลุงวิท จะมารับเศษอาหารเหล่านั้นเพื่อไปหมักเป็นปุ๋ย (composting) ซึ่งนับว่าเป็นการช่วยลดขยะอาหาร (foodwaste) ที่เป็นหนึ่งสาเหตุหลักของการเพิ่มก๊าซเรือนกระจกให้โลก
Sustainable Diet ของ ‘สุขทุกคำ’ ทำให้เรา สุขทั้งคน สุขทั้งสิ่งแวดล้อม
หัวใจของสุขทุกคำที่เน้นเรื่องอาหารอินทรีย์ ปลอดจากยาปฏิชีวนะและสารพิษ รวมทั้งการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตรงกับคอนเซ็ปต์ของ Sustainable Diet เทรนด์การกินอาหารที่เหมาะสมเป็นอย่างมากกับสถานการณ์โลกร้อนในปัจจุบัน โดย Sustainable Diet หมายถึงการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา ในขณะเดียวกันก็เป็นอาหารและกระบวนการที่ไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอย่างที่ hhc Thailand ย้ำมาตลอดว่า หากคุณรักสุขภาพ คุณก็ควรต้องรักและดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันด้วย เพราะเราจะไม่สามารถมีสุขภาพที่ดีได้เลย หากอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรม
อ่านเรื่องราวของ ‘สุขทุกคำ’ มาจนถึงตอนนี้แล้ว เริ่มอยากลองใช้บริการบ้างแล้วหรือยังคะ? วิธีการสั่งซื้อสินค้าและบริการของสุขทุกคำก็ไม่ยากเลย เราแนะนำให้เข้าเว็บไซต์ไปที่ sooktookkum.com เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและดูวิธีการสั่งสินค้าออนไลน์กันได้เลย หรือถ้าใครสะดวกโทรฯ ลองโทรศัพท์ไปที่ 086-332-8366 ซึ่งเรา hhc Thailand (ที่เบื่อแพ็กเกจจิ้งที่เต็มไปด้วยพลาสติกจากการซื้อของตามร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตเต็มทีแล้ว) ก็ว่าจะขอเป็นลูกค้าคนหนึ่งของสุขทุกคำกันบ้างเหมือนกันค่ะ
ส่วนสำหรับผู้ประกอบการท่านอื่นๆ เราก็หวังว่าเรื่องราวของ ‘สุขทุกคำ’ จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณลุกขึ้นมาลดการใช้แพ็กเกจจิ้งที่เป็นพลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง (single-used plastic) ที่จะทำไปสู่ปัญหาขยะพลาสติกและไมโครพลาสติก (microplastic) กันบ้าง เพราะมันคงจะเป็นเรื่องดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของเรามาก หากในอนาคตเราจะมีผู้ประกอบการที่ตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
–