ในสังคมที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายในการจัดหาระบบการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้ จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (2564) พบว่าประเทศไทยมีผู้สูงอายุคิดเป็นร้อยละ 18.1 ของประชากรทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีผู้พิการและผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแลระยะยาวอีกจำนวนมาก
แนวคิด “Care Tech Library” หรือ “ศูนย์ยืม-คืนอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการดูแล” เป็นนวัตกรรมบริการสังคมที่กำลังได้รับความสนใจในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อตอบสนองความต้องการด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง บทความนี้จะนำเสนอแนวคิด รูปแบบ และประโยชน์ของ Care Tech Library ตลอดจนกรณีศึกษาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
แนวคิดและความสำคัญของ Care Tech Library
Care Tech Library หรือศูนย์ยืม-คืนอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการดูแล เป็นศูนย์บริการที่ให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยระยะฟื้นฟู หรือผู้ดูแล สามารถยืมอุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกไปใช้ที่บ้านโดยไม่ต้องซื้อ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการดูแลและฟื้นฟูสมรรถภาพ อุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและผู้พิการ แต่อุปกรณ์เหล่านี้มักมีราคาแพงและไม่คุ้มค่าหากใช้ในระยะสั้น การมีศูนย์ยืม-คืนจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเชิงเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข”
งานวิจัยโดย Cook และคณะ (2023) พบว่า การเข้าถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสามารถลดระยะเวลาการพักฟื้นได้ถึงร้อยละ 30 และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ถึงร้อยละ 45 ซึ่งส่งผลให้ลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระยะยาว
ประเภทของอุปกรณ์ใน Care Tech Library
ศูนย์ยืม-คืนอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการดูแลสามารถจัดหาอุปกรณ์ที่หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้บริการ โดยทั่วไปแล้วมักแบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้
1. อุปกรณ์เพื่อการเคลื่อนไหว
- วีลแชร์ประเภทต่างๆ (ธรรมดา, ไฟฟ้า, สำหรับนั่งอาบน้ำ)
- ไม้เท้า ไม้ค้ำยัน และอุปกรณ์ช่วยเดิน (Walker)
- เครื่องช่วยยกและเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
- รถเข็นไฟฟ้า (Electric Scooter)
2. อุปกรณ์เพื่อการดูแลและการพยาบาล
- เตียงผู้ป่วยปรับระดับได้
- ที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ
- เครื่องดูดเสมหะ
- เครื่องผลิตออกซิเจน
- เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด
3. อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการดูแล
- อุปกรณ์เตือนภัยและขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน
- อุปกรณ์ติดตามสัญญาณชีพ
- แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ
- หุ่นยนต์เพื่อนคลายเหงา
- ระบบการดูแลทางไกล (Telecare)
4. อุปกรณ์เพื่อการสื่อสารและพัฒนาคุณภาพชีวิต
- เครื่องช่วยฟัง
- อุปกรณ์ช่วยพูดสำหรับผู้มีปัญหาด้านการสื่อสาร
- อุปกรณ์ช่วยเหลือสำหรับผู้พิการทางสายตา
- แท็บเล็ตที่ออกแบบเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ
รูปแบบการดำเนินงานของ Care Tech Library
1. ผู้ดำเนินการและแหล่งงบประมาณ
รูปแบบการดำเนินงานของศูนย์ยืม-คืนอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการดูแลสามารถทำได้หลายลักษณะ เช่น:
- ดำเนินการโดยหน่วยงานภาครัฐ เช่น โรงพยาบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- ดำเนินการโดยองค์กรไม่แสวงหากำไร มูลนิธิ หรือองค์กรการกุศล
- ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnership)
- การดำเนินการโดยภาคเอกชนในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise)
สำหรับแหล่งงบประมาณอาจมาจากงบประมาณภาครัฐ เงินบริจาค การเก็บค่าสมาชิกหรือค่าธรรมเนียมการยืมในราคาที่เข้าถึงได้ หรือการได้รับการสนับสนุนจากบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์
2. กระบวนการให้บริการ
กระบวนการให้บริการของ Care Tech Library ประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญ ดังนี้:
- การประเมินความต้องการ: มีนักกายภาพบำบัด พยาบาล หรือผู้เชี่ยวชาญประเมินสภาพร่างกายและความต้องการเพื่อแนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสม
- การฝึกอบรมการใช้งาน: สอนผู้ใช้และผู้ดูแลให้เข้าใจวิธีการใช้งานอุปกรณ์อย่างถูกต้องและปลอดภัย
- การยืมและคืน: กำหนดระยะเวลาการยืมที่ยืดหยุ่นตามความจำเป็น พร้อมระบบติดตามและตรวจสอบสภาพอุปกรณ์
- การบำรุงรักษาและซ่อมแซม: มีช่างเทคนิคหรือผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- การให้คำปรึกษาและติดตามผล: มีระบบติดตามผลการใช้งานเพื่อปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับสภาพผู้ใช้ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
กระบวนการที่ครบวงจรตั้งแต่การประเมินจนถึงการติดตามผลเป็นหัวใจสำคัญของการให้บริการ Care Tech Library เพราะไม่เพียงแต่ให้ยืมอุปกรณ์ แต่ต้องทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
กรณีศึกษาและตัวอย่างความสำเร็จ
1. กรณีศึกษาในประเทศไทย
ศูนย์ยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ สภากาชาดไทย
สภากาชาดไทยได้จัดตั้งศูนย์ยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 โดยให้บริการยืมอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุ เช่น รถเข็น ไม้เท้า อุปกรณ์ช่วยเดิน และเตียงผู้ป่วย โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ผู้ใช้บริการสามารถยืมได้นานถึง 6 เดือนและต่ออายุได้ตามความจำเป็น จากรายงานประจำปี 2563 พบว่ามีผู้ใช้บริการกว่า 5,000 ราย และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ยืมได้กว่า 15 ล้านบาทต่อปี (สภากาชาดไทย, 2563)
โครงการธนาคารอุปกรณ์ สปสช.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้สนับสนุนการจัดตั้ง “ธนาคารอุปกรณ์” ในหน่วยบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถยืมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นไปใช้ที่บ้าน โดยในปี 2564 มีการจัดสรรงบประมาณกว่า 150 ล้านบาทเพื่อจัดหาอุปกรณ์ให้บริการในกว่า 1,000 หน่วยบริการทั่วประเทศ (สปสช., 2564)
2. กรณีศึกษาต่างประเทศ
Assistive Technology Libraries ในประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบได้พัฒนาระบบ Assistive Technology Libraries ในทุกจังหวัด โดยดำเนินการภายใต้กฎหมายการสนับสนุนความเป็นอิสระของผู้สูงอายุ (Long-Term Care Insurance Law) ระบบนี้ให้ผู้สูงอายุสามารถยืมอุปกรณ์โดยจ่ายเพียงร้อยละ 10 ของค่าเช่า ส่วนที่เหลือรัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบ จากการศึกษาของ Hamada และ Kondo (2022) พบว่าระบบนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการดูแลระยะยาวลงได้ถึงร้อยละ 25 และลดอัตราการเข้าพักในสถานพยาบาลลงร้อยละ 30
TechOWL (Technology for Our Whole Lives) ในสหรัฐอเมริกา
TechOWL เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา ดำเนินการในรัฐเพนซิลเวเนีย โครงการนี้ไม่เพียงให้บริการยืมอุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก แต่ยังมีบริการให้คำปรึกษา ประเมินความต้องการ และฝึกอบรมการใช้งาน ทั้งสำหรับผู้ใช้และผู้ดูแล นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาและจองอุปกรณ์ได้สะดวกยิ่งขึ้น (McNaughton & Light, 2023)
ความท้าทายและข้อเสนอแนะ
แม้ว่าแนวคิด Care Tech Library จะมีประโยชน์อย่างมาก แต่ก็มีความท้าทายหลายประการที่ต้องพิจารณา:
1. ความท้าทาย
- งบประมาณและความยั่งยืน: การจัดหาอุปกรณ์คุณภาพดีและทันสมัยต้องใช้งบประมาณสูง รวมถึงค่าบำรุงรักษาและการทดแทนอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพ
- การเข้าถึงในพื้นที่ห่างไกล: ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลอาจมีอุปสรรคในการเดินทางมาใช้บริการ
- ความรู้และทักษะของผู้ใช้: ผู้สูงอายุและผู้ดูแลอาจไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
- การบำรุงรักษาและการจัดการคลังอุปกรณ์: ต้องมีระบบการบำรุงรักษาและการจัดการคลังที่มีประสิทธิภาพ
2. ข้อเสนอแนะ
รศ.ดร.นงลักษณ์ พะไกยะ (2565) จากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ได้เสนอแนวทางการพัฒนา Care Tech Library ในประเทศไทย ดังนี้:
- พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ: สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อร่วมกันสนับสนุนทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ
- ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการ: พัฒนาระบบการจองและติดตามอุปกรณ์ออนไลน์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ
- บูรณาการกับระบบสุขภาพและสวัสดิการสังคม: เชื่อมโยงการให้บริการกับระบบประกันสุขภาพและสวัสดิการสังคมที่มีอยู่
- พัฒนารูปแบบบริการเชิงรุก: จัดบริการเคลื่อนที่ (Mobile Service) เพื่อเข้าถึงผู้ใช้ในพื้นที่ห่างไกล
- วิจัยและพัฒนานวัตกรรม: สนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอุปกรณ์เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย
บทสรุป
แนวคิด Care Tech Library หรือศูนย์ยืม-คืนอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการดูแล เป็นนวัตกรรมบริการสังคมที่มีศักยภาพในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้มีภาวะพึ่งพิง โดยช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น ลดภาระค่าใช้จ่าย และส่งเสริมการดูแลระยะยาวในชุมชน
จากกรณีศึกษาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แสดงให้เห็นว่าการพัฒนา Care Tech Library ที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม รวมถึงการออกแบบระบบบริการที่ครบวงจรตั้งแต่การประเมินความต้องการไปจนถึงการติดตามผล
การพัฒนา Care Tech Library ในประเทศไทยให้ครอบคลุมและยั่งยืนยังมีความท้าทายหลายประการที่ต้องได้รับการแก้ไข แต่ด้วยการวางแผนที่ดีและการสนับสนุนอย่างเหมาะสม แนวคิดนี้มีศักยภาพที่จะเป็นส่วนสำคัญในการรองรับสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยในอนาคต
เอกสารอ้างอิง
- Cook, A. M., Polgar, J. M., & Livingston, N. J. (2023). Assistive technologies: Principles and practice (5th ed.). Elsevier.
- Hamada, S., & Kondo, K. (2022). Impact of assistive device lending programs on long-term care costs in Japan: A longitudinal study. Archives of Gerontology and Geriatrics, 98, 104525.
- McNaughton, D., & Light, J. (2023). The effectiveness of assistive technology libraries in supporting independent living: A systematic review. Disability and Rehabilitation: Assistive Technology, 18(1), 25-36.
- พะไกยะ, นงลักษณ์. (2565). แนวทางการพัฒนาศูนย์ยืม-คืนอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการดูแลในประเทศไทย. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 16(2), 154-168.
- สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2564). สถิติผู้สูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2564. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
- สภากาชาดไทย. (2563). รายงานประจำปี 2563 ศูนย์ยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ. กรุงเทพฯ: สภากาชาดไทย.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2564). รายงานการดำเนินงานโครงการธนาคารอุปกรณ์ ปีงบประมาณ 2564. กรุงเทพฯ: สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ.