Sound therapy: นวัตกรรมเสียงบำบัดสำหรับผู้ป่วยนอนไม่หลับ

Care / Self Care

การนอนไม่หลับ (Insomnia) เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในสังคมปัจจุบัน ข้อมูลจากสมาคมโรคนอนไม่หลับแห่งประเทศไทยระบุว่ามีประชากรไทยมากถึง 30% ที่มีปัญหาการนอนไม่หลับ ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบเชิงลบต่อคุณภาพชีวิต ประสิทธิภาพการทำงาน และสุขภาพทั้งกายและใจ (สมาคมโรคนอนไม่หลับแห่งประเทศไทย, 2023) ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา “Sound therapy” หรือ “การบำบัดด้วยเสียง” ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในฐานะทางเลือกที่ไม่ใช้ยาสำหรับผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับ บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรมเสียงบำบัดสำหรับผู้ป่วยนอนไม่หลับ ตั้งแต่หลักการทำงาน ประเภท ประสิทธิภาพ ตลอดจนกรณีศึกษาจากบุคคลจริง

Sound therapy ทำงานบนพื้นฐานความเชื่อมโยงระหว่างเสียงกับสมองมนุษย์ ผศ.ดร.นายแพทย์ทายาท ดีสุดจิต ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา อธิบายว่า “เสียงมีความสามารถในการกระตุ้นคลื่นสมอง (Brain waves) ที่สัมพันธ์กับสภาวะการนอนหลับ เมื่อเราได้ยินเสียงที่มีความถี่ต่ำและรูปแบบที่สม่ำเสมอ สมองจะปรับคลื่นสมองให้เข้ากับความถี่นั้น ทำให้เกิดสภาวะการผ่อนคลาย” (ดีสุดจิต, 2022)

การศึกษาจาก Journal of Sleep Research พบว่า เสียงบำบัดสามารถเพิ่มการผลิตคลื่นสมองเดลต้า (Delta waves) ซึ่งเป็นคลื่นสมองที่เกิดขึ้นขณะหลับลึก และลดคลื่นสมองบีต้า (Beta waves) ที่เกี่ยวข้องกับความตื่นตัวและความวิตกกังวล (Wang et al., 2020)

1. White Noise (เสียงขาว)

เสียงขาวเป็นเสียงที่มีทุกความถี่ผสมกันในระดับพลังงานที่เท่ากัน คล้ายกับเสียงสัญญาณโทรทัศน์ที่ไม่มีภาพ ทำหน้าที่เหมือน “ม่านเสียง” ที่กรองเสียงรบกวนจากภายนอก เช่น เสียงจากถนน เสียงเพื่อนบ้าน หรือเสียงภายในบ้าน การศึกษาในปี 2021 พบว่า 78% ของผู้มีปัญหานอนไม่หลับมีคุณภาพการนอนดีขึ้นเมื่อใช้เสียงขาวระหว่างนอน (Johnson & Smith, 2021)

2. Pink Noise (เสียงชมพู)

เสียงชมพูคล้ายกับเสียงขาว แต่มีความถี่ต่ำที่ดังกว่าความถี่สูง ทำให้ฟังดูนุ่มนวลกว่า ตัวอย่างของเสียงชมพูในธรรมชาติ ได้แก่ เสียงฝนตก เสียงน้ำตก หรือเสียงลมพัดผ่านต้นไม้ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์นพบว่า เสียงชมพูไม่เพียงช่วยให้หลับเร็วขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มคุณภาพของการนอนหลับลึก (Slow-wave sleep) ซึ่งสำคัญต่อการฟื้นฟูร่างกายและความจำ (Papalambros et al., 2019)

3. Binaural Beats (จังหวะเสียงสองหู)

เทคนิคนี้ใช้หลักการส่งความถี่เสียงที่แตกต่างกันเล็กน้อยเข้าหูซ้ายและหูขวา เมื่อสมองรับรู้ความแตกต่างนี้ จะสร้างเสียง “จังหวะตี” (Beat) ที่มีความถี่เท่ากับความแตกต่างของเสียงทั้งสอง ตัวอย่างเช่น หากส่งเสียง 250 Hz เข้าหูซ้าย และ 256 Hz เข้าหูขวา สมองจะรับรู้จังหวะตีที่ 6 Hz ซึ่งสอดคล้องกับคลื่นสมองเทต้า (Theta) ที่เกิดขึ้นในช่วงเริ่มหลับ การวิจัยในวารสาร Frontiers in Human Neuroscience พบว่า การฟัง Binaural Beats ที่ความถี่ 1-4 Hz (Delta) เป็นเวลา 20 นาทีก่อนนอน ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่ภาวะหลับและเพิ่มระยะเวลาการนอนหลับลึก (Garcia-Argibay et al., 2022)

4. เสียงดนตรีบำบัด

ดนตรีที่มีจังหวะช้า (60-80 จังหวะต่อนาที) ทำนองนุ่มนวล และมีความสม่ำเสมอ สามารถลดความวิตกกังวลและช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ดนตรีคลาสสิกของโมสาร์ท บาค และชูเบิร์ต รวมถึงดนตรีธรรมชาติและดนตรีเพื่อการนั่งสมาธิ มักถูกนำมาใช้ในการบำบัดผู้ป่วยนอนไม่หลับ การทบทวนงานวิจัย 10 ชิ้นโดย Cochrane Database of Systematic Reviews พบว่า การฟังดนตรีบำบัดก่อนนอนช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่ภาวะหลับและเพิ่มระยะเวลาการนอนโดยรวม (Feng et al., 2018)

5. ASMR (Autonomous Sensory Meridian Response)

ASMR เป็นปรากฏการณ์ที่ผู้ฟังรู้สึกซ่าหรือชาเล็กน้อยบริเวณศีรษะ คอ และหลัง เมื่อได้ยินเสียงเฉพาะบางประเภท เช่น เสียงกระซิบ เสียงเคาะเบาๆ เสียงพลิกหน้ากระดาษ เสียงขยับปากขณะพูด ฯลฯ ความรู้สึกนี้มักมาพร้อมกับความรู้สึกผ่อนคลายอย่างลึกซึ้ง แม้ว่างานวิจัยเกี่ยวกับ ASMR ยังมีจำกัด แต่มีการศึกษาเบื้องต้นจากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ที่พบว่า ASMR ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งเอื้อต่อการนอนหลับ (Poerio et al., 2018)

กรณีของคุณวิภา: จากยานอนหลับสู่เสียงธรรมชาติ

คุณวิภา อายุ 45 ปี ผู้บริหารบริษัทเอกชนในกรุงเทพฯ มีปัญหานอนไม่หลับเรื้อรังมากว่า 5 ปี “ดิฉันนอนไม่หลับเพราะความเครียดจากงาน บางครั้งนอนไม่หลับทั้งคืน พอเช้ามาก็ทำงานไม่ไหว” คุณวิภาเล่าว่าเธอเคยพึ่งยานอนหลับมาหลายปี แต่กังวลเรื่องผลข้างเคียงและการเสพติด

หลังจากปรึกษาแพทย์ คุณวิภาได้ทดลองใช้แอปพลิเคชัน Sound therapy ที่มีเสียงฝนตก (Pink noise) ร่วมกับดนตรีบำบัดก่อนนอน “ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้ผล แต่หลังจากใช้ไปสักพัก รู้สึกว่าหลับง่ายขึ้น และหลับลึกขึ้น ปัจจุบันดิฉันลดการใช้ยานอนหลับลงได้เกือบ 80% และรู้สึกสดชื่นกว่าตอนกินยามาก”

กรณีของคุณสมชาย: Binaural Beats กับภาวะนอนไม่หลับจากการทำงานกะ

คุณสมชาย อายุ 32 ปี พยาบาลวิชาชีพที่ทำงานเป็นกะ มีปัญหานอนไม่หลับเนื่องจากนาฬิกาชีวิตไม่สม่ำเสมอ “ผมทำงานสลับกะไปมา บางสัปดาห์ทำกะดึก บางสัปดาห์ทำกะเช้า ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน บางวันนอนไม่หลับเลยแม้จะเหนื่อยมาก”

คุณสมชายได้ทดลองใช้ Binaural Beats ที่ความถี่เดลต้า (1-4 Hz) ผ่านหูฟังก่อนนอน “ผมใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการปรับตัว แต่หลังจากนั้นรู้สึกว่าการนอนหลับดีขึ้นมาก ช่วยให้ผมสามารถนอนหลับได้แม้ในช่วงเปลี่ยนกะ ซึ่งเป็นช่วงที่ยากที่สุด”

แม้ Sound therapy จะมีประโยชน์และความปลอดภัยสูง แต่ผู้ใช้ควรคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้:

  1. ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้: โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ที่มีปัญหาการนอนไม่หลับรุนแรง
  2. เลือกความดังที่เหมาะสม: เสียงที่ดังเกินไปอาจทำลายประสาทหูและกระทบต่อคุณภาพการนอนหลับ
  3. ใช้เวลาปรับตัว: ผลลัพธ์อาจไม่เกิดขึ้นในคืนแรกที่ใช้ ควรให้เวลาร่างกายปรับตัว 1-2 สัปดาห์
  4. ควรใช้ร่วมกับสุขอนามัยการนอนที่ดี: เช่น การนอนและตื่นเป็นเวลา การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการนอน การหลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ก่อนนอน

Sound therapy เป็นนวัตกรรมทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้มีปัญหานอนไม่หลับ ด้วยความหลากหลายของประเภทเสียงบำบัด ผู้ใช้สามารถเลือกวิธีที่เหมาะกับตนเองได้ตามความชอบและความต้องการ งานวิจัยล่าสุดและกรณีศึกษาจากบุคคลจริงแสดงให้เห็นว่า Sound therapy สามารถช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่ภาวะหลับ เพิ่มระยะเวลาการนอนหลับลึก และปรับปรุงคุณภาพการนอนโดยรวม อย่างไรก็ตาม การบำบัดด้วยเสียงควรเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการรักษาแบบองค์รวม ที่รวมถึงการปรับพฤติกรรมการนอนและการดูแลสุขภาพโดยรวม

เอกสารอ้างอิง

ดีสุดจิต, ท. (2022). หลักการและแนวทางการบำบัดด้วยเสียงสำหรับผู้มีปัญหาการนอนหลับ. วารสารประสาทวิทยาศาสตร์, 15(2), 78-92.

สมาคมโรคนอนไม่หลับแห่งประเทศไทย. (2023). รายงานสถานการณ์โรคนอนไม่หลับในประเทศไทย ปี 2565-2566. กรุงเทพฯ: สมาคมโรคนอนไม่หลับแห่งประเทศไทย.

Feng, F., Zhang, Y., Hou, J., Cai, J., Jiang, Q., Li, X., Zhao, Q., & Li, B. A. (2018). Music therapy for improving sleep quality in adults with insomnia: A systematic review and meta-analysis. Cochrane Database of Systematic Reviews, 11, CD010459.

Garcia-Argibay, M., Santed, M. A., & Reales, J. M. (2022). Efficacy of binaural beats in cognition, anxiety, and pain perception: A meta-analysis. Frontiers in Human Neuroscience, 16, 810405.

Johnson, K. T., & Smith, A. P. (2021). White noise and sleep induction. Journal of Sleep Research, 30(1), e13161.

Papalambros, N. A., Santostasi, G., Malkani, R. G., Braun, R., Weintraub, S., Paller, K. A., & Zee, P. C. (2019). Acoustic enhancement of sleep slow oscillations and concomitant memory improvement in older adults. Frontiers in Human Neuroscience, 13, 232.

Poerio, G. L., Blakey, E., Hostler, T. J., & Veltri, T. (2018). More than a feeling: Autonomous sensory meridian response (ASMR) is characterized by reliable changes in affect and physiology. PLoS ONE, 13(6), e0196645.

Wang, C. F., Sun, Y. L., & Zang, H. X. (2020). Music therapy improves sleep quality in acute and chronic sleep disorders: A meta-analysis of 10 randomized studies. International Journal of Nursing Studies, 92, 115-125.

บทความที่เกี่ยวข้อง