สาเหตุอาการชาปลายมือ ปลายเท้าเกิดจากอะไรได้บ้าง?

Health

ชาปลายมือปลายเท้าหรืออาการชาปลายนิ้วคืออาการที่เป็นสัญญาณเตือนของความไม่ปกติของระบบประสาทในร่างกาย ซึ่งตามปกติแล้วอาการชาปลายนิ้วมือเกิดจากความเสียหายของเส้นประสาทส่วนปลายและส่งผลให้ร่างกายของเรามีอาการชาตามจุดต่าง ๆ และเป็นสาเหตุของเส้นประสาทเท้าอักเสบด้วยนั่นเอง

แท้จริงแล้วอาการชาปลายมือปลายเท้าเกิดได้จากหลายสาเหตุและมักจะพบได้บ่อยในกลุ่มคนวัยทำงาน เพราะลักษณะการใช้ชีวิตของคนวัยนี้จะส่งผลให้มีอาการชาตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายได้ง่ายกว่าคนกลุ่มอื่น ซึ่งอาการชาปลายนิ้วมือเกิดจากสาเหตุดังนี้

  • อยู่ในท่าทางเดิมเป็นเวลานาน
  • ทำกิจกรรมที่ใช้มือเยอะ ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ไม่ทั่วถึง
  • ปริมาณแร่ธาตุหรือวิตามินในร่างกายมีความผิดปกติ
  • ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
  • ปลอกหุ้มเส้นประสาทหรือเส้นประสาทอักเสบจากการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  • คนในครอบครัวเคยเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นประสาทผิดปกติ
  • เคยติดเชื้อโรคบางชนิด
  • ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  • เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคไต โรคเบาหวาน

อาการชาปลายประสาทไม่ได้มีเพียงแค่ความรู้สึกชาตามจุดต่าง ๆ ในร่างกายเท่านั้น เพราะเมื่อปลายประสาทอักเสบจะมีอาการอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น

  • อาการเสียว 
  • แสบร้อน 
  • ปวดมากจนรู้สึกว่าคล้ายกับการโดมเข็มแทง 
  • รับความรู้สึกผิดปกติ
  • อ่อนแรง
  • เหงื่อออกเยอะผิดปกติ
  • หน้ามืดเมื่อเปลี่ยนท่าทาง
  • ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดี

การรักษาอาการชาปลายมือ ปลายเท้าแบ่งตามกรณี

อาการเส้นประสาทอักเสบจะมีวิธีรักษาที่แตกต่างกันออกไปตามกรณี ซึ่งการรักษาที่แบ่งออกไปตามกรณีนั้น จะทำให้คนที่มีอาการชาปลายมือปลายเท้าได้รับการรักษาที่ถูกจุดและแม่นยำ โดยจะสามารถแบ่งวิธีการรักษาออกได้เป็น 3 กรณีหลัก ดังนี้

อาการชาไม่รุนแรง

คนที่มีอาการชาปลายมือปลายเท้าที่ไม่รุนแรงมากจะมีอาการชาหรือรู้สึกซ่าเป็นระยะ ซึ่งอาการชาไม่รุนแรงจะสามารถรักษาได้อย่างง่ายดายด้วยการเปลี่ยนท่าทาง ไม่อยู่ในอิริยาบถเดิมนาน ๆ เพื่อทำให้เส้นประสาทได้ขยับและสามารถบรรเทาอาการชาได้

อาการชารุนแรงและเป็นต่อเนื่อง

สำหรับคนที่มีอาการชาปลายมือปลายเท้าอย่างต่อเนื่อง อาจจะต้องรักษาด้วยยาต้านอาการอักเสบของเส้นประสาท ซึ่งถ้ารับยาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นก็จะต้องเข้าพบแพทย์และแพทย์อาจจะให้เข้ารับการผ่าตัดเอ็นที่กดทับเส้นประสาท

อาการชาเพราะผลข้างเคียงจากโรคอื่น

ถ้าอาการชาปลายมือปลายเท้าเป็นผลข้างเคียงมาจากโรคอื่น ๆ ที่กำลังเป็นอยู่ เช่น โรคเบาหวาน ก็จำเป็นจะต้องลดระดับน้ำตาลในเลือด หรือในผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว แพทย์อาจจะให้กินวิตามินเสริมเพื่อลดอาการชา

เทคนิคเพิ่มเติมสำหรับบรรเทาอาการชาปลายมือ ปลายเท้า

อาการชาปลายประสาทตามปลายมือปลายเท้าสามารถบรรเทาได้ด้วยเทคนิคมากมายที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการชาปลายมือปลายเท้าหรืออาการชาปลายนิ้ว ขอบอกเลยว่าเทคนิคสำหรับดูแลอาการชาเหล่านี้สามารถเริ่มทำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเทคนิคที่ช่วยบรรเทาอาการชาปลายนิ้วกับปลายเท้าจะมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย

กินอาหารที่มีวิตามินสูง

เทคนิคเพิ่มเติมสำหรับดูแลตัวเองเพื่อให้อาการชาตามมือและเท้าบรรเทาลงนั่นก็คือการกินอาหารที่มีวิตามินสูง เพราะอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินนั้น จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ดีและจำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งอาหารที่ควรจะกินเพื่อทำให้เส้นประสาทแข็งแรงมากยิ่งขึ้นนั้นมีดังนี้

  • ผลไม้
  • ผัก
  • ธัญพืชไม่ขัดสี
  • โปรตีน
  • อาหารไขมันต่ำ

ออกกำลังกายเสมอ

อย่างที่รู้กันดีว่าการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากการออกกำลังกายจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้แล้วก็ยังสามารถทำให้เส้นประสาทมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้อีกด้วย

โดยเราควรจะเน้นการออกกำลังที่เป็นการบำบัด เพื่อให้จุดที่ได้รับผลกระทบจากอาการชานั้นสามารถได้รับการฟื้นฟูอย่างตรงจุด จนส่งผลให้อาการชาปลายมือปลายเท้าบรรเทาลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาบน้ำอุ่น

การดูแลตัวเองด้วยการอาบน้ำอุ่นจะเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถช่วยบรรเทาอาการชาปลายนิ้วและปลายเท้าได้เป็นอย่างดี เพราะการอาบน้ำอุ่นจะช่วยทำให้เลือดในร่างกายไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อเลือดสามารถไหลเวียนได้ดีก็จะทำให้อาการชาบรรเทาลงได้นั่นเอง

งดเคลื่อนไหวจุดที่มีอาการชา

อีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถช่วยบรรเทาอาการชาได้ดีไม่แพ้เทคนิคอื่น ๆ ก็คือการงดเคลื่อนไหวจุดที่มีอาการชา โดยเทคนิคนี้จะช่วยทำให้จุดที่มีอาการชานั้นค่อย ๆ ลดลง เพราะเมื่องดเคลื่อนไหวจุดนั้น ๆ ก็จะสามารถทำให้เส้นประสาทมีอาการปวดน้อยลง ซึ่งเราสามารถใช้ผ้าพันในจุดที่มีอาการชาไว้เพื่อช่วยเตือนตัวเองว่าให้งดเคลื่อนไหวได้เลย

อาการชาปลายมือ ปลายเท้าแบบไหนถึงควรเข้าพบแพทย์

หากลองทำตามวิธีการรักษาตามกรณีและเทคนิคบรรเทาอาการชาปลายมือปลายเท้าเพิ่มเติมแล้วยังคงมีอาการชาตามจุดต่าง ๆ อยู่เหมือนเดิมหรืออาการหนักขึ้น ก็อาจจะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจอาการอย่างละเอียด ซึ่งอาการที่เป็นสัญญาณว่าควรจะเข้าพบแพทย์มีดังนี้

ชาปลายมือและปลายเท้าเข้าหาลำตัว

อาการชาในลักษณะนี้จะมาจากการขนาดสารอาหารที่สำคัญ เช่น วิตามิน B1, วิตามิน B6 และ วิตามิน B12

ชาตั้งแต่แขนจนถึงนิ้วมือ

อาการชาตั้งแต่แขนจนถึงนิ้วมือนั้นอาจจะมาจากกระดูกต้นคอเสื่อม ซึ่งส่งผลต่อการกดทับเส้นประสาทและทำให้มีอาการชาตั้งแต่แขนจนถึงนิ้วมือ

ชาตั้งแต่ข้อมือถึงข้อศอก

ถ้ามีอาการชาตั้งแต่ข้อมือถึงข้อศอกอาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าเส้นประสาทถูกกดทับบริเวณกระดูกไหปลาร้า

ชาตั้งแต่สะโพกถึงเท้า

อาการชาตั้งแต่บริเวณสะโพกจนถึงเท้านั้นอาจจะมาจากการที่หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาทแล้ว

ชาที่นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วโป้ง

อาการชาในบริเวณต่าง ๆ อย่างนิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วโป้งนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่กำลังเตือนอยู่ว่าร่างกายของเรากำลังมีอาการกระดูกคอทับเส้นประสาท

ชาตามมือและนิ้วมือ

การชาตามบริเวณมือและนิ้วมือนั้นมักจะมาพร้อมกับอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณกระดูกและข้อ ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคเกาต์

ชาตามปลายมือและนิ้วเท้า

อาการชาปลายมือปลายเท้าอาจจะมาจากภาวะน้ำตาลสูง จนส่งผลให้เส้นประสาทส่วนปลายที่ควบคุมการทำงานของมือและเท้าเสียหายจนเกิดอาการชานั่นเอง
จะเห็นได้ว่าอาการชาปลายมือปลายเท้าและอาการชาปลายนิ้วนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีวิธีการดูแลและรักษาอาการชาปลายนิ้วมือ เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีเหล่านี้จะสามารถช่วยให้เราดูแลอาการเส้นประสาทเท้าอักเสบ รวมถึงการอักเสบที่จุดอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี

บทความที่เกี่ยวข้อง