ข้อควรรู้…สำหรับมือใหม่หัดออกกำลังกาย

Health / Self Care

ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา (2020-2021) ชีวิตของเราได้พบกับความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคใหม่มีผลกระทบกับผู้คนทั้งโลกไม่ว่าจะมีฐานะอย่างใด เราต้องถูกจำกัดการเดินทาง การพบปะพูดคุย ฯลฯ วิถีชีวิตแบบเดิมถูกกระทบและก็คงจะไม่กลับไปเป็นแบบเดิมได้อีก ถึงแม้ว่าเราจะควบคุมการระบาดของโรคได้ในอนาคต เพราะเราจะเริ่มคุ้นเคยกับวิถีชีวิตแบบใหม่ ในช่วงระยะเวลาที่เราไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ ก็มีหลายๆ คนได้เริ่มทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น ทำอาหาร เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ออกกำลังกาย หรือคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้วก็ต้องปรับรูปแบบการออกกำลังกายแบบใหม่ 

การที่เราเริ่มมาทำอะไรใหม่ๆ ก็คงไม่ชำนาญ ไม่คุ้นเคย บางคนทำแล้วก็อาจจะเบื่อแล้วเลิกไป แล้วก็ไปหาอะไรใหม่ๆ ทำต่อ ทุกอย่างที่เราเริ่มทำในช่วงแรกๆ ถ้าเราผ่านไปได้เราก็จะรู้สึกว่าไม่ลำบากหรือยากอย่างที่เราคิด ตัวผู้เขียนเองก็เช่นเดียวกัน ในช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีโอกาสหัดทำอาหาร จำได้ว่าครั้งแรกที่ทำก็คือช่วยภรรยาทำข้าวผัด ตอนนั้นรู้สึกเมื่อยแขนมาก เพราะเราต้องผัดข้าวไปมาให้เมล็ดข้าวไม่เกาะกัน เลยรู้สึกว่าทำอาหารนี่ก็เหนื่อยเหมือนกัน แม้ว่าผู้เขียนจะออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ เช่นว่ายน้ำและวิ่ง แต่การที่มาทำอาหารเราใช้กล้ามเนื้ออีกกลุ่มหนึ่ง ก็เลยทำให้ปวดล้าแขน แต่เมื่อทำไปเรื่อยๆ บ่อยๆ อาการเหล่านี้ก็หายไป 

กลับมาที่เรื่องเกี่ยวกับการออกกำลังกายก็เช่นเดียวกัน พอเราจะเริ่มทำก็มักจะมีคำถามหรือข้อความที่เคยได้ยินมาก่อน เช่น 

ออกกำลังแล้วปวดกล้ามเนื้อ…ควรซ้ำหรือพักก่อน

ช่วงที่ออกกำลังกายใหม่ๆ เรามักจะปวดกล้ามเนื้อ บางคนก็ว่าให้ทำซ้ำไปเลย บางคนก็ว่าให้หยุดพักก่อน หรือบางคนออกกำลังกายมานาน ยกน้ำหนักทุกวันทำไมพุงไม่ยุบเลย บ้างก็บอกว่ายกน้ำหนักมากๆ ดี บ้างก็บอกว่ายกน้อยๆ ดีกว่า บางคนก็เลิกไปเลย เพราะว่ายกน้ำหนักทีไรเจ็บตัวทุกครั้งหรือเป็นตะคริวก็บ่อย ทุกอย่างไม่มีสูตรตายตัวต้องดูที่ตัวเราเอง 

สิ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือการเตรียมตัวก่อนออกกำลังกาย และการปฏิบัติตัวหลังออกกำลังกาย การยืดเหยียดกล้ามเนื้อมีความสำคัญอย่างมาก ก่อนออกกำลังกายถ้าทำการยืดเหยียดก็จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บได้ เหมือนเป็นการบอกร่างกายเราให้เตรียมพร้อมที่จะทำงาน ส่วนที่ว่าการออกกำลังกายมีการเจ็บปวดตามกล้ามเนื้อก็เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อได้พักอาการเหล่านี้ก็จะค่อยๆ หายไปในเวลา 1-2 วัน คราวนี้เราจะออกกำลังกายต่อหรือจะพักก่อนก็ต้องดูว่าอาการปวดหรือเจ็บนั้นมากน้อยแค่ไหน ถ้าอาการปวดค่อนข้างมากจนรบกวนเรา เช่น รบกวนการนอน อย่างนี้ควรจะพักก่อน ให้อาการทุเลาแล้วค่อยไปออกกำลังกายต่อ แต่ถ้าไม่ได้ปวดมากเราก็สามารถออกกำลังกายต่อเนื่องได้ในวันถัดไป เมื่อไหร่ที่อาการปวดเป็นมากและเป็นอยู่นาน 5-7วันก็ยังไม่ทุเลา ก็ค่อยไปปรึกษาแพทย์ดู

ยกเวท…ใช้น้ำหนักแค่ไหนจึงเหมาะสม

ในกรณีของการยกน้ำหนักก็มีคำถามว่าควรใช้น้ำหนักเท่าใดจึงจะเหมาะ โดยสรุปคร่าวๆ ก็คือน้ำหนักที่เรายกได้ 8-10 ครั้งโดยไม่รู้สึกว่าเบาไปหรือหนักไป อันนั้นคือน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับตัวเรา ต่อเมื่อเรามีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นจึงค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักที่ยก ถ้าเราไม่ต้องการกล้ามเนื้อที่มีขนาดใหญ่โตก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำหนักที่มากเกินไป เอาขนาดที่ยกได้สบายๆ แต่เพิ่มจำนวนครั้งเอา ในรายที่อยากเพิ่มกล้ามเนื้อเขาก็จะใช้น้ำหนักที่มากขึ้นและใช้จำนวนครั้งที่ยกน้อยลง กรณีนี้ถ้ามีเทรนเนอร์อยู่ด้วยก็จะปลอดภัยกว่า 

เวย์โปรตีน…จำเป็นต้องทานหรือไม่?

ในคนทั่วไปคงไม่มีความจำเป็นเท่าใดนัก เพียงทานอาหารให้ครบหมู่ก็เพียงพอแล้ว การยกน้ำหนักอย่างเดียวอาจได้แค่ความแข็งแรง แต่การจะลดไขมันตามตัวนั้นต้องมีการออกกำลังกายพวกแอโรบิคร่วมด้วย 


ทั้งหมดนี้ ร่างกายของเราจะบอกเราได้ดีที่สุดว่าแค่ไหนถึงเหมาะกับเรา อย่าทำอะไรที่ฝืนตัวเองมากเกินไป ถ้ามีอะไรที่ผิดปกติต้องหยุดพักและสังเกตดูก่อน ถ้าทำได้แบบนี้ทุกคนก็จะออกกำลังกายได้อย่างมีความสุขและได้ผลลัพธ์อย่างที่ตั้งใจไว้ จุดประสงค์ของการออกกำลังกายในคนอายุต่างกันก็ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะคนสูงอายุนั้นไม่ต้องการความเร็วหรือความแข็งแรงมากมายอะไร แต่ควรเน้นที่ความสมดุล มั่นคง เพื่อที่จะไม่หกล้มง่ายๆ รวมถึงเรื่องความยืดหยุ่นของข้อต่อต่างๆ ด้วยเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง