รักนี้สีเขียว: เทรนด์คู่รักยุคใหม่ รักเธอ รักฉัน และรักษ์โลกไปด้วยกัน

Care / Self Care / Social Care

ในยุคที่สภาพภูมิอากาศแปรปรวนกลายเป็นประเด็นสำคัญไปทั่วโลก การใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกลายเป็นแนวทางที่ผู้คนให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ในเรื่องของหัวใจ ลองนึกภาพคู่รักที่ไม่ได้แค่จับมือกันเดินเล่นในสวนสาธารณะ แต่ยังช่วยกันเก็บขยะที่เจอระหว่างทางไปด้วย นี่คือเทรนด์ใหม่ของความสัมพันธ์ที่เรียกว่า ‘Green Dating’ หรือ ‘Eco-Conscious Dating’ ซึ่งเป็นการออกเดทที่ผสมผสานความโรแมนติกเข้ากับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมไว้ด้วยกันค่ะ

ปัจจุบันการหาคู่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะช่วยให้พบคู่เดตที่มีความสนใจตรงกันได้ง่ายขึ้น รวมถึง “ความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม” ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรง โดยเฉพาะในกลุ่ม Millennials  และ Gen Z ที่คุณสมบัติ “รักษ์โลก” กลายเป็นสัญญาณบวกหรือ “Green Flag” ที่หลายคนมองหา และอยากปัดขวาเพื่อทำความรู้จักต่อไป 

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไลฟ์สไตล์ของคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอาจจำกัดอยู่ในแค่คนกลุ่มเล็กๆ แต่เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นหนึ่งในค่านิยมที่พบมากที่สุดในโปรไฟล์การหาคู่ไปแล้ว ตัวอย่างการสำรวจผู้ใช้แอป Bumble ของอเมริกาในปี 2022 พบว่าผู้ใช้ที่มี badge หรือ ป้ายแสดงความสนใจบนโปรไฟล์ ว่าเป็นคนที่สนใจสิ่งแวดล้อม มีมากถึง 60% ของสมาชิกทั้งหมด โดยกลุ่ม Gen Z คิดเป็นเกือบ 80% ของผู้ใช้ในกลุ่มนี้เลยทีเดียว

เพราะความสนใจที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดนี่เอง แพลตฟอร์มเกี่ยวกับการหาคู่หลายเจ้าก็เลยหันมาปรับรูปแบบการใช้งานเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรักษ์โลกมากขึ้น เช่น แอป Bumble และ Elite Singles มีการเพิ่ม badge หรือการแปะป้ายความสนใจบนโพรไฟล์ ด้วยป้าย Environmentalism เพื่อทำให้ง่ายต่อการพบเจอกัน หรือแอปยอดฮิตอย่าง Tinder ก็มีการเปิดตั้งค่า “Plant-Based” หรือ “กินผักเป็นหลัก” ในหน้าโปรไฟล์ เพื่อเลือกจับคู่กับคนที่ชอบกินผักเหมือนกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ใส่ใจสุขภาพและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

นอกจากนี้ก็ยังมีแพลตฟอร์มที่พุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนที่สนใจไลฟ์สไตล์แบบรักษ์โลกแบบเฉพาะเจาะจงไปอีก เช่น แอปหาคู่สำหรับผู้กินมังสวิรัติ อย่าง Grazer และ Veggly ซึ่งนอกจากฟังก์ชันปัดขวาหาคนที่ถูกใจแล้ว ยังมีฟีเจอร์สนุกๆ แบบเฉพาะกลุ่ม เช่น การแชร์รูปภาพและการแลกเปลี่ยนสูตรอาหารด้วย

คุณเคยสังเกตไหมว่า ความรักและสิ่งแวดล้อมทั้งสองอย่างต่างก็ต้องการการดูแล เอาใจใส่ และความอดทน เพื่อให้เกิดดอกออกผลที่งอกงาม เมื่อมองแบบกว้างๆ พฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงถูกมองว่าเป็น green flag ของความสัมพันธ์ เพราะแสดงถึงคุณสมบัติที่ดี เช่น มีความรับผิดชอบ ลงมือทำจริง รู้จักเห็นอกเห็นใจ เอื้อเฟื้อ มีความกระตือรือล้น และใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมดล้วนสะท้อนให้เห็นถึงการมีทัศนคติที่ดีและมีความพร้อมที่จะดูแลสิ่งสำคัญในชีวิต ทั้งตัวเองและคนรอบข้าง

มองตามความเป็นจริง การพบคนที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายกันย่อมช่วยลดข้อขัดแย้งและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนานขึ้น ผลสำรวจจากการสอบถามคนอเมริกัน 2,000 คน พบว่า 56% ของคนโสดไม่ชอบคู่ที่ไม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และ 25% เคยเลิกกับคนที่ไม่รักษ์โลก นอกจากนี้ 32% เคยทำให้คู่รักรู้สึกผิดเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม (Eco-shaming) และ 55% บอกว่าจะเลิกกับคนที่ไม่เชื่อในภาวะโลกร้อน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พฤติกรรมรักษ์โลกก็ไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่จะใช้ตัดสินใจในความสัมพันธ์ ยังมีลักษณะนิสัยและพฤติกรรมอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาไปพร้อมกัน และต้องระวังคนที่แสร้งทำเป็นรักษ์โลกเพื่อให้เราตายใจ แบบนี้ห่างไกลจากความ green และเป็น red flag ที่ต้องหนีให้ไกล! 

สำหรับบางคนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอาจให้ความรู้สึกเหมือนเดินขึ้นเขาคนเดียวเปลี่ยวใจ อาจจะท้อแท้กลางทางและยอมแพ้ไป แต่ถ้ามีคนรู้ใจเดินไปด้วยกันมันก็มีแรงจูงใจมากกว่า ในทางจิตวิทยา การทำกิจกรรมที่มีเป้าหมายร่วมกันช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก ความรู้สึกเป็นทีมเดียวกัน มีความเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การแบ่งปันเป้าหมายและความสำเร็จในแต่ละก้าวเล็กๆ เช่น การปลูกต้นไม้หรือการลดขยะ ยังทำให้เกิดความภูมิใจในตัวเองและในกันและกัน

การเป็นคู่รักสายกรีนยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรอบตัว กลายเป็นแบบอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การดูแลสิ่งแวดล้อมสามารถเป็นเรื่องสนุกและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันได้ 

แล้วถ้าคู่ของเราไม่ใช่สายกรีนล่ะ? ความสัมพันธ์จะไม่ราบรื่นหรือเปล่า? อาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปค่ะ เพราะตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังมีบุคลิกลักษณะด้านอื่นที่เข้ากันได้ และยังคงมีเรื่องดีๆ ต่อกันมากกว่ามีปัญหา เรื่องของพฤติกรรมรักษ์โลกก็สามารถพัฒนาไปได้ มีงานวิจัยด้านการตลาดที่ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคพบว่า ฝ่ายที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากกว่ามีแนวโน้มที่จะปรับพฤติกรรมตัวเองให้รักษ์โลกมากขึ้นเพื่อชดเชยให้อีกฝ่าย และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงมาสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในระยะยาวด้วย

ถ้าคุณเจอคนที่ใช่และสนใจด้านสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน กิจกรรมที่เคยดูยุ่งยากหรือถูกมองว่าเรื่องมากก็อาจกลายเป็นง่าย ได้ทั้งความสุขร่วมกันและทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นด้วย

  1. ออกเดทแบบกรีน: อาจเป็นการไปเดินป่า เดินเล่นหรือขี่จักรยานในสวนสาธารณะ ใช้เวลากับธรรมชาติและกันและกันโดยไม่สร้างขยะหรือปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์ เน้นการเดินทางใกล้ๆ ที่ไม่ใช้รถยนต์เพื่อช่วยลดมลพิษ หรือใช้รถสาธารณะ สนับสนุนร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่ใช้วัตถุดิบจากเกษตรอินทรีย์ หรือมีแนวคิดแบบ Zero-Waste
  2. ลดการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวัน: ชวนกันพกถุงผ้า หลอดสแตนเลส ภาชนะบรรจุอาหาร หรือแก้วน้ำคู่ใจ ช่วยลดการใช้พลาสติก ลดขยะ อาจลองทำเป็นภารกิจท้าทายกัน เช่น ใครจะลดพลาสติกได้มากกว่ากันในหนึ่งเดือน
  3. ช่วยกันทำอาหารกินเอง: ลดการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ เลือกเมนูที่ใช้วัตถุดิบออร์แกนิกหรือวัตถุดิบในท้องถิ่น ช่วยลดการซื้ออาหารนอกบ้าน ลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งวัตถุดิบ
  4. เข้าร่วมกิจกรรมทำความสะอาด: ชวนกันเป็นอาสาสมัครทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ เช่น เก็บขยะชายหาด กำจัดขยะในแม่น้ำ หรือกวาดสวนสาธารณะ 
  5. ปลูกผักทำสวน: ทำสวนครัวในบ้าน ปลูกผักกินเองแบบง่ายๆ ไม่ใช้สารเคมี หรือออกไปทำกิจกรรมเป็นอาสาสมัครปลูกป่าก็ได้ การปลูกต้นไม้ไม่เพียงช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตและความยั่งยืนในความสัมพันธ์ 
  6. เข้าร่วมเวิร์กช็อปหรือคอร์สเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม: เช่น เรียนทำสบู่จากธรรมชาติ การแยกขยะ หรือการทำอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่น ช่วยเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจที่ตรงกันในเรื่องสิ่งแวดล้อม
  7. ท่องเที่ยวแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี หรือแหล่งท่องเที่ยวที่ส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติ (อ่านเพิ่มเติม: ชวนเป็น Sustainable Tourist )
  8. มอบของขวัญที่รักษ์โลก: ทำของขวัญจากวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุธรรมชาติ เช่น กระเป๋าผ้าหรือเครื่องประดับจากวัสดุธรรมชาติ เปลี่ยนจากมอบช่อดอกไม้เป็นกระถางต้นไม้ หรือเลือกสินค้าแบรนด์รักษ์โลก (อ่านเพิ่มเติม: แบรนด์สินค้าสายกรีนที่จัดว่าเก๋)
  9. จัดงานแต่งแบบกรีน: เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการจัดงานแต่งงาน เช่น ใช้ดอกไม้ท้องถิ่น หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติก เน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ (อ่านเพิ่มเติม: ‘สุขทุกคำ’ สุขทั้งคน สุขทั้งโลก)
  10. ช่วยกันส่งต่อแรงบันดาลใจ: จัดกิจกรรมเล็กๆ เช่น อบรมปลูกต้นไม้ในชุมชน รณรงค์ลดพลาสติกในกลุ่มเพื่อน สอนคนในครอบครัวให้แยกขยะ หรือชวนกันคัดแยกของเพื่อบริจาค ล้วนเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับทั้งตนเองและคนรอบตัว (อ่านเพิ่มเติม: รวมแหล่งบริจาคสิ่งของและส่งต่อขยะเหลือใช้

การเป็นคู่รักที่ใส่ใจโลกไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบเสมอไป รักษ์โลกเท่าที่เราจะทำได้ และไม่ผิดถ้าจะเลือกความสะดวกในบางโอกาส สิ่งสำคัญคือการสนับสนุนกันและกัน เรียนรู้ร่วมกัน ปรับตัวเข้าหากันไปพร้อมกับปรับเข้าหาโลก 

อ้างอิง:
sea.mashable.com
psychologytoday.com
greenmatters.com
tinderpressroom.com

บทความที่เกี่ยวข้อง