สัญญาณเตือนอาการโรคสมองเสื่อมที่ไม่ควรมองข้าม

Brain / Health

ทำความเข้าใจโรคสมองเสื่อม ภาวะทางสมองที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตคุณ

คุณเคยคิดไหมว่าโรคสมองเสื่อมที่ค่อย ๆ กัดกินความทรงจำและความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นเพียงความเสื่อมถอยตามวัย หรือเป็นโรคร้ายที่ควรใส่ใจอย่างจริงจัง? ด้วยโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุพบได้บ่อยมากกว่าวัยอื่น ๆ ซึ่งทำให้หลายคนชะล่าใจเมื่อมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ เพราะคิดว่าโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุเป็นเรื่องปกติของการแก่ตัวลง แต่จริง ๆ แล้วอาการเหล่านี้พบได้ในวัยอื่นเช่นกันและอาจเป็นสัญญาณเตือนของอัลไซเมอร์ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคสมองเสื่อมอาการต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักโรคสมองเสื่อมเพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถเตรียมพร้อมสำหรับวิธีป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้มากขึ้น

โรคสมองเสื่อมเป็นภาวะที่สมองมีการเสื่อมถอยลง ทำให้ผู้ป่วยเกิดปัญหาด้านความทรงจำ การตัดสินใจ และการทำกิจวัตรประจำวัน ถึงแม้ว่าโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุจะถูกพบมากที่สุด แต่ไม่ได้มีการจำกัดเฉพาะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุเท่านั้น โรคนี้จึงเป็นโรคที่อาจพบในวัยอื่น ๆ เช่นกัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและกรณี ซึ่งโรคสมองเสื่อมอาการต่าง ๆ จะเริ่มต้นและดำเนินไปอย่างช้า ๆ การสังเกตอาการและรู้ตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก ดังนั้นเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับโรคนี้ได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนนี้จึงขอแบ่งอาการของโรคสมองเสื่อมออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

อาการสมองเสื่อมระยะแรก

ระยะแรกของโรคสมองเสื่อมผู้ป่วยจะมีอาการไม่รุนแรงมาก โดยจะเริ่มจากการสูญเสียความจำในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น การลืมสิ่งของ การลืมว่าทำอะไรไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา หรือลืมรายละเอียดของการสนทนาที่เพิ่งเกิดขึ้น

อาการสมองเสื่อมระยะปานกลาง

โรคสมองเสื่อมอาการในระยะกลางนั้นจะเริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยผู้ป่วยมักจะประสบปัญหาในด้านการจดจำชื่อคน สถานที่ต่าง ๆ หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวของตัวเอง เช่น จำไม่ได้ว่าตัวเองมาจากที่ไหน ลืมเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น มีอาการสับสนวันและเวลาในปัจจุบัน ซึ่งอาการเหล่านี้จะสร้างความกังวลให้ผู้ป่วยในการดำเนินกิจวัตรประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะการทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดและการตัดสินใจ

อาการสมองเสื่อมระยะสุดท้าย

สำหรับอาการของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมระยะสุดท้ายนั้น ผู้ป่วยจะไม่สามารถจดจำอะไรได้เลย รวมถึงไม่สามารถรับรู้และรู้สึกถึงสิ่งรอบตัวได้ และในบางกรณีอาจมีการสูญเสียความสามารถในการสื่อสาร รวมถึงการเคลื่อนไหวไป ผู้ป่วยในระยะนี้จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากคนรอบข้างอย่างเอาใจใส่

โรคสมองเสื่อมอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากการเสื่อมถอยของสมองตามช่วงวัยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่โรคสมองเสื่อมยังสามารถเกิดได้จากปัจจัยอื่น ๆ ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคต่างๆ พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ตลอดถึงอาการบาดเจ็บที่ทำให้สมองกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบอย่างมากต่อสมอง และเพื่อให้คุณเข้าใจว่าโรคอัลไซเมอร์เกิดจากอะไร มาดูสาเหตุของอาการสมองเสื่อมที่เราได้รวบรวมนำมาฝากไปพร้อม ๆ กันเลย

โรคต่างๆ

โรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) โรคพาร์กินสัน หรือแม้กระทั่งโรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อทางสมอง ล้วนเป็นโรคที่มีผลต่อการเกิดอาการโรคสมองเสื่อมได้ โดยโรคเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงและส่งผลกระทบทำให้เซลล์สมองถูกทำลาย ตลอดถึงทำให้มีการทำงานลดลง โดยเฉพาะด้านความสามารถเกี่ยวกับความจำ การคิด และการตัดสินใจ ซึ่งส่งผลให้สมองไม่สามารถทำงานได้ตามปกติและเกิดโรคสมองเสื่อม

พฤติกรรม

พฤติกรรมใช้ชีวิตต่าง ๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่มีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้เช่นกัน เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ หรือไม่มีความสมดุล การดื่มแอลกอฮอล์ที่มากจนเกินไป
การสูบบุหรี่ การขาดการออกกำลังกาย หรือการขาดการนอนหลับ

อุบัติเหตุทางสมอง

หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้คือ การเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้สมองได้รับการบาดเจ็บหรือกระทบกระเทือน เช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ การล้ม การเล่นกีฬา หรือกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดแรงกระแทกที่ส่งผลให้สมองเกิดความเสียหาย ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจนำไปสู่การเกิดโรคสมองเสื่อมในระยะยาว หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้

หากคุณหรือคนใกล้ตัวเริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาจจะมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือการเกิดอุบัติเหตุทางสมอง จนอาจทำให้เกิดคำถามว่าอาการเหล่านั้นเข้าข่ายโรคสมองเสื่อมหรือไม่ การสังเกตและเข้าใจอาการโรคสมองเสื่อมเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถดูแลตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างทันเวลา

  • ความเข้าใจภาษาลดลง: ผู้ที่มีอาการโรคสมองเสื่อมอาจมีอาการพูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่ถูกต้อง หรือใช้คำไม่ถูกต้อง หรืออาจมีอาการลืมชื่อสิ่งของ มีการพูดย้ำกับตัวเองซ้ำ ๆ 
  • สับสนเรื่องเวลาและสถานที่: ผู้ที่มีอาการโรคสมองเสื่อมอาจมีอาการลืมว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ไม่สามารถบอกได้ว่ามาสถานที่นั้นได้ยังไง รวมถึงอาจจำเวลาและเหตุการณ์ที่เกิดไม่ได้
  • ไม่สามารถทำกิจกรรมที่เคยทำได้: ผู้ที่มีอาการโรคสมองเสื่อมมักจะไม่สามารถทำกิจกรรมที่ตัวเองเคยทำได้ตามปกติ เช่น การใช้เครื่องไฟฟ้าในบ้าน หรือการเปลี่ยนช่องโทรทัศน์
  • บกพร่องในการรับรู้สิ่งใหม่: ผู้ที่มีอาการโรคสมองเสื่อมจะมีการบกพร่องในการรับรู้สิ่งใหม่ ๆ เช่น การใช้งานสิ่งของบางอย่าง หรือไม่สามารถแยกแยะรสชาติและกลิ่นของอาหารได้
  • บกพร่องในการตัดสินใจ: ผู้ที่มีอาการโรคสมองเสื่อมมักจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
    รวมถึงไม่สามารถตัดสินใจเรื่องสำคัญได้
  • บกพร่องในการทำกิจวัตรประจำวัน: ผู้ที่มีอาการโรคสมองเสื่อมมักจะไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเดิม เช่น ลืมวิธีการอาบน้ำ การแต่งตัว 
  • บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงไป: ผู้ที่มีอาการโรคสมองเสื่อมอาจมีการแสดงอาการที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น เฉื่อยชา โมโหง่าย หรือมีอาการหวาดระแวงตลอดเวลา

โรคสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์มักทำให้หลายคนสับสนว่าเป็นโรคเดียวกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองโรคนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โรคสมองเสื่อม (Dementia) เป็นภาวะที่สมองเสื่อมถอยในหลาย ๆ ด้านทั้งความจำ
การคิด และการตัดสินใจ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคที่เกิดจากการติดเชื้อในสมอง หรือโรคอัลไซเมอร์

และอย่างที่กล่าวไป โรคอัลไซเมอร์เป็นสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดของโรคสมองเสื่อม โดยเป็นโรคที่ทำให้สมองเสื่อมถอยอย่างช้า ๆ จนส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียความสามารถในการจดจำหรือการทำกิจวัตรประจำวันไปในที่สุด
ซึ่งเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่สามารถบรรเทาอาการลงได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องเป็นโรคอัลไซเมอร์เสมอไป

โรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุเป็นปัญหาสุขภาพที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและคุณภาพชีวิตโดยรวม การสูญเสียความสามารถในการจำ การคิด และการตัดสินใจไม่เพียงแต่ทำให้ชีวิตประจำวันยากลำบาก แต่ยังส่งผลกระทบต่อครอบครัวและสังคมอย่างมาก อย่างไรก็ตามคุณสามารถป้องกันและชะลอการเกิดโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุได้ง่าย ๆ ด้วยการเริ่มที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวัน  ดังนี้

  • ดูแลสุขภาพร่างกายและสมอง: เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การฝึกสมองด้วยการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง รวมถึงลดความเสี่ยงการเกิดโรคสมองเสื่อมลง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับเป็นการฟื้นฟูร่างกายและสมองที่จำเป็นอย่างมาก เพราะมีผลทำให้สมองมีความจำที่ดีขึ้น ทั้งยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์:  การรับประทานที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
    หรือรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 จะช่วยให้ปกป้องสมองจากการเสื่อมสภาพได้
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว การดื่มน้ำที่เพียงพอเป็นการป้องกันอาการขาดน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สมองทำงานได้ไม่ดี มีประสิทธิภาพลดลง
  • มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม: การพบปะเพื่อนฝูง หรือครอบครัวจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองมากขึ้น
    ทั้งยังสามารถลดความเครียดและอาการซึมเศร้าที่อาจนำไปสู่โรคสมองเสื่อมได้

เห็นได้ว่าโรคสมองเสื่อมและโรคสมองเสื่อมอาการต่าง ๆ เป็นโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับสมองของผู้ป่วยซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งยังส่งผลต่อความจำและความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุที่มักพบมากที่สุด แต่โรคนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในวัยอื่น ๆ เช่นกัน การรู้จักโรคนี้และการป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นหวังว่าข้อมูลที่ได้นำมาฝากวันนี้จะช่วยให้ทุกคนตระหนักถึงอาการเล็ก ๆ อย่างขี้ลืมเกิดจากอะไรมากขึ้น เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับสมองเสื่อมในผู้สูงอายุได้

บทความที่เกี่ยวข้อง