Toilet Mapping Community: ชุมชนแบ่งปันข้อมูลห้องน้ำสาธารณะ

Care / Social Care

ในชีวิตประจำวัน เราทุกคนล้วนต้องการใช้ห้องน้ำ แต่หลายคนอาจไม่เคยตระหนักว่า การเข้าถึงห้องน้ำสาธารณะที่สะอาดและปลอดภัยเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับคนบางกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการ ผู้สูงอายุ ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หรือกลุ่ม LGBTQ+ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มักขาดการวางแผนและดูแลจัดการห้องน้ำสาธารณะอย่างเป็นระบบ นี่คือจุดกำเนิดของชุมชน “Toilet Mapping” ที่มุ่งมั่นจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้

แนวคิด Toilet Mapping ไม่ใช่เรื่องใหม่ในระดับโลก ประเทศออสเตรเลียเป็นผู้บุกเบิกโครงการ “National Public Toilet Map” ตั้งแต่ปี 2001 ภายใต้แผนกลยุทธ์ National Continence Management Strategy เพื่อช่วยให้ผู้มีปัญหาทางการขับถ่ายสามารถใช้ชีวิตนอกบ้านได้อย่างมั่นใจ (Australian Government Department of Health, 2021) ปัจจุบันแพลตฟอร์มนี้มีข้อมูลห้องน้ำสาธารณะมากกว่า 19,000 แห่งทั่วประเทศ

ในสหรัฐอเมริกา แอพพลิเคชั่น “Refuge Restrooms” ถูกพัฒนาขึ้นโดย Teagan Widmer ในปี 2014 เพื่อช่วยให้คนข้ามเพศสามารถค้นหาห้องน้ำที่ปลอดภัยและเป็นมิตร หลังจากเผชิญกับประสบการณ์ถูกคุกคามในห้องน้ำสาธารณะ (Widmer, 2018) โครงการนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับชุมชน Toilet Mapping ทั่วโลก

ในปี 2020 กลุ่มนักศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ริเริ่มโครงการ “ThaiToilet Map” หลังจากเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งวีลแชร์ประสบปัญหาในการหาห้องน้ำที่เข้าถึงได้ในกรุงเทพฯ ณัฐพงษ์ จิรวัฒน์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งเล่าว่า “เราเริ่มต้นด้วยการทำแผนที่ห้องน้ำในมหาวิทยาลัย แต่พอโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย มีคนสนใจเยอะมาก จึงขยายไปทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล” (สัมภาษณ์ส่วนตัว, 15 มีนาคม 2023)

ปัจจุบัน ThaiToilet Map มีอาสาสมัครกว่า 500 คนที่ช่วยกันเก็บข้อมูลและอัพเดทข้อมูลห้องน้ำสาธารณะทั่วประเทศผ่านแอพพลิเคชั่น โดยมีข้อมูลครอบคลุมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน ความสะอาด ค่าบริการ รวมถึงความเป็นมิตรกับผู้พิการและครอบครัวที่มีเด็กเล็ก

จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นต้นแบบความสำเร็จของการนำแนวคิด Toilet Mapping มาประยุกต์ใช้ในระดับท้องถิ่น โครงการ “Chiang Mai Accessible Toilet” เกิดจากความร่วมมือระหว่างเทศบาลนครเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และภาคประชาสังคม

คุณสุรีย์พร แสงหิรัญ ประธานชมรมคนพิการจังหวัดเชียงใหม่ อธิบายถึงความเปลี่ยนแปลงว่า “ก่อนหน้านี้ คนพิการแทบไม่กล้าออกจากบ้านเพราะกลัวไม่มีห้องน้ำที่เข้าถึงได้ แต่ตอนนี้เรามีแอพที่บอกได้เลยว่าห้องน้ำที่ไหนใช้ได้ ทำให้มีอิสระในการใช้ชีวิตมากขึ้น” (เชียงใหม่นิวส์, 2022)

ตามข้อมูลจากเทศบาลนครเชียงใหม่ หลังจากเริ่มโครงการในปี 2021 จำนวนห้องน้ำสาธารณะที่เข้าถึงได้สำหรับผู้พิการเพิ่มขึ้นถึง 40% และมีการปรับปรุงห้องน้ำเดิมอีกกว่า 50 แห่งเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน Universal Design

แม้แนวคิด Toilet Mapping จะได้รับการตอบรับที่ดี แต่ยังมีความท้าทายหลายประการ ดร.ชุติมา อารียา นักวิจัยด้านสาธารณสุขจากมหาวิทยาลัยมหิดล ชี้ให้เห็นว่า “ปัญหาหลักคือการขาดความตระหนักรู้ของภาครัฐและเอกชนในการให้ความสำคัญกับการจัดการห้องน้ำสาธารณะอย่างเป็นระบบ รวมถึงขาดมาตรฐานที่ชัดเจนในระดับประเทศ” (อารียา, 2023)

นอกจากนี้ ความท้าทายสำคัญอีกประการคือการรักษาข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน เนื่องจากสภาพห้องน้ำสาธารณะมักเปลี่ยนแปลงบ่อย ทั้งในแง่ความสะอาด การเปิดให้บริการ และการปิดซ่อมแซม ทำให้ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างต่อเนื่อง

การมีระบบ Toilet Mapping ที่ดีไม่เพียงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอีกด้วย ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) การลงทุนด้านสุขาภิบาลให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5.5 เท่าในรูปแบบของการลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขและการเพิ่มผลิตภาพ (WHO, 2022)

กรณีศึกษาจากเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี แสดงให้เห็นว่าหลังจากใช้ระบบ Toilet Mapping และปรับปรุงห้องน้ำสาธารณะตามชายหาดในปี 2022 ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 23% และจำนวนการร้องเรียนลดลงถึง 68% (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, 2023)

แนวคิด Toilet Mapping กำลังขยายตัวสู่ชุมชนและพื้นที่ใหม่ๆ ทั่วประเทศไทย โครงการ “ห้องน้ำปลอดภัยในโรงเรียน” เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและองค์การยูนิเซฟ เพื่อปรับปรุงห้องน้ำในโรงเรียนชนบทให้ถูกสุขลักษณะและปลอดภัยสำหรับเด็กทุกเพศ ครอบคลุมโรงเรียนแล้วกว่า 500 แห่งในปี 2023 (UNICEF Thailand, 2023)

ในขณะเดียวกัน เครือข่าย “Safe Toilet for All” ได้ขยายการทำงานไปยังพื้นที่ชายแดนและชุมชนผู้อพยพ โดยไม่เพียงแค่ทำแผนที่ห้องน้ำ แต่ยังให้ความรู้ด้านสุขอนามัยและสร้างห้องน้ำชั่วคราวในพื้นที่ขาดแคลน

ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับชุมชน Toilet Mapping ได้ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเก็บข้อมูล รายงานสถานะห้องน้ำ หรือสนับสนุนนโยบายสาธารณะที่เกี่ยวข้อง ดังคำกล่าวของ Jack Sim ผู้ก่อตั้ง World Toilet Organization “ปัญหาห้องน้ำเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเผชิญ แต่น้อยคนจะพูดถึง เราต้องทำลายความเงียบและสร้างการเปลี่ยนแปลง” (World Toilet Summit, 2019)

การสร้างสังคมที่ทุกคนเข้าถึงห้องน้ำสาธารณะที่สะอาดและปลอดภัยไม่ใช่เพียงเรื่องของสุขอนามัย แต่เป็นเรื่องของความเท่าเทียมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ชุมชน Toilet Mapping กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นได้จากความร่วมมือของคนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

อ้างอิง

  1. Australian Government Department of Health. (2021). National Public Toilet Map. https://toiletmap.gov.au/about
  2. Widmer, T. (2018). Creating safe spaces: The story behind Refuge Restrooms. Medium. https://medium.com/@teaganwidmer/creating-safe-spaces-the-story-behind-refuge-restrooms-e78cde3bdf59
  3. เชียงใหม่นิวส์. (2022). เชียงใหม่ผุดแอพแผนที่ห้องน้ำสำหรับผู้พิการ หวังสร้างเมืองที่ทุกคนเข้าถึงได้. https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/2022011
  4. อารียา, ช. (2023). สถานการณ์การจัดการห้องน้ำสาธารณะในประเทศไทย. วารสารสาธารณสุขศาสตร์, 53(1), 45-58.
  5. World Health Organization. (2022). Global costs and benefits of drinking-water supply and sanitation interventions to reach the MDG target and universal coverage. WHO Press.
  6. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2023). รายงานความพึงพอใจนักท่องเที่ยวต่อสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยวหลัก ปี 2022. กรุงเทพฯ: ททท.
  7. Bangkok Post. (2023, January 15). Thai startup revolutionizes public toilet management with IoT. https://www.bangkokpost.com/tech/2485136/
  8. UNICEF Thailand. (2023). WASH in Schools program: Annual Report 2023. Bangkok: UNICEF Thailand.
  9. World Toilet Summit. (2019). Proceedings of the World Toilet Summit 2019. Singapore: World Toilet Organization.

บทความที่เกี่ยวข้อง