อามาซาเกะ… สาเกหวาน Superfood มากประโยชน์

Care / Self Care

ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีประชากรอายุยืนเป็นจำนวนมาก นักวิจัยหลายรายจึงให้ความสนใจการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นเพื่อค้นหาคำตอบว่าปัจจัยใดบ้างที่มีส่วนทำให้พวกเขามีสุขภาพดีมากกว่าคนในอีกหลายประเทศทั่วโลก โดยหนึ่งในวิถีชีวิตที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพให้คนญี่ปุ่นก็คือ อาหาร 

อาหารที่คนญี่ปุ่นกินเป็นประจำหลายเมนูจัดเป็น “สุดยอดอาหาร” หรือ Superfood ที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์มากมาย โดยซูเปอร์ฟู้ดสัญชาติญี่ปุ่นที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วก็เช่น ปลาดิบ (Sashimi) มิโซะ ชาเขียวมัทฉะ ถั่วเน่านัตโตะ และอาหารที่ทำจากเต้าหู้ แต่ยังมีอีกหนึ่งซูเปอร์ฟู้ดที่มีคุณค่ามากมายไม่แพ้กัน แต่อาจยังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายในหมู่คนไทยเท่าไร นั่นคือ อามาซาเกะ (Amazage) หรือ สาเกหวาน

รู้จักสาเกหวาน… สาเกไร้แอลกอฮอล์ 

อามาซาเกะ หรือ สาเกหวาน เป็นเครื่องดื่มเนื้อข้นสีขาวขุ่นคล้ายโจ๊กที่ได้จากการนำเอาข้าวมาหมักกับข้าวโคจิ (Koji) ที่เกิดจากเชื้อรา Aspergillus oryzae จากส่วนผสมและกรรมวิธีเหล่านี้ สาเกหวานจึงอุดมไปด้วยวิตามิน B1, B2, B6 กรดโฟลิค (Folic acid) ใยอาหาร (Fiber) และกรดอะมิโน (Amino acid) มากมายหลายชนิด 

ถึงแม้จะชื่อว่าสาเกหวาน แต่หากเป็นสาเกหวานที่ทำจากข้าวโคจิ จะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมทั้งยังปราศจากน้ำตาลอีกด้วย โดยรสชาติหวานในสาเกหวานนั้นจะเป็นความหวานตามธรรมชาติของข้าว ทำให้สาเกหวานเป็นเครื่องดื่มที่ปลอดภัยแม้แต่สำหรับเด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยที่ต้องควบคุมปริมาณน้ำตาล

ชาวญี่ปุ่นนิยมดื่มสาเกหวานร้อนๆ ในฤดูหนาว และในช่วงเทศกาลปีใหม่  โดยสาเกหวานเป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติอยู่คู่กับชาวญี่ปุ่นมายาวนาน ตั้งแต่ยุคโคฟุง หรือราวศตวรรษที่ 4 

รู้ก่อนซื้อ: อย่างที่บอกว่าสาเกหวานที่หมักจากข้าวโคจิจะไม่มีแอลกอฮอล์ แต่ยังมีสาเกหวานอีกประเภทที่หมักจากกากที่ได้จากการหมักเหล้าสาเก (Sake lees) ซึ่งสาเกหวานประเภทนี้จะมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ในปริมาณต่ำ ก่อนซื้อ คุณจึงควรอ่านส่วนประกอบและกรรมวิธีการผลิตให้ดี

ประโยชน์มากมายของสาเกหวาน 

อย่างที่บอกไปว่าสาเกหวานอุดมไปด้วยวิตามิน B มากมายหลายชนิด กรดอะมิโน ใยอาหาร และสารอาหารอีกหลากหลาย จึงมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน

1 สร้างสมดุลในลำไส้ 

นอกจากสาเกหวานจะอุดมไปด้วยใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่ายแล้ว ยังมีน้ำตาลโอลิโกแซ็กคาไรด์ (Oligosaccharide) ที่เป็นน้ำตาลให้พลังงานต่ำและมีคุณสมบัติสุดยอดคือเป็น พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) แหล่งอาหารชั้นดีของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ หรือ โพรไบโอติกส์ (Probiotics) ทำให้ช่วยสร้างสมดุลในลำไส้ กระตุ้นการขับถ่ายได้อย่างดี

2 บำรุงผิวพรรณให้สดใส

สาวๆ ต้องชอบข้อนี้ เพราะนอกจากการสร้างสมดุลในลำไส้จะทำให้เราขับถ่ายคล่องซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพผิวแล้ว สาเกหวานยังมีวิตามิน B หลากหลายชนิด เช่น B2 และ B6 ที่ช่วยกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึม (Metabolism) หรือกระบวนการย่อยอาหารและเสริมสร้างซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงการผลัดเซลล์ผิวและช่วยให้ผิวกระชับ สดใส นอกจากนั้น วิตามิน B1 และ B5 ที่มีในสาเกหวานยังเป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวและเส้นผมโดยตรง 

3 เพิ่มความสดชื่นให้สมอง

พลังงานเกือบทั้งหมดของสมองมนุษย์ได้มาจากน้ำตาลกลูโคสและออกซิเจน หากร่างกายมีกลูโคสในระดับต่ำ ความสามารถในการคิด การตัดสินใจ และควบคุมตัวเองก็จะลดลง รวมทั้งอาจเกิดอาการอ่อนเพลีย ใจสั่น หน้ามืด ซึมเศร้า และปวดศีรษะ ในสาเกหวานมีน้ำตาลกลูโคสเป็นส่วนประกอบอยู่ราว 20% ดังนั้นการดื่มสาเกหวานจึงเป็นการเพิ่มความสดชื่นให้สมองได้อย่างดี แนะนำว่าอาจดื่มก่อนทำงานหรือเรียน

4 ช่วยให้ท้องอิ่ม

น้ำตาลกลูโคสในสาเกหวานยังช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะไปกดศูนย์อิ่มในร่างกาย (Satiety center) ให้รู้สึกอิ่มท้อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักหรือแก้นิสัยกินจุบกินจิบ

5 สร้างสมดุลร่างกาย

สาเกหวานยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด การดื่มสาเกหวานเป็นประจำจึงช่วยให้กระบวนการต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุขภาพแข็งแรง

เห็นคุณค่ามากมายขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าคนรักสุขภาพเริ่มอยากจะหาสาเกหวานมาลองดื่มกันเป็นประจำบ้างแล้วใช่ไหม ข่าวดียิ่งกว่านั้นก็คือ ตอนนี้ในบ้านเรามีผู้ผลิตที่นำข้าวอินทรีย์ของไทยมาหมักกับข้าวโคจิ กลายเป็นสาเกหวานสัญชาติไทยๆ  ซึ่งนอกจากประโยชน์ที่ว่ามาข้างต้นแล้ว สาเกหวานของไทยก็ยังได้สารอาหารเพิ่มเติมจากพันธุ์ข้าวของไทยด้วย ใครสนใจลองหามาดื่มกันนะคะ

ที่มา:
thejapanstore.us
bangkokbiznews.com
foodnetworksolution.com
neonics.co.th

บทความที่เกี่ยวข้อง