จากผู้พิการสู่พาราลิมปิก : จากเด็กน้อยขอนแก่นสู่ตำนานวีลแชร์เรซซิ่งโลก

Human / Self-Inspiration

ในโลกของกีฬาพาราลิมปิก มีนักกีฬาไม่กี่คนที่สามารถสร้างความประทับใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนได้อย่างลึกซึ้ง พงศกร แปยอ หรือที่แฟนกีฬาเรียกกันติดปากว่า “กร” เป็นหนึ่งในนักกีฬาเหล่านั้น ด้วยความมุ่งมั่นและพรสวรรค์ที่โดดเด่น เขาได้กลายเป็นตำนานของวีลแชร์เรซซิ่งไทยและเป็นความหวังของประเทศไทยในเวทีกีฬาโลก

พงศกร แปยอ เกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2539 ณ จังหวัดขอนแก่น ภาคอีสาน เขาเกิดมาพร้อมกับภาวะโปลิโอที่ส่งผลให้ขาทั้งสองข้างไม่สามารถใช้งานได้ปกติ แต่สิ่งนี้ไม่เคยเป็นอุปสรรคสำหรับเด็กหนุ่มผู้เต็มไปด้วยพลังและความฝัน

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตของพงศกรเกิดขึ้นเมื่อเขาอายุ 13 ปี ขณะที่เป็นนักเรียนอยู่นั้น อาจารย์ สากล ทัพสมบัติ ได้ชักชวนให้เขาลองเล่นกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง โดยเชิญชวนให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 30 “นครสุโขทัยเกมส์” ในปี พ.ศ. 2552

“ตอนนั้นผมแทบจะไม่รู้จักกีฬาชนิดนี้เลย” พงศกรเล่าถึงช่วงเวลานั้น “แต่เมื่อได้ลองแล้ว ผมรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ผมชอบและอยากทำต่อไป”

ด้วยเวลาเตรียมตัวเพียง 1 เดือน พงศกรสามารถสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าเหรียญทองแดงในประเภท 100 เมตร และ 400 เมตร วีลแชร์เรซซิ่ง ผลงานครั้งแรกนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นนักกีฬาระดับโลก

ผลงานที่โดดเด่นของพงศกรในการแข่งขันครั้งแรกทำให้ประวัติ วะโฮรัมย์ และเรวัฒน์ ต๋านะ สองนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งดีกรีทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองพาราลิมปิกหลายสมัย ตัดสินใจเดินทางไปขอพ่อแม่ของพงศกรเพื่อมาดูแลและสนับสนุนเขาในทุกด้าน

“ประวัติพี่และเรวัฒน์พี่ได้มอบรถวีลแชร์ที่เคยใช้แข่งขันและยังมีสภาพดีอยู่ให้ผม” พงศกรกล่าวด้วยความซาบซึ้ง “พวกพี่ไม่ได้ช่วยเฉพาะเรื่องกีฬา แต่ยังช่วยในเรื่องการงานและการใช้ชีวิตด้วย นับเป็นพระคุณที่ผมจะไม่มีวันลืม”

การสนับสนุนจากรุ่นพี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การให้อุปกรณ์ แต่ยังรวมถึงการถ่ายทอดประสบการณ์ เทคนิค และจิตวิญญาณของการเป็นนักกีฬา สิ่งเหล่านี้กลายเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้พงศกรสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากได้รับการสนับสนุนและฝึกซ้อมอย่างจริงจัง พงศกรได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่น่าประทับใจ เขาไม่เพียงแต่ปรับปรุงเวลาของตัวเองอย่างต่อเนื่อง แต่ยังเริ่มสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ

การแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของพงศกร ในการแข่งขันครั้งนี้ เขาสามารถคว้าเหรียญทองในประเภท 400 เมตร และ 800 เมตร คลาส T53 พร้อมกับเหรียญเงินในประเภท 100 เมตร คลาส T53

ความสำเร็จในริโอไม่ได้มาง่ายๆ พงศกรต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดจากนักกีฬาระดับโลก แต่ด้วยการเตรียมตัวที่ดี เทคนิคที่ละเอียด และจิตใจที่แข็งแกร่ง เขาสามารถโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดได้ในเวลาที่เหมาะสม

หลังจากความสำเร็จในริโอ พงศกรไม่ได้หยุดพัฒนาตัวเอง เขายังคงฝึกซ้อมอย่างหนักและมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงสถิติของตัวเองให้ดีขึ้น ระหว่างปี 2017-2019 เขาได้แสดงผลงานที่โดดเด่นในการแข่งขันระดับนานาชาติหลายรายการ

จุดสูงสุดในช่วงเตรียมตัวคือการคว้าแชมป์โลกในประเภท 400 เมตร คลาส T53 ในปี 2019 ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ความสำเร็จนี้ทำให้เขามั่นใจมากขึ้นว่าสามารถแข่งขันในระดับโลกได้

ก่อนการแข่งขันโตเกียวเกมส์ 2020 พงศกรได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เป้าหมายของผมคือการป้องกัน 2 เหรียญทองให้ได้ และอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญคือผมจะต้องสร้างสถิติโลกให้ได้อีกด้วย เพราะสถิติที่ดีวันดีคืนทำให้ผมมั่นใจว่าจะทำได้แน่นอน”

การแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นเวทีที่พงศกรสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับกีฬาไทย เขาไม่เพียงแต่ทำตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ยังทำได้เกินความคาดหมาย

เหรียญทองที่ 1: 400 เมตร คลาส T53

วันที่ 29 สิงหาคม 2564 เป็นวันที่พงศกรสร้างประวัติศาสตร์ ในการแข่งขันวีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตร ชาย คลาส T53 ที่โอลิมปิก สเตเดียม เขาทำได้อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด

ตั้งแต่เสียงปืนเริ่มต้น พงศกรแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและเทคนิคที่สมบูรณ์แบบ เขานำการแข่งขันตั้งแต่เมตรแรกและรักษาจังหวะไว้ได้ตลอดการแข่งขัน เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้าย พงศกรยังคงนำอย่างชัดเจน

เมื่อเข้าเส้นชัยในตำแหน่งที่ 1 เวลาที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้ทุกคนต้องตะลึง: 46.61 วินาที – สถิติโลกใหม่! เขาทำลายสถิติเดิมของเบรนต์ ลากาตอส จากแคนาดาที่ทำไว้ 46.82 วินาที ในปี 2019

“ตอนนั้นผมรู้สึกดีใจมากที่ได้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้สำเร็จ” พงศกรเล่าถึงช่วงเวลานั้น “การได้ทำลายสถิติโลกในเวทีพาราลิมปิกเป็นสิ่งที่ผมฝันมาตลอด”

เหรียญทองที่ 2 และ 3: 100 เมตร และ 800 เมตร

ความสำเร็จในประเภท 400 เมตรเป็นเพียงจุดเริ่มต้น พงศกรยังคงแสดงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในประเภทอื่นๆ ด้วย

ในวันที่ 1 กันยายน เขาคว้าเหรียญทองในประเภท 100 เมตร คลาส T53 ด้วยการแข่งขันที่เร้าใจ และในวันที่ 2 กันยายน เขาปิดท้ายด้วยเหรียญทองในประเภท 800 เมตร คลาส T53

ด้วยผลงาน 3 เหรียญทองจากการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งเดียว พงศกรกลายเป็นนักกีฬาพาราลิมปิกไทยคนแรกที่ทำสำเร็จในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน เขาได้รับเงินอัดฉีดรวม 21.6 ล้านบาท จากผลงานที่ยอดเยี่ยมนี้

ความสำเร็จของพงศกรไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เบื้องหลังเหรียญทองแต่ละเหรียญคือการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงและการปรับปรุงเทคนิคอย่างต่อเนื่อง

การฝึกซ้อมของพงศกรเน้นไปที่การพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน ความอดทน และเทคนิคการขับรถวีลแชร์ เขาใช้เวลาในการฝึกซ้อมวันละหลายชั่วโมง โดยแบ่งเป็นการฝึกความเร็ว การฝึกความอดทน และการฝึกเทคนิค

“การฝึกซ้อมไม่ใช่แค่เรื่องของความแข็งแรงของร่างกาย แต่ยังรวมถึงการฝึกจิตใจด้วย” พงศกรอธิบาย “ในการแข่งขันระดับโลก ทุกคนมีความแข็งแรงไม่ต่างกันมาก สิ่งที่แตกต่างคือจิตใจและการเตรียมตัวที่ละเอียด”

ความสำเร็จของพงศกรไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะในวงการกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนหลายล้านคนทั่วประเทศ เรื่องราวของเขาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าความพิการไม่ใช่อุปสรรคต่อการบรรลุความฝัน

หลังจากการแข่งขันโตเกียว 2020 พงศกรได้รับเชิญไปบรรยายในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และองค์กรต่างๆ มากมาย เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่

“ผมอยากให้เด็กๆ รู้ว่าไม่ว่าเราจะเกิดมาในสถานการณ์แบบไหน เราสามารถสร้างความฝันและทำให้มันเป็นจริงได้” พงศกรกล่าว “สำคัญที่ต้องมีความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้”

นอกจากการเป็นนักกีฬาแล้ว พงศกรยังมีส่วนร่วมในการพัฒนากีฬาคนพิการในประเทศไทย เขาทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยในการส่งเสริมกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งให้แพร่หลายมากขึ้น

เขายังเป็นต้นแบบให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ โดยให้คำแนะนำและแบ่งปันประสบการณ์อย่างใกล้ชิด ความเข้าใจดีว่าการมีพี่เลี้ยงที่ดีมีความสำคัญแค่ไหน ทำให้เขาพร้อมที่จะเป็นแรงสนับสนุนให้กับรุ่นน้อง

แม้จะประสบความสำเร็จมากมายแล้ว แต่พงศกรยังไม่คิดที่จะหยุดพัฒนาตัวเอง เขายังคงมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงสถิติของตัวเองให้ดีขึ้น และเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันพาราลิมปิกในอนาคต

“ผมยังรู้สึกว่าตัวเองสามารถวิ่งได้เร็วกว่านี้” พงศกรกล่าวด้วยความมั่นใจ “การทำลายสถิติของตัวเองคือสิ่งที่ผมอยากทำต่อไป และผมหวังว่าจะได้แสดงให้เห็นในเวทีโลกอีกครั้ง”

นอกจากเป้าหมายส่วนตัวแล้ว พงศกรยังมีความฝันที่จะเห็นกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งของไทยเจริญก้าวหน้าไปอีกระดับ เขาหวังว่าจะมีนักกีฬารุ่นใหม่ที่สามารถต่อยอดผลงานของเขาและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยต่อไป

เรื่องราวของพงศกร แปยอ สอนให้เราเห็นถึงพลังของความมุ่งมั่นและความเพียรพยายาม เขาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าอุปสรรคในชีวิตไม่ใช่สิ่งที่จะมากำหนดขีดจำกัดของเรา แต่เป็นสิ่งที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นหากเรารู้จักใช้ประโยชน์จากมัน

ประการแรก คือความสำคัญของการมีพี่เลี้ยงที่ดี การที่ประวัติ วะโฮรัมย์ และเรวัฒน์ ต๋านะ เข้ามาช่วยเหลือพงศกรแสดงให้เห็นว่าการส่งต่อความรู้และประสบการณ์มีความสำคัญมากในการพัฒนานักกีฬา

ประการที่สอง คือความสำคัญของการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน พงศกรไม่เพียงแต่ฝันว่าจะเป็นนักกีฬาที่ดี แต่เขาตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น การทำลายสถิติโลก และทำงานอย่างมีแผนเพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น

ประการที่สาม คือความสำคัญของการให้กลับสู่สังคม ถึงแม้จะประสบความสำเร็จแล้ว แต่พงศกรไม่ได้หยุดแค่นั้น เขายังใช้ความสำเร็จของตัวเองเป็นเครื่องมือในการสร้างแรงบันดาลใจและช่วยเหลือคนอื่น

พงศกร แปยอ เป็นมากกว่านักกีฬา เขาเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความมุ่งมั่น และการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค จากเด็กหนุ่มขอนแก่นที่เกิดมาพร้อมกับความท้าทาย เขาได้พิสูจน์ให้โลกเห็นว่าความฝันสามารถเป็นจริงได้ด้วยความพยายามและการไม่ยอมแพ้

ผลงานของเขาไม่เพียงแต่ทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงในเวทีกีฬาโลก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทยหลายล้านคน ที่เห็นว่าไม่ว่าเราจะเผชิญกับอุปสรรคอะไรในชีวิต เรายังสามารถสร้างความสำเร็จได้

เรื่องราวของพงศกร แปยอ จะยังคงเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนรุ่นใหม่ต่อไป และหวังว่าจะมีเด็กหนุ่มหรือเด็กสาวคนอื่นๆ ที่จะได้รับแรงบันดาลใจจากเขาและสร้างความสำเร็จของตัวเองในอนาคต

เขาไม่เพียงแต่เป็นแชมป์ในสนามแข่ง แต่ยังเป็นแชมป์ในใจของผู้คนมากมาย และนั่นคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเหรียญทองใดๆ ที่เขาเคยคว้ามา


แหล่งอ้างอิง

  1. สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย. เว็บไซต์ระบบจัดการข้อมูลนักกีฬา SATC. เข้าถึงเมื่อ 3 มิถุนายน 2568 จาก https://www.satc.or.th/athlete/profile.aspx?alid=11
  2. วิกิพีเดีย. (2567, 6 กันยายน). พงศกร แปยอ. เข้าถึงเมื่อ 3 มิถุนายน 2568 จาก https://th.wikipedia.org/wiki/พงศกร_แปยอ
  3. ข่าวสด. (2564, 29 สิงหาคม). ‘พงศกร แปยอ’ ทุบสถิติโลกวีลแชร์เรซซิ่งคว้าทองแรกให้ทัพพาราลิมปิกไทย. PPTVHD36
  4. มติชน. (2564, 29 สิงหาคม). ‘พงศกร แปยอ’ นำม้วนเดียวจบทุบสถิติโลกคว้าทองแรกให้ทัพพาราฯ ไทย
  5. THE STANDARD. (2564, 30 สิงหาคม). ‘กร’ พงศกร แปยอ วีลแชร์สลาตันผู้พิชิตเหรียญทองแรกในพาราลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020

บทความที่เกี่ยวข้อง