รู้จักต่อมลูกหมากโตหรือ BPH คือโรคอะไร

Health / Urinary

BPH คือโรคร้ายใกล้ตัวที่คุณผู้ชายไม่ควรมองข้าม แต่ควรจะใส่ใจ

BPH คือโรคที่เกิดความผิดปกติที่ต่อมลูกหมาก ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพอันดับต้น ๆ ที่พบได้มากในเพศชายโดยเฉพาะผู้ชายวัยกลางคนและผู้สูงอายุ โดยลักษณะหรือภาวะของโรคต่อมลูกหมากโต คือการขยายตัวอย่างผิดปกติของต่อมลูกหมาก ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพโดยรวมและคุณภาพการใช้ชีวิตได้เพราะต่อมลูกหมาก คือหนึ่งในอวัยวะสำคัญของระบบสืบพันธ์ุเพศชาย ดังนั้นการใส่ใจโรคต่อมลูกหมากโต คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
บทความนี้จะพาไปดูว่าต่อมลูกหมากโตคืออะไร สาเหตุของต่อมลูกหมากโตคืออะไร มีลักษณะอาการและวิธีการป้องกันอย่างไร? เพื่อเป็นความรู้ให้คุณสามารถป้องกันตัวเองและรักษาได้ทันการ

โรค BPH (Benign Prostatic Hyperplasia) หรือโรคต่อมลูกหมากโต คือ ภาวะที่ทำให้ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ขึ้นผิดปกติ สามารถพบได้บ่อยในผู้ชาย
เมื่อมีอายุเยอะขึ้น โดยปกติแล้วต่อมลูกหมาก คืออวัยวะที่มีลักษณะเป็นต่อมขนาดเล็กที่อยู่ในระบบสืบพันธ์ุของเพศชาย มีการเปรียบเทียบขนาดต่อมลูกหมากปกติว่าขนาดเทียบเท่ากับผลวอลนัต (Walnut Size) หน้าที่หลัก ๆ ของต่อมลูกหมากคือ การผลิตสารอาหารสำหรับอสุจิและผลิตน้ำหล่อเลี้ยงซึ่งมีบทบาทสำคัญ
อย่างยิ่งสำหรับกระบวนการสืบพันธ์ุ ดังนั้นต่อมลูกหมากโต คือโรคที่ไม่ควรมองข้ามและไม่ควรชะล่าใจเพื่อที่จะสามารถรักษาได้ทันท่วงที

โรคต่อมลูกหมากโต คือโรคร้ายที่ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตทั้งด้านการนอนหลับ การทำงาน หรือการดำเนินชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพและภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงในระยะยาวได้หากไม่รีบเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนสามารถสังเกตและเข้ารับการตรวจต่อมลูกหมากโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทันก่อนที่จะเกิดการลุกลามจนสายเกินไป มาสังเกตอาการของโรคต่อมลูกหมากโตที่นำมาฝากไปพร้อม ๆ กันเลย

  • ปัสสาวะบ่อย ชอบตื่นขึ้นมาปัสสาวะในช่วงเวลากลางคืน
  • ปัสสาวะอ่อน หรือมีอาการปัสสาวะติดขัดหรือสะดุดเป็นช่วง ๆ 
  • ปัสสาวะไม่ออกเฉียบพลัน
  • ปัสสาวะยาก ต้องมีการเบ่ง
  • มีเลือดปนออกในปัสสาวะ
  • มีอาการกลั้นปัสสาวะไว้ไม่อยู่
  • มีอาการปวดเมื่อปัสสาวะ
  • ใช้เวลาในการปัสสาวะนาน

แม้จะทราบว่าอาการของโรคต่อมลูกหมากโต คืออะไรแล้ว แต่หลายคนอาจสงสัยว่าสาเหตุที่แท้จริงของโรคต่อมลูกหมากโตคืออะไรกันแน่? ต่อมลูกหมากโตหรือBPH คือโรคที่เกิดจากภาวะการขยายตัวผิดปกติของต่อมลูกหมากซึ่งเป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญในระบบสืบพันธ์ุเพศชายที่มีหน้าที่ผลิตน้ำหล่อเลี้ยงอสุจิ ซึ่งเมื่อ
มีอาการต่อมลูกหมากโตจะส่งผลให้เกิดการเบียดท่อปัสสาวะเป็นสาเหตุนำไปสู่อาการต่าง ๆ เช่น อาการปัสสาวะติดขัดหรืออาการปัสสาวะไม่ออก 

ในปัจจุบันยังไม่ทราบถึงสาเหตุของอาการที่แน่ชัดว่าต่อมโรคต่อมลูกหมากโต คือโรคที่เกิดจากอะไร แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับโรค
ต่อมลูกหมากโต ไม่ว่าจะเป็น

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) หรือความไม่สมดุลของฮอร์โมนอาจทำให้เกิดภาวะต่อมลูกหมากโต
  • อายุ: ต่อมลูกหมากโต คือโรคที่อาจพบได้เมื่อมีอายุมากขึ้น
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม: หากมีประวัติคนในครอบครัวที่เคยเป็นต่อมลูกหมากโต อาจทำให้มีความเสี่ยงสูงในการตรวจพบโรคต่อมลูกหมากโตได้
  • ปัจจัยด้านสุขภาพ: ปัจจัยด้านสุขภาพต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคอื่น ๆ อาจส่งกระทบให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคต่อมลูกหมากโตสูงขึ้น
  • ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต: การดูแลสุขภาพ การรับประทานอาหาร รวมไปถึงการออกกำลังกายล้วนเป็นสิ่งที่อาจมีผลต่อความเสี่ยงในการเกิดต่อมลูกหมากโต

ต่อมลูกหมากโต คือโรคที่คุณผู้ชายหลายคนควรให้ความใส่ใจอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อระบบปัสสาวะ ตลอดถึงคุณภาพชีวิตของผู้ที่ป่วย
ดังนั้นการเข้าใจปัจจัยเสี่ยงด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคต่อมลูกหมากโต คืออีกสิ่งสำคัญที่คุณผู้ชายหลายคนควรศึกษาทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน
เพราะการเข้าใจถึงปัจจัยที่มีความเสี่ยงส่งผลให้เกิดอาการต่อมลูกหมากโตจะช่วยให้คุณผู้ชายสามารถตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของตัวเอง และทำให้สนใจ
ในการดูแลสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้สามารถเข้ารับการตรวจวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็วและสามารถปรับปรุงไลฟ์สไตล์ชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ยิ่งขึ้นได้

  • การที่อายุมากขึ้น: ต่อมลูกหมากโตมักพบในผู้ป่วยชาย โดยผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 มักพบอาการน้อยกว่าผู้ป่วยวัยอื่น และเมื่ออายุเพิ่มขึ้นอาการต่อมลูกหมากโต
    จะมีความรุนแรงขึ้น
  • การใช้สมุนไพร:  การใช้สมุนไพรบางประเภทเพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชายหรือกำลังอยู่ในการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงให้ลูกหมากโตได้
  • การเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจ: โรคเบาหวานและโรคหัวใจมักต้องใช้ยาที่มีผลกระทบต่อระดับฮอร์โมน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงกระตุ้นให้เกิดต่อมลูกหมากโต
  • การติดเชื้อในลูกหมาก: การติดเชื้อในต่อมลูกหมากหรือการเป็นต่อมลูกหมากอักเสบที่เป็นสาเหตุทำให้ลูกหมากบวมช้ำ เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดต่อมลูกหมากโต
  • การใช้ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้หรือยาที่ส่งผลต่อฮอร์โมน อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดต่อมลูกหมากโต
  • ความเครียด: สุขภาพจิตรวมถึงความเครียดล้วนส่งผลต่อปัญหาสุขภาพ จึงอาจทำให้เป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดต่อมลูกหมากโตได้เช่นเดียวกัน

โรคต่อมลูกหมากโต คือโรคที่ควรรีบรักษาและควรให้ความสำคัญโดยเฉพาะกับผู้ชายวัยกลางคนหรือผู้ชายสูงวัย เพราะแม้โรคต่อมลูกหมากโตจะไม่ใช่โรคร้าย
แต่หากปล่อยไว้นานย่อมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก และอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมด้วย การเข้ารับการวินิจฉัยและเข้ารักการรักษาโดยแพทย์
ผู้เชี่ยวชาญอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดต่อสุขภาพ แล้วต่อมลูกหมากโตหรือ BPH คือโรคที่ต้องมีการรักษาอย่างไร? มาดูวิธีการรักษาที่รวบรวมมาฝากพร้อมกันเลย

การรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยยา

ในผู้ป่วยบางรายแพทย์อาจมีการวินิจฉัยและมีการสั่งยาบางชนิดให้ ซึ่งเป็นยาที่มีส่วนช่วยให้ขนาดของต่อมลูกหมากเล็กลงหรือคลายกล้ามเนื้อเรียบภายใน
ต่อมลูกหมากให้อ่อนตัวลง โดยกลุ่มยารักษาที่ใช้รักษาโรคต่อมลูกหมากโต คือ

  •  ยากลุ่ม Alpha blockers: เป็นยาที่ช่วยเรื่องการผ่อนคลายกล้ามเนื้อในต่อมลูกหมากและคอกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้ปัสสาวะง่ายขึ้น
  • ยา 5 Alpha Reductase Inhibitor : เป็นยาที่ออกฤทธิ์ทำให้ต่อมลูกหมากหดตัวและเข้าไปยับยั้งการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนที่ทำให้ต่อมโลกหมากโต
  • การใช้ยาหลาย ๆ ชนิดร่วมกัน: หากไม่สามารถรักษาด้วยชนิดใดชนิดหนึ่งได้ แพทย์อาจมีการสั่งใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน

การรักษาโดยการผ่าตัดแบบส่องกล้อง

วิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาต่อมลูกหมากโต คือการรักษาโดยการผ่าตัดแบบส่องกล่อง เป็นวิธีการรักษาที่แพทย์อาจมีการแนะนำหากอาการของผู้ป่วย
ต่อมลูกหมากโตอยู่ในระดับปานกลางถึงรุนแรง ไม่สามารถรักษาด้วยยาได้ หรือผู้ป่วยมีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ มีภาวะทางเดินปัสสาวะอุดตันและมีเลือดปนอยู่ในปัสสาวะ โดยวิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดแบบส่องกล้องนั้นมีหลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • การผ่าตัดส่องกล้องเพื่อขูดต่อมลูกหมาก (TURP): เป็นวิธีรักษาที่ช่วยบรรเทาอาการแก่ผู้ป่วยได้เร็วและผู้ป่วยสามารถปัสสาวะได้แรงทันทีเมื่อผ่าตัดเสร็จ
  • การผ่าตัดส่องกล้องเพื่อขยายท่อปัสสาวะ (TUIP): เป็นวิธีการรักษาที่ทำให้ป่วยสามารถปัสสาวะได้ดีขึ้น
  • การผ่าตัดด้วยการใช้คลื่นไมโครเวฟ (TUMT): เป็นวิธีการรักษาด้วยการปล่อยพลังงานไมโครเวฟช่วยให้ต่อมลูกหมากหดตัวลงและปัสสาวะได้ดียิ่งขึ้น
  • การผ่าตัดส่องกล้องด้วยเข็ม (TUNA): เป็นการใช้ความร้อนจากการปล่อยคลื่นด้วยเข็มเพื่อทำลายเนื้อเยื่อบริเวณต่อมลูกหมากที่อุดกั้นปัสสาวะ
  • การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser Therapy): เป็นวิธีการรักษาที่สามารถทำได้ทันทีและมีผลค้างเคียงน้อย โดยการใช้เลเซอร์ตัดหรือทำลายต่อมลูกหมากโต

การรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยเลเซอร์

การรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยการใช้เลเซอร์เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ทั้งปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง ทั้งยังเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่าการรักษาในรูปแบบอื่น ซึ่งสามารถรักษาได้โดย

  • การสลายเนื้อเยื่อ (Ablative Procedure): เป็นวิธีการรักษาที่ป่วยสามารถฟื้นฟูได้เร็ว มีเลือดน้อย ส่งผลทำให้ปัสสาวะไหลได้เยอะขึ้น
  • การเลาะเนื้อเยื่อออกทั้งหมด (Enucleation procedures): เป็นวิธีการรักษาที่ส่งผลให้ปัสสาวะไหลดีขึ้น ทั้งยังสามารถป้องกันการกลับมาเป็นลูกหมากโตซ้ำได้

การย้ายหรือยกเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากออกจากท่อปัสสาวะ (PUL)

อีกหนึ่งในวิธีการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต คือการย้ายหรือยกเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากออกจากท่อปัสสาวะ (Prostatic Urethral Lift: PUL) เป็นวิธีรักษาที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยต่อมลูกหมากที่มีความกังวลเรื่องการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศหรือปัญหาด้านการหลั่ง เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่มีผลกระทบต่ำหากเทียบกับการรักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อขูดต่อมลูกหมากออก ซึ่งการรักษาต่อมลูกหมากด้วยการย้ายหรือยกเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากออกจากท่อปัสสาวะ (PUL) มีผลช่วยลดแรงกดทับที่เกิดขึ้นจากต่อมลูกหมากโตกีดกั้นท่อปัสสาวะ

แน่นอนว่าเมื่ออายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สุขภาพร่างกายหรือฮอร์โมนต่าง ๆ ย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลง รวมถึงปัญหาเรื่องโรคประจำตัวและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
ที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งโรคต่อมลูกหมากโต คือสิ่งหนึ่งที่อาจมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงนั้น เพราะความผิดปกติที่พบได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ของเพศชายคือต่อมลูกหมาก และเพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับผลกระทบจากโรคร้ายที่กล้ำกรายเข้ามาทำให้สุขภาพย่ำแย่ลง ในส่วนนี้จึงนำเอาวิธีการป้องกันโรคต่อมลูกหมากโต
หรือ BPH มาฝาก ดังนี้

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดี
  • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • พูดคุยปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องความเสี่ยงในการเกิดภาวะต่อมลูกหมากโต
  • เข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยในการวินิจฉัยและการเข้ารักการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ 
  • ให้ความสนใจกับอาการสัญญาณของภาวะต่อมลูกหมากโตเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันการ
  • จัดการปัญหาความเครียด เช่น การทำกิจกรรมผ่อนคลาย การทำสมาธิ หรือการฝึกโยคะ เพราะความเครียดเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพโดยรวม

โรคต่อมลูกหมากโต คือโรคที่แม้ไม่ได้ร้ายแรงเทียบเท่ามะเร็งต่อมลูกหมาก แต่เมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น การปัสสาวะบ่อย การปัสสาวะ
ไม่สุด หรือการเจ็บแสบขณะปัสสาวะ อาการเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบให้ผู้ป่วยหลายคนเกิดความวิตกกังวลและรบกวนจิตใจ วิธีการดูแลผู้ป่วยต่อมลูกหมากโต
จึงไม่เพียงช่วยให้ผู้ป่วยคลายความกังวลได้เท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ตลอดถึงเกิดความสบายใจจากการมีคุณภาพชีวิตที่ดี

การกินอาหารที่มีประโยชน์

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโตต้องใส่ใจ เนื่องจากอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิดมีมีผลต่อต่อมลูกหมากโต แล้วอาหารที่แนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโต คืออะไรบ้าง? มาไขข้อข้องใจไปพร้อมกันเลย

  • ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่: เป็นแหล่งรวมสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยไม่ให้เกิดเนื้องอกชนิดต่าง ๆ รวมถึงการเกิดต่อมลูกหมากโต
  • แซลมอน: ปลาที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย มีไขมันดี มีโอเมก้า 3 รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านมะเร็งและลดความเสี่ยงต่อมลูกหมากโต
  • มะเขือเทศ: ประกอบด้วยสาร Lycopene ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ส่งผลดีต่อเซลล์ต่อมลูกหมาก ช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคต่อมลูกหมากโต
  • ถั่ว: ประกอบด้วยแร่ธาตุสำคัญอย่างซีลีเนียมและสังกะสี ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญต่อการทำงานของต่อมลูกหมาก ทั้งยังมีส่วนช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน
    เพศชาย
  • เห็ด: ในเห็ดบางชนิดอุดมด้วยสาร Lentinan สาร Ergothioneine หรือสารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดความผิดปกติที่ต่อมลูกหมาก
  • ทับทิม: ประกอบไปด้วยสาร Ellagitannin และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการบำรุงต่อมลูกหมาก รวมถึงชะลอการลุกลามของมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • เมล็ดฟักทอง: ประกอบด้วยสาร Dihydrotestosterone ซึ่งเป็น Steroid Hormone ของเพศชาย ช่วยลดอาการต่อมลูกหมากโตและทำให้สามารถทำงาน
    ได้ปกติ

การออกกำลังกาย

แน่นอนว่าการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวันย่อมส่งผลให้เกิดสุขภาพที่ดี ซึ่งนั้นรวมไปถึงผลดีต่อผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโตเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและระบบทางเดินปัสสาวะ ช่วยลดความวิตกกังวล ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ควบคุมการปัสสาวะ ตลอดถึงช่วยควบคุมน้ำหนักซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานที่เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคต่อมลูกหมากโต

การติดตามอาการ

ขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโตที่ขาดไม่ได้คือหมั่นเข้ารับการรักษาและติดตามอาการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพราะเป็นส่วนสำคัญช่วยให้แพทย์สามารถประเมินความรุนแรงของอาการและสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ จากการวินิจฉัยหรือการประเมินไปใช้ในการวางแผนการรักษาหากอาการของผู้ป่วยไม่มีดีขึ้น รวมถึงช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบผลข้างเคียงจากการรักษาและโรคแทรกซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ผู้ป่วยมีความเข้าใจว่าBPH คือโรคอะไรมากขึ้น นำไปสู่การดูแลสุขภาพที่ถูกต้องและแข็งแรง

ทราบหรือไม่ว่ามะเร็งต่อมลูกหมากและต่อมลูกหมากโตนั้นมีความแตกต่างกัน แม้อวัยวะที่เกิดโรคจะเป็นต่อมลูกหมากเช่นเดียวกัน แต่ลักษณะและผลกระทบของโรคมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งการเข้าใจความแตกต่างระหว่างมะเร็งต่อมลูกหมากกับโรคต่อมลูกหมากโตจะช่วยให้คุณสามารถดูแลสุขภาพตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

มะเร็งต่อมลูกหมาก

Prostate Cancer หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก คือโรคมะเร็งที่เกิดจากการเติบโตของเซลล์ที่มีความผิดปกติในบริเวณต่อมลูกหมาก อีกทั้งยังเกิดการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วและมีจำนวนมาก ซึ่งอาการของมะเร็งต่อมลูกหมากอาจแสดงไม่ชัดเจนในระยะแรก แต่หากมีการแพร่กระจายหรือการลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ
อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกายได้ ดังนั้นการเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีและวินิจฉัยต่อมลูกหมากอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ชายทุกคนควรทำ

ต่อมลูกหมากโต

BPH (Benign Prostatic Hyperplasia) หรือโรคต่อมลูกหมากโต คือภาวะที่ทำให้ลูกหมากมีขนาดใหญ่ขึ้นจนโตผิดปกติ ซึ่งอาจไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงเท่ามะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นโรคที่มักพบได้ในผู้ชายเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงวัยกลางคนและวัยชรา ซึ่งสาเหตุของต่อมลูกหมากโตอาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งยังมีการแสดงอาการต่าง ๆ เช่น การปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน การปัสสาวะติดขัด หรือการเจ็บขณะปัสสาวะ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนคงได้คำตอบแล้วว่า BPH คือโรคอะไร? อาการ สาเหตุ วิธีป้องกัน และวิธีการรักษาของโรคต่อมลูกหมากโต คืออะไร? ซึ่งเห็นได้ว่าเห็นได้ว่าต่อมลูกหมาก คือโรคที่คุณผู้ชายทุกคนควรใส่ใจและหมั่นสังเกตอาการของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะต่อมลูกหมากโต คือโรคที่สามารถพบได้มาก
เป็นอันดับต้น ๆ เมื่อผู้ชายมีอายุมากขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าข้อมูลที่นำมาฝากในวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้ทุกคนสามารถสังเกตอาการของตัวเองและตระหนักถึงความสำคัญ
ในการดูแลสุขภาพเพื่อมีคุณภาพในการใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง