ภาวะเครียดไม่รู้ตัว ภัยเงียบที่ส่งผลต่อสุขภาพ

Health / Mind

ภาวะเครียดไม่รู้ตัว เครียดสะสม สัญญาณเตือนแบบไหน ต้องรีบรักษา

ภาวะเครียดไม่รู้ตัวเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และในปัจจุบันมีแนวโน้มที่อาการเครียดไม่รู้ตัวจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบและความกดดันทั้งในด้านการทำงานและเรื่องส่วนตัว ความเครียดที่สะสมโดยไม่รู้ตัวอาจเกิดจากการทำงานหนักเกินไป ความคาดหวังสูง หรือปัญหาส่วนตัวที่รบกวนจิตใจ แม้จะไม่มีอาการเครียดที่ชัดเจนในช่วงแรก แต่ภาวะร่างกายเครียดไม่รู้ตัวนี้สามารถสะสมและก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ในระยะยาว ดังนั้นการรับรู้และจัดการกับโรคเครียดไม่รู้ตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ชีวิตมีความสุขและสุขภาพดีในระยะยาว

เพื่อป้องกันและหาแนวทางการรักษาอาการเครียดไม่รู้ตัวอย่างทันท่วงที บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจถึงภาวะเครียดไม่รู้ตัวว่ามีสาเหตุมาจากอะไร? อาการที่บ่งบอกว่าเครียดสะสมอยู่เป็นอย่างไร และวิธีการรับมือกับความเครียดเหล่านี้อย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั้งกายและจิตใจ

แม้ว่าอาการของภาวะเครียดไม่รู้ตัวอาจไม่มีสัญญาณเตือนที่ชัดเจน แต่เราสามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ ซึ่งสัญญาณเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าร่างกายของเรากำลังเผชิญกับความเครียดไม่รู้ตัว ลองเช็กอาการต่อไปนี้เพื่อประเมินว่าคุณอาจอยู่ในภาวะเครียดไม่รู้ตัวหรือไม่

อาการทางร่างกาย

ความเครียดไม่รู้ตัวมีผลเสียต่อสุขภาพหลายประการ โดยอาการทางร่างกายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเราเผชิญกับภาวะเครียดไม่รู้ตัว มีดังนี้

  • ปวดหัวบ่อย ๆ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและขมับ ซึ่งเกิดจากความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท
  • ปวดกล้ามเนื้อ ความเครียดส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็ง ทำให้รู้สึกปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง
  • ระบบย่อยอาหารมีปัญหา ภาวะเครียดไม่รู้ตัวอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องผูก หรือท้องเสีย เนื่องจากการทำงานของระบบย่อยอาหารไม่สมดุล
  • การนอนหลับไม่ดี อาจเกิดจากร่างกายเครียดไม่รู้ตัว แม้ว่าจะรู้สึกเหนื่อย แต่ความเครียดสามารถส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ ทั้งนอนหลับไม่สนิท ตื่นกลางดึก หรือหลับยาก
  • เหนื่อยล้าตลอดเวลา แม้จะได้นอนหลับหรือพักผ่อนเพียงพอแล้ว แต่ยังรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า

อาการทางจิตใจและอารมณ์

ภาวะเครียดไม่รู้ตัวสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์ได้มากมาย ซึ่งอาการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเครียดไม่รู้ตัวสะสมเป็นเวลานาน ได้แก่

  • อารมณ์ไม่คงที่ โดยที่รู้สึกหงุดหงิดง่าย โกรธหรือเศร้าอย่างรวดเร็วแบบไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน
  • รู้สึกกังวลตลอดเวลา แม้ไม่มีสถานการณ์ที่เร่งด่วน เป็นสัญญาณของความวิตกกังวลที่เรื้อรังหรือความเครียดไม่รู้ตัว
  • ขาดสมาธิและความจำสั้นลง ทำให้ไม่สามารถจดจ่อหรือมุ่งเน้นกับงานหรือกิจกรรมที่ทำอยู่ ลืมสิ่งที่เพิ่งทำไป และตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ช้าลง

การแสดงออกทางพฤติกรรม

นอกจากภาวะเครียดไม่รู้ตัวจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจและอารมณ์แล้ว พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปหรือมีความผิดปกติที่แสดงออกโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นอาจเป็นสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงอาการเครียดไม่รู้ตัว

  • การกินเปลี่ยนไป บางครั้งความเครียดทำให้เรากินอาหารมากเกินไป หรือกลับไม่รู้สึกหิวและไม่อยากกินอาหารเลย
  • หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม เริ่มรู้สึกไม่อยากพบปะผู้คน หรือละทิ้งกิจกรรมสังคมที่เคยทำเป็นประจำ
  • พูดมากเกินไปหรือน้อยเกินไป อาจเป็นการพยายามปกปิดความรู้สึก หรือการพูดน้อยลงอาจเป็นสัญญาณของการหลีกเลี่ยง
  • ละเลยการดูแลตัวเอง เช่น การไม่ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลหรือการละเลยกิจกรรมที่สำคัญสำหรับสุขภาพ

การทำความเข้าใจสาเหตุของภาวะเครียดไม่รู้ตัวเป็นขั้นตอนสำคัญในการจัดการและแก้ไขปัญหาเครียดไม่รู้ตัว ดังนั้นเพื่อสร้างความสมดุลในชีวิตและการรักษาสุขภาพจิตและร่างกายให้อยู่ในสภาพดี มาดูกันว่า ภาวะเครียดไม่รู้ตัวมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง?

ความกดดันในการทำงาน

เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะเครียดไม่รู้ตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกายได้หลายด้าน ดังนั้นการเข้าใจความกดดันที่เกิดจากการทำงานสามารถช่วยในการจัดการและลดความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัญหาทางการเงิน

ความกังวลเรื่องภาระหนี้สินหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดก็เป็นอีกปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดสะสมแบบไม่รู้ตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกายได้มากมาย ด้วยเหตุนี้การวางแผนจัดการกับปัญหาทางการเงินอย่างเป็นระบบ จะช่วยลดความเครียดและสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ในระยะยาว

ปัญหาด้านความสัมพันธ์

รู้หรือไม่? ความขัดแย้งในครอบครัว ปัญหาความรัก และความขัดแย้งระหว่างเพื่อนล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดภาวะเครียดไม่รู้ตัวได้ เพราะแต่ละประเด็นเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่สำคัญในชีวิตของเรา หากไม่จัดการอย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและร่างกายของเราได้

ชีวิตขาดความสมดุล

การทำงานหนักจนไม่มีเวลาพักนอนเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ชีวิตขาดความสมดุลและนำไปสู่อาการเครียดไม่รู้ตัว ดังนั้นหากคุณรู้ตัวว่ากำลังทุ่มเทให้กับการทำงานมากเกินไป การวางแผนและจัดลำดับความสำคัญของงานเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยลดความเครียดจากการทำงาน นอกจากนี้ยังควรหาเวลาไปพักผ่อนหรือทำกิจกรรมที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เพื่อฟื้นฟูร่างกายและจิตใจจากภาวะเครียดไม่รู้ตัว

ปัญหาสุขภาพ

อาการป่วยเรื้อรังหรือความเจ็บปวดทางกายสามารถนำไปสู่อาการเครียดไม่รู้ตัวได้ เพราะการเผชิญกับอาการเจ็บปวดหรือปัญหาสุขภาพที่ไม่หายขาดมักทำให้เกิดความกังวลและเครียดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกาย เช่น รู้สึกถึงการสูญเสียความสามารถในการควบคุมชีวิตประจำวันและกิจกรรมที่เคยทำได้ หรืออารมณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ง่าย เป็นต้น

อาการเครียดไม่รู้ตัวเป็นภาวะทางอารมณ์ที่หากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไข อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางจิตใจและร่างกายอย่างร้ายแรง รวมถึงนำไปสู่พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง เช่น การหลีกเลี่ยงการติดต่อกับผู้อื่น การไม่สามารถจดจ่อกับงาน การรู้สึกกังวลตลอดเวลา และอาการเครียดจนนอนไม่หลับ นอกจากนี้ภาวะเครียดไม่รู้ตัวยังสามารถนำไปสู่โรคทางกายเพิ่มเติมได้ ดังนี้

โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder)

ภาวะเครียดไม่รู้ตัวที่เกิดขึ้นเป็นเวลานานสามารถพัฒนาไปสู่โรควิตกกังวลได้ โดยเฉพาะเมื่อความเครียดสะสมไม่ถูกจัดการอย่างเหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทำให้เกิดอาการวิตกกังวลที่รุนแรง อย่างการคิดวนเวียน ความกลัวที่ไม่มีสาเหตุชัดเจน และการตอบสนองทางอารมณ์ที่เกินขอบเขต โดยอาการเหล่านี้ยังส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวันและลดประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย

โรคแพนิค (Panic Disorder)

ความเครียดสะสมหรือการเจอกับเหตุการณ์ที่เครียดไม่รู้ตัวอาจเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดโรคแพนิค (Panic Disorder) แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักเพียงอย่างเดียว เพราะภาวะเครียดไม่รู้ตัวอาจทำให้ระบบประสาทมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น แต่การเกิดโรคแพนิคมีหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ใช่แค่ความเครียดเพียงอย่างเดียว
หากไม่ลดความเครียดและจัดการกับอาการเครียดไม่รู้ตัวอย่างเหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกาย ทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นในการพัฒนาไปสู่โรคแพนิคหรือปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน

โรคกลัว (Phobia)

แม้อาการเครียดไม่รู้ตัวจะไม่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคกลัวโดยตรง แต่ภาวะเครียดไม่รู้ตัวก็มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นหรือทำให้โรคกลัวรุนแรงขึ้น เนื่องจากความเครียดสะสมทำให้ระดับความวิตกกังวลในร่างกายของเราสูงขึ้น จนนำไปสู่ความวิตกกังวลต่อสถานการณ์หรือสิ่งของที่กลัวมากขึ้น เช่น การกลัวการเข้าสังคม (Social Phobia) ซึ่งอาจทำให้บุคคลรู้สึกวิตกกังวลหรือกลัวการพบปะผู้คน การพูดในที่สาธารณะ หรือสถานการณ์ทางสังคมอื่น ๆ ที่อาจไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนในการกลัว แต่กลับส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและความเป็นอยู่ของบุคคลอย่างรุนแรง

โรคซึมเศร้า (Depression)

แม้ว่าอาการเครียดไม่รู้ตัวไม่ใช่สาเหตุหลักเดียวที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้า แต่ความเครียดสะสมมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นหรือทำให้โรคซึมเศร้ารุนแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว เช่น ผู้ที่มีแนวโน้มทางพันธุกรรมหรือประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้เสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า ภาวะเครียดไม่รู้ตัวจะทำให้ระบบประสาทตึงเครียดและส่งผลกระทบต่อสมดุลของสารเคมีในสมองที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ ทำให้การเกิดหรือการทวีความรุนแรงของโรคซึมเศร้าเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

เมื่อภาวะเครียดไม่รู้ตัวสร้างความกังวลและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การหาวิธีรับมือความเครียดสะสมด้วยตัวเองเป็นวิธีที่ดีในการบรรเทาความเครียดสะสมและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของเรา นอกเหนือจากการเข้าพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ และนี่คือวิธีที่สามารถช่วยลดอาการเครียดสะสมได้

การฝึกหายใจลึก

การหายใจลึกและช้า เป็นเทคนิคที่ช่วยลดความตึงเครียดและทำให้ร่างกายผ่อนคลายได้จริง เพราะการหายใจเข้าลึก ๆ ผ่านจมูกแล้วค่อย ๆ หายใจออกทางปากจะช่วยให้ร่างกายสามารถกลับสู่สภาวะปกติและสงบได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ง่ายและสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อช่วยลดความเครียดและสร้างความรู้สึกสบายใจ

การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นการลงทุนที่ดีในการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการจัดการกับความเครียดในชีวิตประจำวัน เพราะระหว่างการออกกำลังกายจะกระตุ้นการหลั่งสารเอนโดรฟิน (Endorphins) ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้รู้สึกดีและผ่อนคลาย นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งทำให้ร่างกายรู้สึกสงบและลดความเครียดได้อีกด้วย

การจัดการเวลาที่ดี

การวางแผนและจัดการเวลาเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการควบคุมความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะการมีแผนที่ชัดเจนช่วยให้คุณมองเห็นลำดับความสำคัญและจัดระเบียบงานที่ต้องทำ นอกจากช่วยลดความรู้สึกสับสนและวิตกกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ ยังหลีกเลี่ยงการทำงานซ้ำซ้อนหรือการทำงานที่ไม่จำเป็นอีกด้วย

การทำสมาธิ

หลายคนอาจไม่รู้ว่า การทำสมาธิเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้จิตใจสงบและลดความเครียด เพราะการทำสมาธิช่วยลดความคิดที่วุ่นวายและทำให้จิตใจสงบ ซึ่งช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและลดอาการเครียดไม่รู้ตัว

การพักผ่อนอย่างเพียงพอ

การนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพมีส่วนช่วยให้ร่างกายและจิตใจฟื้นฟูจากภาวะเครียดไม่รู้ตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากระหว่างที่นอนหลับสมองของเราจะมีเวลาจัดระเบียบความคิด ช่วยให้เราสามารถจัดการกับความเครียดและตัดสินใจได้ดีขึ้น 

ดังนั้นควรเช็กให้แน่ใจว่าคุณมีเวลานอนหลับที่เพียงพอทุกคืน โดยการตั้งเวลานอนที่สม่ำเสมอและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอนหลับ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้รับการพักผ่อนที่ดี

ใช้เวลากับกิจกรรมที่ชื่นชอบ

การจัดสรรเวลาให้กับกิจกรรมที่เรารัก เช่น การอ่านหนังสือ การทำงานศิลปะ หรือการฟังเพลง เป็นวิธีที่ดีในการดูแลสุขภาพจิตและลดความเครียดในชีวิตประจำวันที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยให้จิตใจของเราได้พักผ่อนและลดความเครียดนั่นเอง

แม้การจัดการกับอาการเครียดไม่รู้ตัวต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่การมีแผนการที่ชัดเจนในการรับมือกับความเครียดสะสมช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น โดยการปฏิบัติตามนี้

  1. รับรู้และประเมินอาการ เริ่มต้นด้วยการสังเกตและรับรู้สัญญาณของความเครียด เช่น ความรู้สึกวิตกกังวล, อาการทางกายภาพ หรือการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์
  2. วางแผนจัดการความเครียด โดยกำหนดวิธีที่เหมาะสมสำหรับเรา เช่น การทำสมาธิ, การออกกำลังกาย หรือการฝึกหายใจลึกและช้า
  3. จัดระเบียบเวลาและลำดับความสำคัญ เพราะการกำหนดลำดับความสำคัญของงาน จะช่วยให้จัดสรรเวลาได้อย่างเหมาะสม และลดความเครียดจากการมีงานล้นมือ
  4. ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้ นอกจากช่วยให้ทำงานได้อย่างราบรื่น ยังป้องกันความรู้สึกท้อแท้และเครียดจากการตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไป
  5. ดูแลสุขภาพร่างกาย สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการนอนหลับเพียงพอ การทานอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายเป็นประจำนั่นเอง
  6. ขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น หากความเครียดมีความรุนแรงหรือไม่สามารถจัดการได้ด้วยตนเอง ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยาหรือที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิต

เห็นได้ว่าภาวะเครียดไม่รู้ตัวมีความคล้ายคลึงกับอาการเครียดทั่วไปที่สามารถหายได้เอง แต่ความจริงแล้วอาการเครียดไม่รู้ตัวอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตมากกว่าที่คิด นอกจากนี้ความเครียดไม่รู้ตัวส่งผลกระทบต่อผู้คนรอบข้างได้อีกด้วย ฉะนั้น หากคุณสงสัยว่าอาการร่างกายเครียดไม่รู้ตัวจนเป็นสาเหตุที่ทำให้นอนไม่หลับหรือรู้สึกเหนื่อยล้าตลอดเวลา และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง การขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างเหมาะสม และป้องกันไม่ให้ปัญหาขยายไปสู่โรคภัยอื่นๆ หรือปัญหาสุขภาพที่รุนแรง

บทความที่เกี่ยวข้อง