ปลายประสาทอักเสบ วิธีรักษาและวิธีป้องกันก่อนสายเกินแก้

Health

ปลายประสาทอักเสบ วิธีรักษานั้นมีหลากหลายวิธีมาก ๆ ตั้งแต่วิธีการบรรเทาอาการโดยใช้ยาแก้ปลายประสาทอักเสบไปจนถึงวิธีจัดการกับอาการที่เกิดขึ้นจากปลายประสาทอักเสบด้วยวิธีรักษาปลายประสาทอักเสบเฉพาะทางจากการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการรักษาปลายประสาทอักเสบวิธีรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมจะช่วยบรรเทาอาการชา อาการเสียว และอาการเจ็บปวดที่เกี่ยวข้องกับปลายประสาทอักเสบได้ ที่สำคัญการรักษาปลายประสาทอักเสบ หรืออาการเส้นประสาทอักเสบตั้งแต่เนิ่น ๆ จะเพิ่มโอกาสในการจัดการกับโรคปลายประสาทอักเสบและป้องกันการลุกลามไปสู่ระยะที่รุนแรงยิ่งขึ้นได้

โดยอาการของปลายประสาทอักเสบอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของเส้นประสาทที่ได้รับผลกระทบ เช่นเส้นประสาทรับความรู้สึก (Sensory Nerves), เส้นประสาทที่ทำหน้าที่ในการสั่งงานกล้ามเนื้อ (Motor Nerves) หรือเส้นประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nerves) เป็นต้น ซึ่งอาการที่เกี่ยวข้องกับปลายประสาทอักเสบ หรือเส้นประสาทอักเสบนั้น มีดังนี้

  • รู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง เสียว หรือชาที่มือหรือเท้าเป็นอาการที่พบบ่อยในระยะเริ่มแรก
  • ปวดแสบร้อนหรือปวดเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือเป็นพัก ๆ
  • ความไวต่อการสัมผัสที่เพิ่มขึ้น 
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะที่เท้าหรือมือ
  • ความยากลำบากในการทรงตัวที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการหกล้ม 
  • การสูญเสียการรับรู้อากัปกิริยา
  • ในกรณีที่ส่งผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ อาการอาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ เหงื่อออก และการย่อยอาหาร ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ เช่น ความดันเลือดต่ำขณะยืน (เวียนหัวเมื่อยืน) ควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้ยาก และปัญหาระบบทางเดินอาหาร
  • ความผิดปกติของเท้า เช่น Charcot foot หรือ เท้าผิดรูป จากการที่กระดูกเท้าอ่อนแอลง

ในแง่ของวิธีป้องกันโรคปลายประสาทอักเสบนั้น จริง ๆ แล้ว จะเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันและการดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น การรับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น การออกกำลังกายเป็นประจำ และการหลีกเลี่ยงสารพิษต่าง ๆ รวมถึงการจัดการภาวะสุขภาพที่ซ่อนอยู่ เช่น โรคเบาหวาน ที่เป็นสาเหตุที่พบบ่อยของโรคปลายประสาทอักเสบและการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ก็จะสามารถลดความเสี่ยงและส่งเสริมสุขภาพของเส้นประสาทได้เป็นอย่างดี 

ก่อนที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการรักษาปลายประสาทอักเสบด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง  แน่นอนว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องมีการวินิจฉัยอาการที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งมักต้องใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและระบุความรุนแรงของอาการได้อย่างแม่นยำ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจใช้วิธีวินิจฉัย ดังต่อไปนี้

  • การประเมินผู้ป่วยเบื้องต้น
    • สอบถามประวัติของผู้ป่วยอย่างละเอียดเกี่ยวกับอาการ ช่วงที่เริ่มมีอาการ และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
    • ตรวจร่างกายเพื่อการประเมินปฏิกิริยาตอบสนอง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การทำงาน และการรับรู้ทางประสาทสัมผัส
  • การตรวจการนำกระแสประสาท (Nerve Conduction Study : NCS)
    • ใช้ไฟฟ้ากระตุ้นเส้นประสาทและวัดการตอบสนองจากเส้นประสาทหรือกล้ามเนื้อ เพื่อระบุหาความเสียหายของเส้นประสาทก่อนทำการรักษาปลายประสาทอักเสบวิธีรักษาที่เหมาะสม
  • การตรวจวินิจฉัยไฟฟ้าในกล้ามเนื้อ (Electromyographic Study :EMG) 
    • ใช้เข็มขนาดเล็กปักลงที่กล้ามเนื้อและตรวจดูสัญญาณไฟฟ้าภายในกล้ามเนื้อ เพื่อประเมินการทำงานของกล้ามเนื้อ ซึ่งมักใช้ประเมินร่วมกับ การตรวจการนำกระแสประสาท (NCS) เพื่อการประเมินที่ครอบคลุม
  • การตรวจเลือด
    • การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count: CBC) เพื่อตรวจภาวะต่าง ๆ เช่น โรคโลหิตจาง การติดเชื้อ และข้อบกพร่องในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เป็นต้น
    • การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อคัดกรองและติดตามโรคเบาหวานที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบ
    • การตรวจระดับวิตามินในเลือด เพื่อประเมินสุขภาพของเส้นประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน 
  • การตรวจด้วยเทคนิคการสร้างภาพทางการแพทย์
    • การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์  (CT-Scan) และเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เพื่อระบุปัญหาทางโครงสร้างของร่างกาย เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือเนื้องอกที่อาจกดทับเส้นประสาท เป็นต้น
  • การตัดชิ้นเนื้อผิวหนัง
    • การตัดชิ้นเนื้อผิวหนัง (Skin Biopsy) เพื่อการวินิจฉัยโรคเส้นประสาทขนาดเล็ก (Small Fiber Neuropathy) ซึ่งเป็นส่วนย่อยของโรคปลายประสาทอักเสบส่วนปลาย
  • การเจาะหลัง (ไขสันหลัง)
    • การเจาะน้ำไขสันหลัง (Lumbar Puncture) เพื่อประเมินน้ำไขสันหลังและดูสัญญาณของการอักเสบ รวมถึงการติดเชื้ออื่น ๆ  
  • การตรวจรหัสทางพันธุกรรม
    • การตรวจยีน (Gene Test) แนะนำในกรณีที่สงสัยว่าตนเองมีโรคระบบประสาททางพันธุกรรม หรือครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท
  • การทดสอบเฉพาะทาง
    • การตรวจระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Testing) เพื่อประเมินการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ
    • การส่งตรวจเส้นประสาท (Nerve Biopsy) เพื่อหาสาเหตุเฉพาะของอาการชาจากปลายประสาทอักเสบ เป็นการตรวจที่พบได้น้อยครั้งแต่อาจมีการพิจารณาตรวจได้ในบางกรณี

เมื่อระบุสาเหตุปลายประสาทอักเสบและลักษณะของโรคปลายประสาทอักเสบด้วยวิธีข้างต้นแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถปรับแผนการรักษาเพื่อระบุปัจจัยพื้นฐานเฉพาะที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าวได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อมีอาการที่บ่งบอกถึงโรคปลายประสาทอักเสบจำเป็นจะต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างทันท่วงทีเพื่อหาวิธีจัดการกับโรคปลายประสาทอักเสบวิธีรักษาที่เหมาะสม

การรักษาโรคปลายประสาทอักเสบวิธีรักษานั้นมีหลากหลายวิธี ซึ่งจะมีความเฉพาะเจาะจงแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของเส้นประสาทส่วนปลาย โดยวิธีรักษาปลายประสาทอักเสบวิธีรักษาที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญใช้กันทั่วไปในการบรรเทาอาการและจัดการกับโรคปลายประสาทอักเสบก็จะมีดังนี้

  • การใช้ยาแก้ปลายประสาทอักเสบ
    • ยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) หรือ ที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อะเซตามีโนเฟน (Acetaminophen), ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และยาที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสั่งโดยเฉพาะ เช่น กาบาเพนติน (Gabapentin) หรือพรีกาบาลิน (Pregabalin) 
    • ยาต้านอาการซึมเศร้าบางชนิด เช่น ยาต้านซึมเศร้ากลุ่มไตรไซคลิก อาทิ อะมิทริปไทลีน (Amitriptyline) เป็นต้น
    • ยาบรรเทาอาการแก้ปลายประสาทอักเสบเฉพาะที่ เช่น ครีม หรือแผ่นแปะที่มียา  โดยจะเป็นยาที่มีส่วนผสมของแคปไซซิน (Capsaicin) หรือยาลิโดเคน (Lidocaine)
  • การทำกายภาพบำบัด
    • กายภาพบำบัดและการออกกำลังกายเพื่อการฟื้นฟู สามารถช่วยปรับปรุงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และยังช่วยในเรื่องของการประสานงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้ออีกด้วย
  • การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
    • การจัดการกับโรคเบาหวานที่เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของปลายประสาทอักเสบ โดยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม การออกกำลังกาย และการรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ
    • การใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพและหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป
  • การกระตุ้นเส้นประสาท
    • การใช้ไฟฟ้ากระตุ้นเส้นประสาทผ่านทางผิวหนัง  (TENS) เพื่อบรรเทาอาการปวดโดยการส่งกระแสไฟฟ้าแรงดันต่ำไปยังเส้นประสาทที่ได้รับผลกระทบ
  • การบำบัดเสริมและการใช้วิธีการรักษาทางเลือก
    • การฝังเข็ม การนวดบำบัด และการดูแลบำรุงรักษาแบบไคโรแพรกติก เพื่อบรรเทาอาการของปลายประสาทอักเสบ
  • การผ่าตัด
    • ในกรณีที่เส้นประสาทส่วนปลายเกิดจากการกดทับของเส้นประสาท (เช่น โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ Carpal Tunnel Syndrome) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจมีการพิจารณาให้ทำการผ่าตัด

การเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับอาการเส้นประสาทอักเสบของผู้ป่วยแต่ละราย สาเหตุเฉพาะของเส้นประสาทส่วนปลายที่เกิดการอักเสบ และลักษณะและความรุนแรงของอาการ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะมีการประเมินอาการของปลายประสาทอักเสบอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาแผนการรักษาเฉพาะบุคคลให้ผู้ป่วยแต่ละคนได้ผลลัพธ์จากการรักษาปลายประสาทอักเสบวิธีรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมที่สุด

การป้องกันโรคปลายประสาทอักเสบมักเกี่ยวข้องกับการจัดการกับปัจจัยเสี่ยงที่ซ่อนอยู่และการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันได้ในทุกกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการปลายประสาทอักเสบที่เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมหรือสภาวะทางการแพทย์บางอย่าง แต่ก็สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบได้  

รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ 
การรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารจำเป็นต่อร่างกาย รวมถึงอาหารที่เต็มไปด้วยวิตามินบี อย่าง ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว เมล็ดพืช และผักใบเขียว จะช่วยส่งเสริมสุขภาพของร่างกายและระบบประสาท   

ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น การเดิน ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน สามารถส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตและสุขภาพโดยรวมได้

จำกัดการบริโภคแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจทำให้เส้นประสาทเสียหาย 

หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารพิษจากสิ่งแวดล้อม รวมถึงสารเคมีบางชนิดและโลหะหนัก การสัมผัสกับสารพิษบางชนิด เช่น โลหะหนัก (ตะกั่ว ปรอท) สารเคมีทางอุตสาหกรรม และยาบางชนิด (เช่น ยาเคมีบำบัด ยาปฏิชีวนะบางชนิด) อาจทำให้เกิดโรคปลายประสาทอักเสบ

ป้องกันการบาดเจ็บที่ส่งผลต่อเส้นประสาท 
การใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บที่ร้ายแรง รวมถึงการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยที่เหมาะสมระหว่างเล่นกีฬา สามารถป้องกันการบาดเจ็บที่อาจนำไปสู่ความเสียหายของเส้นประสาท 

การตรวจสุขภาพเป็นประจำ
การตรวจสุขภาพเป็นประจำสามารถช่วยระบุและจัดการสภาวะที่อาจส่งผลต่อเส้นประสาทส่วนปลาย เช่น เบาหวาน โรคไต หรือการขาดวิตามิน 

เลือกสวมรองเท้าที่ใส่สบาย
การสวมรองเท้าที่พอดีและสวมใส่สบายสามารถป้องกันการกดทับเส้นประสาทที่อาจก่อให้เกิดอาการปลายประสาทอักเสบได้

หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่อาจทำให้เกิดปัญหาระบบไหลเวียนโลหิตและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปลายระบบประสาทอักเสบ

การจัดการความเครียด 
ความเครียดเรื้อรังอาจส่งผลต่อสภาวะสุขภาพบางอย่างที่อาจนำไปสู่โรคปลายระบบประสาทอักเสบได้ ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการฝึกเทคนิคการลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือการหายใจเข้าลึก ๆ เป็นต้น

ถึงแม้จะมีวิธีลดความเสี่ยงของการเกิดปลายประสาทอักเสบที่หลากหลาย แต่สิ่งสำคัญก็คือวิธีป้องกันปลายประสาทอักเสบเหล่านี้ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะป้องกันโรคปลายประสาทอักเสบ หรือแก้ปลายประสาทอักเสบได้อย่างสมบูรณ์ แต่สามารถช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นและลดความเสี่ยงของภาวะบางอย่างที่อาจนำไปสู่โรคปลายประสาทอักเสบได้ 

ดังนั้นหากใครมีอาการบ่งชี้ที่เป็นสัญญาณของโรคปลายประสาทอักเสบ ขอแนะนำให้เข้ารับการวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถหาวิธีรักษาปลายประสาทอักเสบที่เหมาะสมได้ก่อนที่อาการจะลุกลามจนรุนแรง ซึ่งการรักษาโรคปลายประสาทอักเสบวิธีรักษานั้นมีหลากหลายวิธีมาก ๆ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจมีการแนะนำให้ใช้ยาแก้ปลายประสาทอักเสบเพื่อบรรเทาอาการปวดในช่วงแรกและอาจใช้วิธีรักษาปลายประสาทอักเสบเฉพาะทางร่วมด้วยเพื่อให้ผลลัพธ์ของการรักษาที่ดีที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง