วันหยุดยาวอย่างช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย เพราะจะได้จัดทริปเที่ยวเพื่อพักผ่อนและชาร์จพลังหลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งปี การได้ออกไปสัมผัสธรรมชาติหรือไปยังสถานที่ใหม่ๆ นั้นเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่สุดแสนจะดีต่อกายและใจ
แต่รู้หรือเปล่าว่าความสุขที่เราได้รับนั้นอาจแลกมาด้วยความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่รู้ตัว? จากการสำรวจในปี 2022 เผยว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ถึง 8% ของการปล่อยก๊าซทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจัดการขยะและการบริโภคอาหาร และรวมถึงการปล่อยก๊าซจากการเดินทาง
เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องเล็ก และการไปเที่ยวเพื่อเติมพลังก็เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเราจึงอยากชวนคุณให้มาเป็น Sustainable Tourist นักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ที่ทำให้ทุกการเดินทางนั้นมีความหมายและเป็นมิตรกับโลกไปด้วยพร้อมกัน
ทำความรู้จัก Sustainable Tourism
Sustainable Tourism ตามนิยามของ SDGs (Sustainable Development Goals) หรือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ คือ การท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ โดยมุ่งเน้นให้การท่องเที่ยวสามารถเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน เป็นการท่องเที่ยวที่ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น โดยไม่ทำลายหรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมของพื้นที่นั้นๆ
เรียกได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวที่สามารถตอบโจทย์ทั้งส่วนบุคคล ชุมชน และโลก สนับสนุนให้เรามีความสุขได้ในปัจจุบันพร้อมกับช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมให้คงอยู่ในสภาพที่ดี เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นต่อไปใช้ประโยชน์ได้ยาวนานและยั่งยืน
วิธีง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนตัวเองเป็น Sustainable Tourist
- Leave No Trace: ไม่ทิ้งร่องรอยไว้
ไม่ว่าคุณจะเดินป่า เที่ยวชายหาด พักค้างแรม หรือไปสวนสัตว์ อย่าลืมเก็บขยะของตัวเองให้เรียบร้อยและนำกลับไปทิ้งในที่ที่เหมาะสม แม้จะเป็นขยะชิ้นเล็กน้อยก็อย่าปล่อยไว้ เพราะถ้าทุกคนทิ้งเหมือนกัน มันก็จะกลายเป็นขยะจำนวนมหาศาล ถ้าไม่มีถังขยะใกล้ๆ ก็ควรเก็บขยะไว้กับตัวก่อน
นอกจากนี้ อย่าเก็บสิ่งของจากธรรมชาติติดมือกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นก้อนหิน ดอกไม้ป่า หรือปะการัง และหลีกเลี่ยงการเหยียบย่ำพื้นที่ธรรมชาติ เพราะอาจไปโดนพืชพันธุ์ที่เปราะบาง บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ร่องรอยของมันอาจส่งผลกระทบมหาศาลได้ เพราะทุกสิ่งในธรรมชาติมีความสำคัญในการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศทั้งนั้น
เคล็ดลับ: พกถุงขยะติดกระเป๋าไว้ แนะนำให้ใช้ถุงขยะย่อยสลายได้ มีขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป
- Go Green First: เลือกรักษ์โลกไว้ก่อน
ในการท่องเที่ยวแต่ละครั้งย่อมมีกิจกรรมเกิดขึ้นหลายอย่าง แต่ถ้าอยากสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ควรเลือกทางเลือกที่รักษ์โลกไว้ก่อนเสมอ
- เลือกพัก Green Hotels
เลือกโรงแรมหรือที่พักที่มีนโยบายลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานแสงอาทิตย์ มีระบบจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ มีการแยกขยะเพื่อรีไซเคิล มีนโยบายลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างเช่นสบู่และแชมพูในห้องน้ำก็เลือกใช้แบบรีฟิลแทนที่จะเป็นแบบซองหรือขวดพลาสติก และใช้ขวดน้ำแบบแก้วแทนขวดพลาสติก เป็นต้น
เคล็ดลับ: ลองมองหาเครื่องหมายรับรองมาตรฐานที่ยืนยันว่าโรงแรมหรือที่พักนั้นมีการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากองค์กรระดับโลก เช่น Green Globe™ หรือ EarthCheck
- เลือกเดินทางแบบคาร์บอนต่ำ
การเดินทางคือหนึ่งในสาเหตุหลักของการปล่อยคาร์บอนตัวการทำโลกร้อน หากต้องเดินทางโดยเครื่องบิน นอกจากปัจจัยเรื่องราคาแล้ว ลองเลือกสายการบินที่มีนโยบายลดการปล่อยคาร์บอน เช่น มีการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel หรือ SAF) หรือตอนนี้หลายๆ สายการบินก็มีตัวเลือกในขั้นตอนการจองตั๋วให้ผู้โดยสารเลือกที่จะ ‘ชดเชยคาร์บอน’ โดยการจ่ายเงินเพิ่มเพื่อสนับสนุนโครงการสิ่งแวดล้อม เช่น การปลูกป่า หรือโครงการพลังงานทดแทน จ่ายเพิ่มขึ้นนิดหน่อยแต่ช่วยโลกได้มากขึ้น
ถ้าขับรถไปเที่ยว มีวิธีที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้ เช่น เลือกใช้รถที่มีประสิทธิภาพดี และให้ขับด้วยความเร็วคงที่ ลดการเร่งหรือเบรกกระทันหัน จะช่วยประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยคาร์บอนได้ และควรตรวจเช็กสภาพรถให้ดีก่อนเดินทางด้วย เช่น เติมลมยางให้เหมาะสม
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกอย่างการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟหรือรถบัส ซึ่งมีการปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าเครื่องบิน หรือการเดินทางด้วยจักรยานก็เป็นทางเลือกที่ดีถ้าได้ไปเที่ยวในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย
เคล็ดลับ: เลือกที่พักใกล้แหล่งท่องเที่ยวเข้าไว้ ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางและลดการใช้พลังงาน
- Sustainable Habits: รักษ์โลกให้เป็นนิสัย
บางทีการเลือกที่พักที่มีนโยบายรักษ์โลก หรือการเดินทางที่คาร์บอนต่ำ ก็อาจจะเป็นเงื่อนไขที่ยากหรือมีข้อจำกัดที่เราไม่อาจควบคุมได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราทำได้แน่นอน คือการปรับพฤติกรรมให้รักษ์โลกจนกลายเป็นนิสัย ไม่ว่าจะไปเที่ยวไหนก็เป็นมิตรกับโลกอย่างยั่งยืน
- ประหยัดพลังงานทุกที่ทุกเวลา
ในระหว่างที่เข้าพักในที่พักต่างๆ ควรปิดน้ำ ปิดไฟ ปิดเครื่องปรับอากาศ และปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เมื่อไม่ใช้งานทุกครั้ง อย่าคิดว่าเป็นทรัพยากรของโรงแรมก็เลยเปิดใช้เต็มที่แบบฟุ่มเฟือย เพราะไม่ว่าจะใช้ที่ไหนก็เป็นทรัพยากรของคนทั้งโลกเหมือนกัน ควรประหยัดให้เป็นนิสัยไม่ว่าจะเป็นตอนที่อยู่บ้านหรือตอนไปเที่ยว
- พกอุปกรณ์ใช้ซ้ำได้
ฝึกพกขวดน้ำส่วนตัว ถุงผ้า หรือกล่องอาหารติดตัวไว้ตลอด พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ช่วยลดขยะพลาสติกจากการเดินทางได้มากโข โดยเฉพาะสำหรับในสถานการณ์ที่ต้องแวะซื้ออาหารระหว่างทางบ่อยๆ การพกอุปกรณ์เหล่านี้สะดวกต่อการใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านเพิ่มเติม:
5 สิ่งที่มือใหม่หัดกรีนควรพกติดตัวไว้
แบรนด์สินค้าสายกรีนที่จัดว่าเก๋
- Support Local, Use Local: สนับสนุนชุมชนและท้องถิ่น
หัวใจสำคัญอีกอย่างของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนยังคือการสนับสนุนชุมชนและท้องถิ่น
- เลือกกินอาหารที่ใช้วัตถุดิบในพื้นที่
ช่วยสนับสนุนเกษตรกรและผู้ผลิตในพื้นที่ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งวัตถุดิบระยะไกล กระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและรักษาความหลากหลายทางอาหารไปพร้อมๆ กัน
- เลือกซื้อสินค้าหรือบริการจากชุมชน
ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และรักษาทักษะการผลิตดั้งเดิม เช่น งานหัตถกรรมท้องถิ่น ถือเป็นการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่นั้นๆ และช่วยให้ชุมชนสามารถเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืนได้
- เข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัครในท้องถิ่น
เช่น ทำความสะอาดชายหาด เก็บขยะในทะเล ปลูกป่า ช่วยฟื้นฟูพื้นที่ธรรมชาติที่ถูกทำลาย หรือสนับสนุนโครงการที่ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากจะช่วยลดผลกระทบจากการท่องเที่ยว และรักษาความสวยงามของธรรมชาติให้ดีขึ้น ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น และยังช่วยเพิ่มความตระหนักรู้ในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับได้รับประสบการณ์ใหม่ที่ทั้งสนุกและน่าประทับใจ
ส่องเทรนด์เที่ยวอย่างยั่งยืนแบบคนยุคใหม่
- Luggage-Free Travel
คือการเดินทางโดยลดการพกพาสัมภาระให้น้อยที่สุด หรือในบางกรณีก็ไม่ต้องมีสัมภาระติดตัวเลย โดยอาจเลือกใช้บริการขนส่งสัมภาระไปยังปลายทางล่วงหน้า หรือใช้บริการเช่าอุปกรณ์ในจุดหมายปลายทาง เช่น จักรยาน อุปกรณ์เดินป่า หรืออุปกรณ์กีฬาทางน้ำ แทนการพกพาอุปกรณ์เองจากบ้าน มีข้อดีคือ ช่วยลดสัมภาระ ทำให้ลดน้ำหนักที่เครื่องบินหรือรถขนส่งต้องบรรทุก ช่วยประหยัดการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศให้น้อยลงได้
- Paperless Travel
คือการเดินทางที่พึ่งพาเทคโนโลยีในการเดินทาง เช่น ใช้บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือการเช็กอินออนไลน์ แทนการใช้เอกสารและใบเสร็จแบบกระดาษ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดปริมาณขยะกระดาษ นอกจากนี้ยังรวมถึงการวางแผนการเดินทาง การจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน หรือการเดินทางท่องเที่ยวผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากช่วยลดการใช้กระดาษแล้วยังช่วยอำนวยความสะดวกให้การเดินทางราบรื่นและประหยัดเวลามากขึ้น
- Capsule Wardrobe Travel
คือการเดินทางที่เราใช้หลักการจัดกระเป๋าแบบ Capsule Wardrobe ใช้กระเป๋าใบเล็กๆ แล้วเลือกเสื้อผ้าจำนวนไม่เยอะ โดยเน้นเลือกเสื้อผ้าที่ใส่ได้หลายโอกาส สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้หลากหลาย ช่วยลดจำนวนเสื้อผ้าที่ต้องขนไปในแต่ละทริป ลดปริมาณสัมภาระการเดินทาง และลดการซักผ้าและการใช้พลังงานในการบำรุงรักษาเสื้อผ้าอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า การเป็นนักท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับโลกอย่างยั่งยืน ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายหรือทำอะไรให้ยุ่งยาก เพียงแค่เริ่มจากปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้ และถ้าทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทุกการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ นั้นก็จะมีความหมายยิ่งใหญ่ ช่วยรักษาโลกให้ยั่งยืนและน่าอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป
–