เคล็ดลับประหยัดน้ำแบบมือโปร แบ่งตามโซนการใช้งานในบ้าน

Care

อากาศเมืองไทยที่เหมือนหน้าร้อนตลอดปีอย่างนี้ ไม่ใช่แค่ค่าไฟที่พุ่งกระฉูด แต่ค่าน้ำของหลายบ้านก็ทะยานขึ้นเหมือนกัน เพราะยิ่งร้อนเราก็ยิ่งอาบน้ำบ่อย พอฝนไม่ตกก็ต้องรดน้ำต้นไม้ทุกวัน และไหนจะงานบ้านอีกจิปาถะที่ต้องใช้น้ำทำความสะอาดอีก

ถึงค่าน้ำของครัวเรือนส่วนมากจะอยู่ที่หลักร้อย ไม่ใช่หลักพันหรือหลักหมื่นแบบค่าไฟ แต่ยุคนี้ อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด ที่สำคัญ หากประหยัดการใช้น้ำได้ก็ยังเป็นการช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

hhc Thailand อยากช่วยคุณเซฟเงินในกระเป๋า พร้อมๆ ไปกับรักษาสิ่งแวดล้อม เราจึงมีวิธีประหยัดน้ำในชีวิตประจำวันมาแนะนำกัน โดยเราจะแบ่งเป็นการใช้งานตามส่วนต่างๆ ของบ้านเพื่อให้คุณอ่านง่ายๆ และนำไปเลือกปรับใช้ได้เลย

1. ห้องน้ำ

นอกจากวิธีประหยัดน้ำขั้นพื้นฐานที่เรารู้กันอยู่แล้ว เช่น ปิดก๊อกระหว่างแปรงฟัน สระผม ถูสบู่ ฯลฯ ก็ยังมีวิธีแบบมือโปรที่ช่วยประหยัดน้ำได้ดีอีกด้วย

– เลือกฝักบัวแบบประหยัดน้ำ (Eco Shower)

ฝักบัวที่ดีคือฝักบัวที่มีแรงดันน้ำเหมาะสมและสามารถกระจายน้ำได้ทั่วถึง เพราะหากฝักบัวกระจายน้ำได้ไม่ดี มีแรงดันน้ำต่ำไป หรือน้ำเป็นฝอยบางเกินไป คุณก็จะยิ่งใช้เวลาในการล้างแชมพูหรือสบู่ออกจากผมและตัวนานขึ้น ซึ่งก็จะยิ่งเปลืองน้ำมากขึ้นเช่นกัน 

ถ้าจะให้ดีที่สุด ลองมองหาฝักบัวแบบ Eco ที่สามารถปรับแรงดันน้ำได้หลายระดับตามการใช้งาน เพราะจะช่วยลดปริมาณน้ำได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับฝักบัวทั่วไปเลยทีเดียว

– ลดพื้นที่กักน้ำในถังเก็บน้ำชักโครก

อย่างแรก เลิกใช้ชักโครกเป็นถังขยะก่อนนะคะ ไม่ใช่เอะอะก็โยนโน่นโยนนี่ลงชักโครกแล้วกดน้ำ เพราะนอกจากจะเปลืองน้ำแล้ว ยังอาจทำให้ส้วมอุดตันด้วย ส่วนใครอยากประหยัดน้ำมากกว่านั้น ให้ลองเอาขวดพลาสติกใส่น้ำ หรือ ก้อนอิฐขนาดกำลังดี นำไปวางในถังเก็บน้ำชักโครกโดยไม่ให้ขวางทางน้ำไหลเข้า-ออก วิธีนี้จะเป็นการลดพื้นที่สำหรับกักเก็บน้ำ อย่างสมมติ ถ้าเอาขวดน้ำขนาด 500 มล. เข้าไปวางในถังเก็บน้ำชักโครก 3 ขวด ก็จะประหยัดน้ำต่อการกดชักโครกแต่ละครั้งไป 1.5 ลิตร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อวางขวดน้ำหรือก้อนอิฐแล้ว ควรทดลองกดชักโครกก่อนว่าน้ำเพียงพอต่อการชำระล้างหรือไม่

2. สวน

ช่วงที่อากาศร้อนหรือแล้ง  หลายคนจึงต้องรดน้ำต้นไม้บ่อยกว่าปกติ ค่าน้ำก็เลยแพงขึ้นมาเกือบเท่าตัว ใครอยากเลี้ยงต้นไม้ให้งามด้วย ประหยัดน้ำด้วย ลองดูวิธีเหล่านี้กันค่ะ 

– เลือกเวลารดน้ำต้นไม้ให้ถูก

เวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ ช่วงเช้าตรู่และช่วงเย็นหลังแดดหมด เมื่อเรารดน้ำต้นไม้ในช่วงเวลานี้ น้ำจะยังคงชุ่มดินได้นาน ไม่ระเหยไปเร็วเหมือนการรดน้ำตอนกลางวันที่ยังมีแดดและความร้อนอยู่

อ้อ… ยังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย คือถ้าบ้านไหนปลูกไม้ขนาดกลาง-ใหญ่ลงดิน คุณอาจรดน้ำแค่วันเว้นวันก็ได้ เพราะรากของต้นไม้จะชอนไชไปหาแหล่งน้ำใต้ดินได้ ส่วนไม้ชอบน้ำที่ปลูกในกระถางนั้น อาจจำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน แต่หากโรยหน้าดินด้วยกาบมะพร้าวสับหรือฟาง ก็จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น

– งดใช้สปริงเกอร์ 

สปริงเกอร์ที่หมุนไปเรื่อยๆ เป็นครึ่งค่อนชั่วโมงจะทำให้เปลืองน้ำมาก แถมยังอาจรดได้ไม่ถูกจุดเหมือนกับการใช้สายยาง แต่ทางที่ดีที่สุด หากสวนของคุณพื้นที่ไม่มากและต้นไม้ส่วนมากเป็นไม้กระถาง เราแนะนำให้ใช้บัวรดน้ำ เพราะเป็นวิธีที่ประหยัดน้ำได้มากที่สุด แถมยังได้ออกกำลังกาย ไม่ทำให้ดินกระเด็นเลอะเทอะ และสามารถนำเอาน้ำเหลือใช้จากการล้างผักมาใช้ได้อีกด้วย ประหยัดได้สุดๆ เลย

– แต่งสวนแบบผสมผสานดีกว่าสนามหญ้าโล่งๆ

บอกเลยค่ะว่านาทีนี้ สนามหญ้าสีเขียวโล่งๆ นั้น ตกยุคไปแล้วเรียบร้อย เพราะต้องใช้น้ำมากในการดูแลรักษา แถมยังไม่เอื้อต่อการเกิดระบบนิเวศที่ดีอีกต่างหาก ดังนั้นหากบ้านของคุณพอจะมีพื้นที่ เราแนะนำให้ปลูกต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา ผสมผสานกับไม้ขนาดกลางและเล็กหลากหลายสายพันธุ์ หรือทำสวนแบบเพอร์มาคัลเจอร์ (Permaculture) เพื่อให้ต้นไม้ดูแลกันเอง รักษาความชุ่มชื้นของดิน ก็จะเป็นการประหยัดน้ำและช่วยก่อให้เกิดระบบนิเวศที่สมบูรณ์อีกด้วย

– ติดตั้งรางน้ำฝน

จริงๆ เกือบทุกบ้านน่าจะมีรางน้ำฝนอยู่แล้ว แต่เรามักปล่อยให้น้ำฝนที่ไหลลงมา ถูกเททิ้งออกนอกบ้านไปเปล่าๆ แนะนำให้ลองหาโอ่ง ตุ่ม หรือภาชนะอื่นๆ มารองน้ำเพื่อเก็บไว้ใช้รดน้ำต้นไม้ดูค่ะ จะช่วยประหยัดทรัพยากรน้ำได้ดีทีเดียว

3. ครัว/ห้องซักล้าง

วิถีชีวิตสมัยใหม่ทำให้เราได้รับความสะดวกสบาย แต่… ก็ทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรมากเป็นเท่าตัว

– ใส่ผ้าในเครื่องซักผ้า/ใส่จานชามในเครื่องล้างจานให้เต็มความจุ

การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าบ่อยๆ แต่ใส่ผ้าทีละนิดละหน่อย ไม่ได้ทำให้เปลืองน้ำเท่านั้น แต่ยังเปลืองไฟอีกด้วย เพราะฉะนั้นรอจนผ้าเต็มตะกร้าเสียก่อนถึงค่อยเอาไปซักจะดีกว่าค่ะ และถ้าผ้าไม่ได้สกปรกอะไรนัก ลองเลือกโปรแกรมการซักที่ใช้เวลาน้อยลงมาหน่อย เช่นเดียวกับเครื่องล้างจาน ถ้ามีจานชามใช้แล้วไม่มาก ล้างด้วยมือดีกว่าค่ะ แป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว

4. เลือกกินแบบรักษ์โลก รักษ์น้ำ

ข้อสุดท้ายนี้ไม่เชิงเป็นวิธีประหยัดน้ำในครัวเรือน แต่ถือเป็นการช่วยรักษาทรัพยากรน้ำให้กับโลก ซึ่งเราก็อยากให้คุณลองทำดูเหมือนกันค่ะ

– เลือกกินผักผลไม้ตามฤดูกาล

เหตุผลง่ายๆ เพราะผักผลไม้ที่ปลูกตามฤดูกาลของมันจะไม่ต้องใช้น้ำหรือการดูแลมากนัก แต่สำหรับผักผลไม้ที่ปลูกนอกฤดูมักจะต้องใช้น้ำมาก การดูแลมาก ซึ่งจะทำให้ราคาแพงขึ้นตามไปด้วย

– กินให้เหลือขยะอาหาร (Food Waste) น้อยที่สุด

ผักผลไม้ที่เรานำมาบริโภคทุกชนิด ล้วนใช้น้ำในการเพาะปลูกทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอย่าให้ทรัพยากรน้ำต้องสูญเปล่าไปเลยค่ะ พยายามวางแผนการซื้อและการปรุงอาหารเพื่อใช้ประโยชน์จากพืชผักให้ได้มากที่สุดดีกว่า

จากเคล็ดลับประหยัดน้ำทั้งหมดนี้ เราหวังว่าจะช่วยคุณเซฟค่าน้ำเดือนหน้าได้ไม่มากก็น้อย ที่สำคัญ ในช่วงเวลาที่ปัญหาโลกร้อนกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเช่นนี้ เรายิ่งควรต้องช่วยกันประหยัดทรัพยากรน้ำ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า น้ำสำคัญต่อชีวิตของเรามหาศาล

อ้างอิง:
friendsoftheearth.uk
wwf.org.uk

บทความที่เกี่ยวข้อง