เราทุกคนต่างก็มีความฝันที่จะประสบความสำเร็จอะไรสักอย่างในชีวิต บางคนทำสำเร็จได้ตั้งแต่อายุยังน้อย บางคนกว่าจะสำเร็จได้ต้องใช้เวลานาน ในขณะที่บางคนล้มเลิกความฝันไปกลางคันเมื่อเจออุปสรรคและไม่กล้าเริ่มฝันใหม่เพราะคิดว่าอายุมากไป
อายุมากแล้วไง? เพราะนิยามความสำเร็จและเงื่อนไขชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้น อย่าเพิ่งถอดใจที่เรายังไปไม่ถึงฝันเหมือนคนอื่น และอย่าเพิ่งหมดไฟเมื่อเห็นคนที่หนุ่มสาวกว่าเราเข้าเส้นชัยไปก่อน มีคนจำนวนไม่น้อยที่พิสูจน์ให้เราเห็นว่า การไม่ทิ้งความหวัง ไม่ปล่อยให้อายุมาเป็นข้ออ้าง และยังไม่ยอมแพ้ ก็ยังมีโอกาสไปสู่ความสำเร็จได้เสมอ
เจ๊ไฝ ประตูผีสู่มิชลินสตาร์: กล้าคิดแตกต่างและตั้งใจทำอย่างต่อเนื่อง
ชื่อเสียงของ ‘เจ๊ไฝ ประตูผี’ หรือ นางสุภิญญา จันสุตะ ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ในชั่วข้ามคืน แต่คือการบ่มเพาะฝีมือและประสบการณ์อย่างต่อเนื่องมานานกว่าสี่สิบปี จากร้านที่เคยล้มลุกคลุกคลานผ่านวิกฤติมาหลายครั้ง เจ๊ไฝไม่หยุดที่จะลองผิดลองถูก และพัฒนาตัวเองมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความตั้งใจ และความกล้าที่จะแตกต่างจากสตรีทฟู้ดร้านอื่น โดยเลือกใช้วัตถุดิบชั้นดี เน้นอาหารทะเลสดๆ ในปริมาณจุกๆ ซึ่งทำให้ต้องตั้งราคาสูง แต่กลับส่งผลลัพธ์เกินคาด เพราะลูกค้าติดใจและยอมจ่ายในคุณภาพที่คุ้มค่ากับราคา
ในวัย 72 ปีร้านของเจ๊ไฝกลายเป็นสตรีทฟู้ดเพียงหนึ่งเดียวในเมืองไทยที่สามารถคว้า “มิชลินสตาร์ 1 ดาว” ได้สำเร็จ ขึ้นแท่นร้านเด็ดที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอยากจะมาชิมให้ได้สักครั้งจนคนแน่นขนัดทุกวัน
วีรา แวง (Vera Wang): ความฝันเปลี่ยนแปลงได้และไม่มีคำว่าสายเกินไป
วีรา แวง เป็นคนเชื้อสายจีนที่เกิดและเติบโตในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เดิมทีเธอฝันจะเป็นนักสเก็ตลีลาระดับโลก เธอเคยคว้าแชมป์ในการแข่งขันสเก็ตลีลาชิงแชมป์สหรัฐฯ (ในปี 1968) จนได้ขึ้นปก Sports Illustrated นิตยสารกีฬาชื่อดัง แต่แล้วก็เกิดจุดพลิกผันเมื่อเธอพลาดการคัดตัวเพื่อเป็นตัวแทนทีมชาติสหรัฐลงแข่งขันโอลิมปิก
แต่ความฝันเปลี่ยนแปลงได้ และไม่มีคำว่าสายเกินไป วีรา แวงเปลี่ยนเส้นทางจากสายกีฬาไปสู่โลกแฟชั่น ในวัย 21 ปีเธอได้กลายเป็นบรรณาธิการที่อายุน้อยที่สุดของนิตยสาร Vogue และบ่มเพาะประสบการณ์เป็นเวลาเกือบยี่สิบปี จนในวัย 40 ปี เมื่อเธอหันมาเป็นนักออกแบบชุดเจ้าสาวและชุดราตรี แล้วสร้างแบรนด์ ‘Vera Wang’ ขึ้นมา ชื่อของเธอก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกที่เหล่าเซเลบริตี้ชื่นชอบและเจ้าสาวแทบทุกคนใฝ่ฝัน ปัจจุบันวีรา แวงอายุ 70 กว่าแล้ว แต่ยังคงเป็นดีไซเนอร์ที่ได้รับความนิยม และยังดูแลสุขภาพร่างกายอย่างดีจนสวยเป๊ะไม่แพ้สาวๆ
ผู้พันแซนเดอร์ส แห่ง KFC: แม้ล้มเหลวหลายครั้งแต่ก็ยังสู้ต่อไป
KFC คือ แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดที่ทุกคนรู้จักดี มีภาพลักษณ์ที่ติดตาคือ ชายสูงวัยใส่แว่น ผมขาว มีเคราแพะ และรอยยิ้มใจดี ผู้ที่เรามักเรียกกันติดปากว่า “ผู้พันแซนเดอร์ส” ซึ่งหลายคนยังเข้าใจว่าเป็นแค่ตัวละครสมมุติที่สร้างขึ้นเพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก แต่เขามีตัวตนจริงๆ เป็นผู้พันจริงๆ และเป็นผู้คิดสูตรไก่ทอดมากับมือจริงๆ เขาคือ ฮาร์แลนด์ แซนเดอร์ส ผู้อาศัยอยู่ในรัฐเคนตักกี้อันเป็นที่มาของชื่อ Kentucky Fried Chicken นั่นเอง
ผู้พันแซนเดอร์สใช้เวลาครึ่งชีวิตแรกไปกับการทำงานหลายอย่างมากมาย ตามประสาเด็กที่ลาออกจากโรงเรียน และใช้ชีวิตด้วยตัวเองตั้งแต่อายุสิบสาม เขาพบกับความล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง และล้มลุกคลุกคลานมาตลอด จนในที่สุด ในวัย 60 กว่า เขาก็คิดค้นสูตรไก่ทอดเด็ดๆ ขึ้นมาได้ และมันก็กลายเป็นที่นิยมอย่างมาก จนนายกเทศมนตรีเมืองเคนตักกี้ถึงกับแต่งตั้งให้เขาเป็นนายพล และ KFC กลายเป็นกิจการไก่ทอดที่มีแฟรนไชส์ไปทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้
โมโมฟูกุ อันโดะ แห่ง NISSIN: ความมุ่งมั่นอันยิ่งใหญ่ที่วัยก็หยุดไม่ได้
คนไทยส่วนใหญ่คงไม่ค่อยรู้จักชื่อ โมโมฟูกุ อันโดะ แต่ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคยชื่อนี้ดี เพราะเขาคือบิดาแห่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารที่ผู้คนมักมีติดบ้านเพื่อช่วยให้ผ่านความหิวได้ง่าย และราคาไม่แพง แถมยังอร่อย มันคืออาหารที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้คนไม่อดอยาก และความเชื่อว่าอาหารที่เพียงพอคือสิ่งที่จะทำให้โลกนี้มีสันติภาพขึ้นได้
ย้อนไปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นประสบปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ทำให้อันโดะอดีตประธานบริษัทที่ล้มละลายเพราะพิษเศรษฐกิจ เกิดแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาการผลิตบะหมี่ที่สามารถรองรับคนจำนวนมากได้ หลังจากค้นคว้าลองผิดลองถูกมาสักพัก ในที่สุดอันโดะในวัย 48 ปีก็เปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกสู่ท้องตลาด ภายใต้แบรนด์ Nissin และมันก็กลายเป็นสินค้ายอดฮิตติดอันดับ ได้รับความนิยมไปทั้งประเทศ ยังไม่หยุดเท่านี้ ต่อมาในวัย 61 ปี อันโดะก็ปิ๊งไอเดียบะหมี่ถ้วย Cup Noodles ซึ่งทำให้การกินบะหมี่นั้นสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น เพียงแค่เปิดฝา เติมน้ำร้อน แล้วรอ และนั่นก็ยิ่งทำให้ความนิยมของบะหมี่สำเร็จรูปเพิ่มขึ้นมากมายแผ่กระจายไปทั่วโลก
และนี่ก็คือตัวอย่างของบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราเชื่อว่า “ไม่มีอะไรที่สายเกินแก่” ขอแค่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่หยุดความคิดสร้างสรรค์ ไม่กลัวความล้มเหลว กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และหมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เมื่อถึงเวลาและโอกาสที่เหมาะสม เราก็จะพบกับความสำเร็จได้ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่
–
ที่มา:
businessinsider.com
medium.com
aging.com
washingtonpost.com
