Zero-Waste Surgery: นวัตกรรมห้องผ่าตัดไร้ของเสีย

Care / Eco Tech

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นวิกฤตระดับโลก การดูแลสุขภาพซึ่งมีภารกิจหลักในการรักษาชีวิตมนุษย์ กลับกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โรงพยาบาลทั่วโลกผลิตขยะมากกว่า 4 พันล้านปอนด์ต่อปี และสร้างก๊าซเรือนกระจกถึง 10% ของปริมาณทั้งหมดในประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่ห้องผ่าตัดซึ่งมีพื้นที่เพียงเศษเสี้ยวของโรงพยาบาล กลับเป็นแหล่งกำเนิดขยะหลักที่มีส่วนสูงถึง 70% ของขยะทั้งหมดในโรงพยาบาล

การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Surgery เผยให้เห็นว่าห้องผ่าตัดแต่ละห้องสามารถผลิตขยะได้มากถึง 2,300 กิโลกรัมต่อปี โดยใช้พลังงานมากกว่าแผนกอื่นๆ ในโรงพยาบาลถึง 6 เท่า ขณะที่การศึกษาจากออสเตรเลียพบว่าระบบสุขภาพของประเทศผลิตขยะ 236 ล้านกิโลกรัมต่อปี และเป็นหนึ่งในแหล่งสร้างขยะที่ใหญ่ที่สุดในระดับประเทศ

สาเหตุหลักของปัญหานี้มาจากการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการผ่าตัดสมัยใหม่ การใช้อุปกรณ์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพิ่มมากขึ้น การผ่าตัดด้วยกล้องและหุ่นยนต์ที่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ รวมถึงการใส่ใจเรื่องการป้องกันการติดเชื้อมากขึ้น ทำให้เกิดการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลและวัสดุสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นอย่างมาก

การศึกษาจากโรงพยาบาลในประเทศอิตาลีที่ตีพิมพ์ในวารสาร BJS พบว่าถึง 90% ของขยะจากห้องผ่าตัดถูกจัดประเภทผิดว่าเป็นขยะอันตราย และต้องนำไปเผาทำลาย ซึ่งนอกจากจะเพิ่มต้นทุนแล้ว ยังสร้างสารพิษและทำให้การรีไซเคิลทำได้ยากขึ้น

นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสิ่งแวดล้อมได้พัฒนากรอบการทำงานแบบ “5R” เพื่อลดผลกระทบจากห้องผ่าตัด ได้แก่:

Reduce (ลด) การลดการใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น การศึกษาจากโรงพยาบาลในสหรัฐฯ พบว่าการปรับลดอุปกรณ์ในชุดผ่าตัดมาตรฐานสามารถลดขยะได้ 2,437 ปอนด์ต่อปี และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 45,719 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

Reuse (ใช้ซ้ำ) การเปลี่ยนจากอุปกรณ์แบบใช้ครั้งเดียวเป็นแบบใช้ซ้ำได้ เช่น ชุดผ่าตัด ผ้าคลุม และอ่างล้างที่สามารถนำกลับมาใช้ได้หลังจากการฆ่าเชื้อ การศึกษาจาก University of Maryland Medical Center พบว่าการใช้ผ้าคลุมแบบใช้ซ้ำได้ช่วยลดขยะ 138,748 ปอนด์และประหยัดค่าขนส่งขยะ 38,000 ดอลลาร์สหรัฐ

Recycle (รีไซเคิล) Stanford Medicine ได้เริ่มโครงการรีไซเคิลผ้า blue wrap ที่ใช้ห่อถาดอุปกรณ์ผ่าตัดซึ่งมีน้ำหนักถึง 36,000 ปอนด์ต่อปี แทนที่จะนำไปฝังกลบ

Rethink (คิดใหม่) การทบทวนกระบวนการต่างๆ เช่น การเปลี่ยนจากการล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นการใช้แอลกอฮอล์เจล ซึ่งช่วยประหยัดน้ำได้ 2.7 ล้านลิตรต่อปีและลดค่าใช้จ่าย 2,233 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

Research (วิจัย) การศึกษาเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกจากนี้ การศึกษาล่าสุดยังเสนอ “R ที่ 6” คือ Repurpose (นำไปใช้ประโยชน์ใหม่) การนำอุปกรณ์ที่สะอาดแต่ไม่สามารถใช้ในการรักษาได้แล้วไปใช้ประโยชน์ในชุมชน การศึกษาจากโรงพยาบาลเด็กในสหรัฐฯ พบว่าในช่วง 6 สัปดาห์สามารถรวบรวมอุปกรณ์ได้มากกว่า 960 ชิ้น มีมูลค่าประมาณ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ และนำไปบริจาคให้องค์กรต่างๆ ในชุมชน

Cleveland Clinic ซึ่งเป็นศูนย์การแพทย์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกโครงการ “Greening the OR” โดยจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะและทุนการศึกษาต่อด้านความยั่งยืนในห้องผ่าตัดโครงการนี้ได้ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในการลดการใช้พลังงาน ขยะ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมาก

โรงพยาบาล Solihull ในสหราชอาณาจักรได้สร้างสถิติใหม่ด้วยการทำ “การผ่าตัดคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์” ครั้งแรกของโลก ขณะที่ Sunnybrook Health Sciences Centre ในแคนาดาใช้ระบบดักจับและรีไซเคิลแก๊สยาชาในห้องผ่าตัด 21 ห้อง เป็นเวลา 5 ปี สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่าการปล่อยจากรถยนต์ 205 คันต่อปี

หนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้คือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การศึกษาที่ทบทวน 23 งานวิจัยและ 28 โครงการปรับปรุงคุณภาพพบว่าการใส่ใจเรื่องความยั่งยืนในห้องผ่าตัดสามารถลดต้นทุนของโรงพยาบาลและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ

โดยเฉพาะการให้ความรู้แก่บุคลากรเรื่องการทิ้งขยะอย่างถูกต้องให้ผลประหยัดสูงสุด โรงพยาบาลหนึ่งสามารถประหยัดได้ถึง 694,141 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี และลดขยะติดเชื้อได้ 30% เพียงจากการจัดการขยะให้ถูกประเภท

โรงพยาบาล Inova Fairfax สามารถลดขยะติดเชื้อได้ 14% และประหยัดค่าขนส่งขยะ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Metro Health Hospital ประหยัดได้หลายแสนดอลลาร์และลดขยะที่นำไปฝังกลบได้หลายตัน

แม้จะมีผลประโยชน์ชัดเจน แต่การนำแนวคิด Zero-Waste Surgery ไปปฏิบัติยังเผชิญความท้าทายหลายประการ การศึกษาพบว่า 39% ของโครงการเน้นความสำคัญของการได้รับการสนับสนุนจากแพทย์ พยาบาล และผู้บริหาร รวมถึงความต่อเนื่องในการสนับสนุนจากบุคลากรทุกระดับ

ความกังวลเรื่องเวลาในการผ่าตัดที่อาจเพิ่มขึ้น ความปลอดภัยของผู้ป่วย และการขาดความรู้เกี่ยวกับต้นทุนที่แท้จริงของอุปกรณ์และการจัดการขยะ ล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญ นอกจากนี้ การขาด “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ในแต่ละโรงพยาบาลก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางความก้าวหน้า

อย่างไรก็ตาม แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่มีความตื้นตันที่จะเข้าร่วม การสำรวจแพทย์ผ่าตัดพบว่า 95% ยินดีที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานเพื่อลดขยะ ขณะที่แพทย์ผ่าตัดต้อกระจก 92% เห็นว่าขยะในห้องผ่าตัดมีมากเกินไปและต้องลด และ 99% มีความกังวลเรื่องภาวะโลกร้อนและต้องการทางเลือกที่ใช้ซ้ำได้มากขึ้น

การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลง เช่น ระบบ Healthcare Sustainability Mode and Effect Analysis (HSMEA) ซึ่งดัดแปลงมาจากเครื่องมือวิเคราะห์ความเสี่ยงทางการแพทย์ เพื่อประเมินและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ

การใช้ปัจจัยการแปลงคาร์บอนฟุตพรินต์จาก Department for Environment, Food and Rural Affairs (DEFRA) ช่วยให้สามารถคำนวณผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของขยะแต่ละประเภทได้อย่างแม่นยำ โดยรวมทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่การผลิตและการทำลาย

นอกจากนี้ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การใช้ภาชนะแข็งแรงที่ใช้ซ้ำได้แทนการใช้ blue wrap และการออกแบบชุดอุปกรณ์ผ่าตัดที่ปรับแต่งเฉพาะตามประเภทการผ่าตัด ล้วนเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ

องค์กร Practice Greenhealth ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำด้านการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน ให้บริการแก่โรงพยาบาลและระบบสุขภาพมากกว่า 1,700 แห่ง ได้จัดตั้ง “Greening the Operating Room Initiative” เพื่อให้ข้อมูล เครื่องมือ และทรัพยากรแก่โรงพยาบาลที่ร่วมโครงการ

องค์กรนี้ยังได้เปิดตัว Council for Environmentally Responsible Surgery เพื่อเน้นความสำคัญของการนำของแพทย์ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และได้พัฒนาแนวทางการจัดซื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmentally Preferable Purchasing) ซึ่งเน้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพน้อยที่สุด

ความท้าทายในการสร้างห้องผ่าตัดที่ยั่งยืนอยู่ที่การสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยของผู้ป่วยและความสำเร็จในการรักษา กับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นี่ต้องการความร่วมมือจากทีมงานหลากหลายสาขา ตั้งแต่แพทย์ผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ พยาบาล ไปจนถึงผู้บริหารโรงพยาบาล

การสร้างความตระหนักและการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของสถาบันเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ควรเริ่มต้นด้วยการรณรงค์ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและการให้ความรู้แก่นักศึกษาและผู้ฝึกหัดทางการแพทย์เกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการให้บริการด้านสุขภาพ

ในอนาคต คาดว่าจะมีการพัฒนามาตรฐานและนโยบายระดับชาติเพื่อส่งเสริมการใช้วิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในห้องผ่าตัด รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและวัสดุใหม่ที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่กระทบต่อคุณภาพการรักษา

ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาล ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ และหน่วยงานภาครัฐจะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อให้การดูแลสุขภาพสามารถทำหน้าที่รักษาชีวิตมนุษย์ไปพร้อมกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อคนรุ่นต่อไป

Zero-Waste Surgery ไม่ใช่เพียงแนวคิดในอุดมคติ แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่โรงพยาบาลทั่วโลกกำลังนำไปปฏิบัติด้วยผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการลดของเสียในห้องผ่าตัดไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

การเปลี่ยนแปลงนี้ต้อการความมุ่งมั่นจากทุกฝ่าย ตั้งแต่แพทย์และพยาบาลที่ปฏิบัติงานในห้องผ่าตัด ไปจนถึงผู้บริหารโรงพยาบาลและผู้กำหนดนโยบาย ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน การสร้างห้องผ่าตัดที่ยั่งยืนไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ด้วยความร่วมมือและความตั้งใจ

ในโลกที่เผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การดูแลสุขภาพจึงต้องวิวัฒนาการเพื่อให้สามารถรักษาชีวิตมนุษย์ไปพร้อมกับการปกป้องโลกใบนี้เพื่อคนรุ่นต่อไป Zero-Waste Surgery คือหนึ่งในก้าวสำคัญสู่อนาคตที่ยั่งยืนของการแพทย์สมัยใหม่


แหล่งอ้างอิง:

  1. American Journal of Surgery (2024). “The 6th R of sustainability: Repurposing operating room waste for community benefit”
  2. BJS – British Journal of Surgery (2025). “Impact of operating room waste in a high-volume institution: results from the CARING NATURE project”
  3. Stanford Medicine (2024). “Initiatives aim to make the operating room sustainable”
  4. Cleveland Clinic ConsultQD (2025). “How Cleveland Clinic Is Greening Its Operating Rooms”
  5. Practice Greenhealth Organization. “Greening the Operating Room Initiative”
  6. Journal of the American College of Surgeons (2022). “Going green in operating rooms reduces cost and improves environmental impact”
  7. CMAJ – Canadian Medical Association Journal (2012). “People, planet and profits: the case for greening operating rooms”
  8. The Medical Journal of Australia (2024). “Developing the green operating room: exploring barriers and opportunities”
  9. MDPI Sustainability Journal (2022). “Healthcare Sustainability Mode and Effect Analysis (HSMEA)”

บทความที่เกี่ยวข้อง