โรคพาร์กินสัน เป็นโรคที่ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการสั่น การเคลื่อนไหวช้า และความแข็งของกล้ามเนื้อ สำหรับนักดนตรี โรคนี้ถือเป็นความท้าทายมหาศาล แต่สำหรับโยฮันเนส ลินเนอร์ (Johannes Linnebank) นักไวโอลินชาวดัตช์ การวินิจฉัยว่าเป็นโรคพาร์กินสันในปี 2007 ไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปสรรค แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่น่าทึ่งในการใช้ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของการบำบัดรักษา
การวินิจฉัยและความท้าทาย
โยฮันเนส ลินเนอร์ อายุ 56 ปีในขณะที่ได้รับการวินิจฉัย เขาเป็นนักไวโอลินในวงซิมโฟนีออร์เคสตราแห่งเมืองอัมสเตอร์ดัมมาเป็นเวลากว่า 30 ปี อาการแรกที่เขาสังเกตเห็นคือการสั่นเล็กน้อยที่มือซ้าย แต่เขาไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก จนกระทั่งอาการสั่นเริ่มรุนแรงขึ้นและเริ่มกระทบต่อการเล่นไวโอลิน
“ผมสังเกตเห็นว่าผมเริ่มมีปัญหาในการควบคุมนิ้วของผม โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเล่นในช่วงที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ” ลินเนอร์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร The Strad “เสียงเริ่มไม่บริสุทธิ์และมีการสั่นที่ไม่ต้องการ”
หลังจากการวินิจฉัย แพทย์บอกเขาว่าอาจต้องเลิกอาชีพนักดนตรีในไม่ช้า ลินเนอร์รู้สึกหมดหวังและซึมเศร้า การเล่นดนตรีเป็นทั้งอาชีพและความหลงใหลของเขา การสูญเสียความสามารถในการเล่นดนตรีจึงเป็นเหมือนการสูญเสียส่วนหนึ่งของตัวตน
การค้นพบดนตรีบำบัด
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อลินเนอร์ได้พบกับ นพ.บาซิล การ์เวย์ (Dr. Bastiaan Bloem) ประสาทแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคพาร์กินสันที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแรดบาวด์ในประเทศเนเธอร์แลนด์ แทนที่จะแนะนำให้เลิกเล่นดนตรี การ์เวย์แนะนำให้ลินเนอร์ใช้ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของการบำบัด
หลักการของดนตรีบำบัดในผู้ป่วยพาร์กินสันมีพื้นฐานจากการศึกษาที่พบว่า จังหวะและการเคลื่อนไหวซ้ำๆ สามารถกระตุ้นวงจรประสาทที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากโรคพาร์กินสันมากนัก
ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Neurology ในปี 2015 การ์เวย์และคณะพบว่า การเล่นเครื่องดนตรีอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของมอเตอร์ในผู้ป่วยพาร์กินสันได้
โปรแกรมการบำบัดของลินเนอร์
ลินเนอร์ร่วมกับนักกายภาพบำบัดและนักดนตรีบำบัดพัฒนาโปรแกรมที่ผสมผสานระหว่างการฝึกเล่นดนตรี การออกกำลังกาย และการใช้ยา โปรแกรมนี้ประกอบด้วย:
- การฝึกซ้อมอย่างมีระบบ: ลินเนอร์เริ่มจากการฝึกซ้อมเพลงง่ายๆ ที่เน้นการเคลื่อนไหวพื้นฐาน ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความซับซ้อน
- การฝึกกับเมโทรโนม: การฝึกซ้อมกับเมโทรโนมช่วยให้เขารักษาจังหวะได้ดีขึ้นและช่วยลดอาการสั่น
- การปรับเทคนิคการเล่น: เขาต้องปรับเทคนิคการกดนิ้วและวิธีการจับคันชักเพื่อให้เหมาะกับข้อจำกัดทางกายภาพที่เปลี่ยนไป
- การฝึกกายภาพบำบัดเฉพาะทาง: เขาได้รับการฝึกกายภาพบำบัดที่ออกแบบเฉพาะสำหรับมือและแขน เพื่อรักษาความยืดหยุ่นและกำลังของกล้ามเนื้อ
- การจัดตารางยาให้เหมาะสม: เขาปรับเวลาการรับประทานยาให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงที่ต้องเล่นดนตรี
ดร.มิเชล ทรัมเป่ (Dr. Michael Thaut) ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาดนตรีจากมหาวิทยาลัยโทรอนโต อธิบายว่า “ดนตรีกระตุ้นสมองในวงกว้าง ไม่เพียงแต่ส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลอารมณ์และความจำด้วย ในผู้ป่วยพาร์กินสัน การเล่นดนตรีสามารถช่วยสร้างเส้นทางประสาทใหม่ที่อ้อมผ่านส่วนของสมองที่เสียหาย”
ความก้าวหน้าและความสำเร็จ
หลังจากฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 18 เดือน ลินเนอร์เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง อาการสั่นลดลงอย่างมีนัยสำคัญระหว่างที่เขาเล่นดนตรี แม้ว่าจะยังคงมีอาการในช่วงเวลาอื่น การควบคุมการเคลื่อนไหวของเขาดีขึ้น และเขาสามารถเล่นเพลงที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
“มันเหมือนกับว่าร่างกายของผมจดจำวิธีการเล่นไวโอลินได้ลึกกว่าระดับที่โรคพาร์กินสันสามารถทำลายได้” ลินเนอร์กล่าว “เมื่อผมอยู่ในโหมดการเล่นดนตรี มันเหมือนกับว่าสมองของผมใช้เส้นทางประสาทที่แตกต่างออกไป”
จุดสูงสุดของการเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นในปี 2013 เมื่อลินเนอร์กลับมาแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกหลังจากได้รับการวินิจฉัย เขาเล่นเพลง “The Four Seasons” ของวิวัลดี ซึ่งเป็นบทประพันธ์ที่ท้าทายแม้แต่สำหรับนักไวโอลินที่มีสุขภาพสมบูรณ์ การแสดงของเขาได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากผู้ชม
ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Movement Disorders ในปี 2016 โดย ดร.การ์เวย์และคณะ ได้ติดตามกรณีของลินเนอร์และนักดนตรีที่เป็นโรคพาร์กินสันอีก 7 คน พบว่า 6 ใน 8 คนที่ใช้ดนตรีบำบัดอย่างสม่ำเสมอมีอาการทางมอเตอร์ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
การสร้างแรงบันดาลใจและการแบ่งปัน
ปัจจุบัน ลินเนอร์ยังคงเล่นกับวงออร์เคสตราในตำแหน่งพาร์ทไทม์ และอุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้กับการสอนและการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับดนตรีบำบัดสำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน เขาก่อตั้งมูลนิธิ “Music Against Parkinson’s” ในปี 2015 ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยพาร์กินสันเข้าถึงดนตรีบำบัดได้
“ดนตรีไม่ใช่แค่งานอดิเรกหรืออาชีพสำหรับผม มันเป็นยาของผม” ลินเนอร์กล่าว “เมื่อผมเล่นดนตรี ผมไม่รู้สึกว่าเป็นคนป่วย ผมรู้สึกเป็นตัวเองอีกครั้ง”
เรื่องราวของลินเนอร์ได้รับการบันทึกในสารคดีเรื่อง “Healing Notes” ในปี 2018 ซึ่งได้รับรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์ด้านสุขภาพหลายแห่ง
บทสรุป
เรื่องราวของโยฮันเนส ลินเนอร์แสดงให้เห็นถึงพลังของดนตรีในการเยียวยาและการปรับตัว โรคพาร์กินสันยังคงเป็นความท้าทายในชีวิตประจำวันของเขา แต่ด้วยความช่วยเหลือของดนตรี เขาสามารถจัดการกับอาการของโรคและยังคงทำในสิ่งที่เขารัก
การศึกษาล่าสุดในวารสาร Neuroscience and Biobehavioral Reviews ในปี 2021 โดย ดร.สิมพ์สันและคณะ ยืนยันว่าดนตรีบำบัดเป็นวิธีการเสริมที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับอาการทางมอเตอร์และอาการที่ไม่ใช่มอเตอร์ในผู้ป่วยพาร์กินสัน
เรื่องราวของลินเนอร์ยังให้ความหวังและแรงบันดาลใจแก่ผู้ป่วยพาร์กินสันทั่วโลก แสดงให้เห็นว่าแม้จะเผชิญกับการวินิจฉัยที่เปลี่ยนแปลงชีวิต ความหลงใหลในดนตรีสามารถเป็นทั้งที่พักพิงและเครื่องมือในการเอาชนะความท้าทายได้
อ้างอิง
- Bloem, B. R., de Vries, N. M., & Ebersbach, G. (2015). Nonpharmacological treatments for patients with Parkinson’s disease. Movement Disorders, 30(11), 1504-1520.
- Thaut, M. H., McIntosh, G. C., & Hoemberg, V. (2015). Neurologic Music Therapy: From Social Science to Neuroscience. Frontiers in Neurology, 6, 225.
- Bloem, B. R., Marks, W. J., Silva de Lima, A. L., Kuijf, M. L., van Laar, T., Jacobs, B. P., … & Munneke, M. (2016). The “instrument test”: Assessing musical function in musicians with Parkinson’s disease. Movement Disorders, 31(S2), S1-S688.
- Simpson, R., Koer, L., & Fleming, V. (2021). Music interventions for people with Parkinson’s disease: A systematic review and meta-analysis. Neuroscience and Biobehavioral Reviews, 128, 612-634.
- Linnebank, J. (2018). Healing Notes [Documentary]. Amsterdam Film Productions.
- The Strad Magazine. (2014, March). Playing Through Parkinson’s: An Interview with Johannes Linnebank.