ชวนดับกระหาย คลายร้อน ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ในช่วงเวลาที่ได้อยู่กันพร้อมหน้ากับครอบครัวด้วย 3 เมนูสุดคลาสสิกสไตล์ไทยอย่างแตงโมปลาแห้ง ข้าวแช่ชาววัง และไอศกรีมผลไม้สไตล์โฮมเมดที่ทำได้ง่ายๆ ไร้สารอันตราย ไม่ทำลายสุขภาพ แถมรสชาติถูกปากแน่นอน
แตงโมปลาแห้ง
เริ่มต้นด้วย ‘แตงโมปลาแห้ง’ ของว่างโบราณที่ทำทีเดียว กินได้ทั้งบ้าน เหมาะกับการปาร์ตี้หลังเล่นสาดน้ำมาทั้งวัน
ส่วนผสม
- เนื้อปลาช่อนแดดเดียวย่างสุกหรือปลาช่อนแห้ง 1 ตัว
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือหรือดอกเกลือ 1/4 ช้อนชา
- หอมเจียว 40 กรัม
- แตงโมตามชอบ
วิธีทำ
1. โขลกเนื้อปลาแห้งที่แกะก้างออกแล้วให้ละเอียด
2. จากนั้นนำเนื้อปลาลงผัดในกระทะ ใส่น้ำตาลทราย เกลือ และหอมเจียว ผัดจนแห้งดี
3. เสิร์ฟพร้อมแตงโมที่หั่นเป็นชิ้นตามชอบ หรือหากใครอยากได้เมนูหลากสีสันหน่อย สามารถประยุกต์ใช้แตงโมสีอื่นๆ เมลอน และแคนตาลูปมาร่วมขบวนความอร่อยก็ได้
ข้าวแช่ชาววัง
เมนูที่สองคลองแชมป์เมนูดับร้อนมาหลายยุคหลายสมัย สำหรับ ‘ข้าวแช่ชาววัง’ ข้าวแช่ในน้ำลอยดอกไม้หอมเย็นชื่นใจที่มาพร้อมเครื่องเคียง เช่น ลูกกะปิทอด เครื่องผัดหวาน ฯลฯ เหตุผลที่เรียกว่าข้าวแช่ชาววังหรือบางแหล่งเรียกว่า ‘ข้าวแช่เสวย’ ก็เพราะเมนูนี้ชาววังเคยจัดถวายรัชกาลที่ 5 แล้วทรงโปรดมาก หลังจากสิ้นรัชกาล เมนูนี้ถูกเผยแพร่ออกมาและกลายเป็นเมนูฮิตหน้าร้อน โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ในที่สุด
ส่วนผสม
ข้าวแช่: ข้าวหอมมะลิเก่าและเทียนอบขนม
เครื่องเคียง: เนื้อปลาดุก, ตะไคร้โขลก, กระชาย, หอมแดง, กะปิ, น้ำตาลปี๊บ, แป้งข้าวเจ้า, ไข่เป็ด, น้ำปูนใส และน้ำมันพืช
วิธีทำข้าวแช่
1. นำข้าวหอมมะลิเก่ามาตั้งน้ำให้เดือด หมั่นคนพอให้ข้าวครึ่งสุกครึ่งดิบ
2. จากนั้นเทใส่กระด้ง ใช้มือขัดข้าวกับกระด้ง แนะให้เปิดน้ำจากก๊อกเพื่อขัดข้าวไปเรื่อยๆ จนข้าวเป็นเม็ดใส
3. นำมานึ่ง เมื่อสุกแล้วเทใส่กระด้ง พักไว้ให้เย็น เทใส่หม้อดิน อบเทียนให้หอมแล้วปิดฝา
วิธีทำน้ำลอยดอกมะลิ
1. ต้มน้ำให้เดือด เสร็จแล้วปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น
2. จากนั้นจึงจุดเทียนอบ อบให้มีกลิ่นหอม
3. แนะนำให้ใส่ดอกมะลิตูมและพักไว้ในตู้เย็น เพื่อความหอมเย็นฉ่ำ น่ารับประทาน
วิธีทำเครื่องเคียง
เครื่องเคียงหรือเครื่องสำหรับรับประทานคู่กับข้าวแช่นี้มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพริกหยวกยัดไส้, หมูหวานกรอบ, ไชโป๊หวาน แต่ที่เห็นจะเป็นพระเอกที่สุดคงต้องยกให้ ‘ลูกกะปิกวนชุบไข่ทอด’
1. โขลกตะไคร้ กระชาย หอมแดง ให้ละเอียด ใส่กะปิ เนื้อปลาดุก โขลกต่อจนเป็นเนื้อเดียวกัน
2. ใส่กะทิลงในกระทะ ตั้งไฟให้เดือด ตักส่วนผสมข้อที่ 1 ลงผัด ใส่น้ำตาลปี๊บ ผัดให้แห้ง ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนเล็กๆ
3. นำแป้งข้าวเจ้าใส่ภาชนะ ใส่ไข่เป็ด คนให้เข้ากัน ค่อยๆ ใส่น้ำปูนใส ให้มีลักษณะข้นปานกลาง
4. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟปานกลาง
5. พอน้ำมันร้อน นำลูกกะปิที่ปั้นไว้ลงชุบในน้ำแป้งลงทอดพอเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
วิธีการเสิร์ฟ
นำน้ำลอยดอกมะลิมาเทลงในข้าวแช่ เสิร์ฟพร้อม ‘ลูกกะปิกวนชุบไข่ทอด’ เครื่องเคียงพระเอกที่ทำไว้ได้เลย ข้อควรระวัง เวลารับประทานไม่ควรตักเครื่องเคียงมาใส่ลงในถ้วยข้าว แต่ควรรับประทานเครื่องเคียงก่อน เมื่อได้รับรสชาติของเครื่องเคียงแล้ว ค่อยกินข้าวแช่ตามไป จะได้ความอร่อยแบบไม่เสียรสชาติ เคล็ดลับเพิ่มความอร่อยอีกอย่างคือ ควรรับประทาน ‘ลูกกะปิกวน’ คู่กับมะม่วงเปรี้ยว จะทำให้ได้รสชาติที่ลงตัวแบบเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเชียวล่ะ
ไอศกรีมผลไม้
เมนูสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ในทุกๆ หน้าร้อนคงหนีไม่พ้น ‘ไอศกรีมผลไม้’ สไตล์โฮมเมดที่ใช้ผลไม้ตามฤดูกาลมาแปรรูปเป็นเมนูคลายร้อนแบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ แถมอร่อยชุ่มฉ่ำใจได้ทั้งบ้าน
ส่วนผสมเชอร์เบตมะม่วง (Mango Sherbet)
- มะม่วง 4 ถ้วย*
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
- น้ำเลมอน 1 ลูก (หรือมะนาวเขียว 2-3 ลูก)**
- เกลือนิดหน่อย
- วิปปิงครีม ประมาณ 1/2 ถ้วย***
เคล็ดความอร่อย:
* สามารถเปลี่ยนเป็นสตรอว์เบอร์รี ราสเบอร์รี แตงโม แคนตาลูป ฯลฯ
** ปริมาณน้ำมะนาวขึ้นอยู่กับความหวานของผลไม้หลักที่ใช้
*** หากทำไอศกรีมแบบซอร์เบต (Sorbet) ไม่ต้องใส่วิปปิงครีม เน้นผลไม้และน้ำตาลเป็นหลัก ลักษณะจะเป็นเกล็ดน้ำแข็งละเอียด เน้นรสชาติเปรี้ยวหรือหวานตามรสชาติผลไม้
วิธีทำ
1. ต้มน้ำและน้ำตาลจนละลาย และพักไว้จนเย็น
2. จากนั้นนำน้ำเชื่อมที่ได้แช่ช่องฟรีซให้เป็นเกล็ดน้ำแข็ง
3. ปอกเปลือกมะม่วงแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ แช่ช่องฟรีซไว้
4. เมื่อน้ำเชื่อมและผลไม้เย็นจนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง นำออกมาปั่นให้ละเอียดในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ สำหรับคนที่ไม่ชอบหวานมาก อาจจะใช้น้ำเชื่อมเพียงครึ่งเดียวก่อน
5. จากนั้นเติมน้ำมะนาว เกลือ (และวิปปิงครีม) ลงไป ปั่นจนเนียนจะได้เนื้อไอศกรีมเหลว ขั้นตอนนี้สามารถลองชิมได้ว่าขาดรสชาติใดไปหรือเปล่า และสามารถเติมรสชาติตามชอบได้เลย
6. เทไอศกรีมเหลวใส่กล่อง นำเข้าแช่ในช่องฟรีซให้เป็นเกล็ดน้ำแข็ง (ประมาณ 2 ชั่วโมง)
7. นำไอศกรีมออกมาปั่นอีกรอบ ก็จะได้เนื้อไอศกรีมเนียนสวย สามารถเสิร์ฟคู่กับเนื้อผลไม้ เช่น มะม่วง แคนตาลูป ฯลฯ ที่เหลือจากการทำไอศกรีมได้เลย
ข้อควรระวัง สำหรับไอศกรีมสูตรโฮมเมดนี้ คือ เสียเร็ว เพราะไม่ใส่สารกันบูด ฉะนั้น ควรทำแต่พอรับประทาน
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 3 เมนูดับร้อนที่เรานำมาฝาก หากใครที่ตะหลิวเริ่มสั่น คันไม้คันมืออยากโชว์เสน่ห์ปลายจวักแล้วละก็ ลงมือกันได้เลย แล้วอย่าลืมแชะภาพมาฝากกันบ้างนะคะ
ที่มา:
www.food.mthai.com
www.posttoday.com
www/guide.michelin.com
www.wongnai.com
www.naibann.com