ติดแผงโซลาร์เซลล์ คุ้มค่าจริงไหม? ชวนอ่าน 5 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

Care

ปีนี้เป็นปีที่อากาศร้อนอบอ้าวมากที่สุดปีหนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ร้อนชนิดที่ว่าเปิดพัดลมก็ไม่ช่วยอะไรเพราะได้ลมร้อนออกมา การเปิดแอร์กลายเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่าแค่ความสบาย แล้วพอถึงปลายเดือนก็ต้องเปลี่ยนจากร้อนอ้าว เป็น ร้องอ้าว! เพราะค่าไฟพุ่งแรงไม่แพ้อุณหภูมิ

‘ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์’ จึงกลายเป็นทางเลือกในการประหยัดไฟที่คนหันมาสนใจ ประกอบกับเป็นปีที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรง การติดแผงโซลาร์เซลล์อาจตอบโจทย์ในวันที่อากาศร้อนและน้ำมันแพง แถมยังช่วยลดโลกร้อนได้อีกทาง (ชวนอ่าน: ภาวะโลกร้อนไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่กำลังส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราทุกคน)

แต่การติดแผงโซลาเซลล์ที่บ้านนั้นคุ้มค่าจริงไหม? เรามี 5 ข้อที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจมาฝากค่ะ

1. เช็กความพร้อมของบ้าน

ความแข็งแรงของบ้านเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแผงโซลาร์เซลล์ 1 แผงมีน้ำหนักราวๆ 20 กิโลกรัม ดังนั้นหลังคาและโครงสร้างของบ้านจะต้องพร้อมรับน้ำหนักแผงโซลาร์เซลล์มากกว่า 1 แผง (มากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ไฟ) เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 20 ปี (ค่าเฉลี่ยของอายุการใช้งานของแผงโซลาเซลล์โดยทั่วไป) 

ก่อนติดแผงโซลาร์เซลล์ คุณอาจต้องเปลี่ยนหลังคาใหม่ หรือซ่อมแซมโครงสร้างบ้านให้แข็งแรงเสียก่อน เป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องบวกเข้าไปในต้นทุน แต่ก็นับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะการมีบ้านที่แข็งแรงปลอดภัยไปนานๆ ย่อมเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว

นอกจากความแข็งแรงของบ้าน ยังต้องดูองค์ประกอบอื่นด้วย เช่น ทิศที่ตั้ง หรือสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่อาจส่งผลต่อปริมาณการรับแสงอาทิตย์ ถ้าบ้านอยู่ในมุมอับหรือมีเงาบัง อาจรับแสงได้ไม่คุ้มค่า

2. รู้ปริมาณการใช้ไฟฟ้า

พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าและช่วงเวลาในการใช้ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจว่าจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ดีหรือไม่ และควรจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ขนาดเท่าไหร่ถึงจะพอใช้งาน

สำหรับบ้านที่มีการใช้ไฟฟ้าตลอดเวลา หรือใช้มากในช่วงกลางวัน เช่นคนที่ทำงานอยู่บ้าน บ้านที่มีผู้สูงอายุ หรือมีผู้ป่วยติดเตียงอาศัยอยู่ ทำให้ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศหรือใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ อยู่ตลอด พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าแบบนี้จะใช้โซลาเซลล์ได้คุ้มกว่า ในขณะที่บ้านที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ช่วงกลางวัน เพราะออกไปเรียนหรือไปทำงาน แล้วกลับมาใช้ไฟเยอะในช่วงกลางคืน แบบนี้ถ้าติดโซลาร์เซลล์เพื่อลดค่าไฟก็อาจลดได้ไม่มากนัก 

ถ้าใครอยากใช้ไฟฟ้าจากโซลาเซลล์ในตอนกลางคืนก็ทำได้ ต้องซื้อแบตเตอรี่เพื่อสำรองไฟไว้ แต่ราคาแบตเตอรี่นั้นค่อนข้างสูงมาก (หลักแสน) เป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องบวกไปในต้นทุน

3. พร้อมจ่ายและรอจุดคุ้มทุนได้

นอกจากค่าใช้จ่ายในการเตรียมความพร้อมของบ้าน ค่าแบตเตอรี่สำรองไฟไว้ใช้กลางคืน ยังมีรายจ่ายอื่นๆ อีกหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นค่าติดตั้ง ที่ใช้เงินประมาณ 100,000 – 500,000 บาทขึ้นไปต่ออาคาร 1 หลัง ค่าธรรมเนียมการขออนุญาตกับการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ค่าซ่อมบำรุง ค่าทำความสะอาด รวมไปถึงค่าดำเนินการหรือค่าบริการหลังการขาย เป็นต้น 

แม้การติดตั้งโซลาร์เซลล์จะช่วยประหยัดค่าไฟรายเดือนได้ แต่เมื่อหักลบกับค่าใช้จ่ายทั้งหลาย อาจต้องใช้เวลา 6 -10 ปีกว่าจะคืนทุน ดังนั้นจึงเหมาะกับกลุ่มคนที่มีกำลังจ่าย และพร้อมที่จะรอได้ในระยะยาวกว่าจะถึงจุดคุ้มทุน 

หมายเหตุอีกนิดว่า การไฟฟ้ามีโครงการขายไฟฟ้าคืนด้วยในกรณีที่ไฟเหลือจากการใช้งานในบ้าน แต่เป็นเงื่อนไขเฉพาะผู้ใช้ไฟประเภท ‘บ้านอยู่อาศัย’ เท่านั้นค่ะ ซึ่งแต่ละบ้านก็จะได้เงินคืนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาดโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้ง รวมถึงปัจจัยเรื่องสภาพอากาศและปริมาณแสงอาทิตย์ในแต่ละวันที่ทำให้การผลิตไฟฟ้าไม่แน่นอน 

4. รับมือกับการจัดการและดูแลได้

เมื่อตัดสินใจจะใช้โซลาร์เซลล์ ก็ต้องมีการยื่นเรื่องกับการไฟฟ้าเพื่อขออนุญาตติดตั้ง ต้องเตรียมเอกสาร และต้องพร้อมรับมือกับขั้นตอนต่างๆ มากมายที่อาจใช้เวลานาน ซึ่งเจ้าของบ้านอาจจะทำเอง หรือจ้างบริษัทเอกชนจัดการให้ก็ได้ 

ตอนนี้การไฟฟ้านครหลวงมีโครงการ KEN (Key Energy Now by MEA) ให้บริการครบวงจรในที่เดียว ทั้งวางแผน ออกแบบ ติดตั้ง และขออนุญาตขายไฟฟ้า โดยติดต่อผ่านสายด่วน 1130 หรือช่องทาง Line @measolar ได้เลย

ก่อนติดตั้งต้องตรวจสอบเงื่อนไขและความพร้อมต่างๆ ให้รอบคอบและครบถ้วน ส่วนหลังติดตั้งก็ต้องพร้อมดูแลระยะยาวด้วย เช่น คอยดูแลแผงโซลาร์เซลล์ไม่ให้มีสิ่งสกปรก ฝุ่นผง หรือกิ่งไม้ใบไม้มาปกคลุม รวมถึงหมั่นตรวจเช็กสายไฟและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อไม่ให้เสียหาย ยืดอายุการใช้งานให้นานๆ 

5. มีใจรักษ์สิ่งแวดล้อม 

จะเห็นได้ว่าการติดตั้งโซลาร์เซลล์นั้นมีขั้นตอนมากมาย และมีค่าใช้จ่ายก้อนโตที่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะคืนทุน แต่ถ้าคุณพร้อมจ่าย และมีใจรักษ์ในสิ่งแวดล้อม โซลาร์เซลล์ก็เป็นทางออกที่ต้องบอกว่า ‘คุ้มค่ากับโลก’ มากที่สุด เพราะพลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ถือว่าเป็นทรัพยากรที่ไม่มีขีดจำกัด และจัดว่าเป็น ‘พลังงานสะอาด’ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แถมยังช่วยลดการใช้พลังงานจากทรัพยากรที่ไม่สามารถหมุนเวียนใช้แล้วหมดไปได้ เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาในขั้นตอนการผลิตพลังงานด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ คุณคงพอมีคำตอบในใจแล้วว่าบ้านของคุณเหมาะกับการติดต้ังโซลาร์เซลล์ไหม ใช้แล้วจะคุ้มหรือเปล่า 

และถ้าคุณยังไม่พร้อมจะลงทุนก้อนใหญ่ในตอนนี้ แต่ก็อยากประหยัดไฟ และมีใจรักษ์โลก เรามีวิธีปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ช่วยประหยัดไฟได้มาแนะนำค่ะ อ่าน วิธีเวิร์คฟรอมโฮมไม่ให้ค่าไฟไม่กระฉูด! และ เคล็ดลับจัดตู้เย็นช่วยลดค่าไฟ 

อากาศร้อนแบบนี้ อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ 

อ้างอิง:
prachachat.net
bangkokbiznews.com
thaipbs.or.th

บทความที่เกี่ยวข้อง