ไขปริศนา อาการหลงลืมที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ เป็นเรื่องปกติหรือไม่?
อาการหลงลืมที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องปกติ หรืออาจมองว่าเป็นเพียงอาการที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในความจริงแล้ว หากมีอาการลืมง่ายบ่อยครั้ง
หรืออาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาจนำมาซึ่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ทั้งการทำงาน การเรียน หรือการทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ นอกจากนี้ยังอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ได้ ดังนั้นบทความนี้จะพาคุณไปดูว่าอาการลืมง่ายเกิดจากอะไร มีอาการลืมง่ายทําไงดี ตลอดถึงวิธีการป้องกันอาการขี้ลืมความจําสั้น เพื่อให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุและแนวทางการดูและตัวอย่างเหมาะสม ตลอดถึงสามารถเสริมสร้างสุขภาพที่ดี หลีกหนีอาการสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ได้ในระยะยาว
พาดูว่าอาการหลงลืมเกิดจากอะไร? สัญญาณจากสมองคุณที่ไม่ควรละเลย
อาการหลงลืม หรือลืมง่ายเกิดจากอะไร อาการหลงลืมเป็นภาวะที่บุคคลประสบปัญหาในด้านการจดจำข้อมูล ไม่สามารถจำหรือระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ในอดีต รายละเอียดต่าง ๆ หรือข้อมูลใหม่ที่ได้เรียนรู้ ประสบพบเจอมา ซึ่งอาการหลงลืมเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย
ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงผู้ที่สูงวัยอายุเยอะเท่านั้น ทั้งยังมีสาเหตุของอาการอย่างหลากหลาย เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การใช้ยาบางชนิด ภาวะซึมเศร้า อาการวิตกกังวล อายุที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม ตลอดถึงอาการของโรคสมองอื่น ๆ อย่างอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดสมอง โรคสมองเสื่อม
รู้ทันความแตกต่างอาการหลงลืมกับการขี้ลืม อาการไหนควรเฝ้าระวัง
ทราบหรือไม่ว่านอกจากอาการหลงลืมแล้ว ยังมีอีกอาการหนึ่งที่มีความใกล้เคียงกัน และถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้งในชีวิตประจำวัน อาการนั้นคือ “ขี้ลืม” ขี้ลืมเป็นอาการที่เกิดจากการลืมสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นลืมวันนัดหมาย ลืมชื่อคนที่พึ่งพบกัน ลืมกุญแจหรือคีย์การ์ดห้อง ซึ่งอาการขี้ลืมเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การขาดสมาธิ การรีบเร่งจนลืม การไม่ได้ใส่ใจ การทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน การทานยานอนหลับหรือยาชนิดอื่น ๆ ตลอดถึงการนอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งอาการขี้ลืมเป็นอาการที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตมากแตกต่างจากอาการหลงลืมในหลายด้าน
ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจและเห็นภาพชัดถึงความแตกต่างระหว่างอาการหลงลืมและอาการขี้ลืมมากยิ่งขึ้น มาดูข้อมูลที่เรานำมาฝากไปพร้อมกันเลย
ลักษณะอาการ | อาการหลงลืม | ขี้ลืม |
สาเหตุ | เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ตั้งแต่การใช้ยา ภาวะทางจิตใจ อารมณ์ ตลอดถึงสาเหตุจากโรคทางสมอง | มักเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น การนอนหลับไม่เพียงพอ การใช้ยา หรือการขาดสมาธิ |
ความรุนแรง | มีอาการรุนแรง เกิดอาการลืมง่ายบ่อยครั้ง | ไม่เกิดขึ้นบ่อย เป็นอาการหลงลืมเพียงเล็กน้อย |
ผลกระทบ | ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก | ส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย หรือไม่ส่งผลกระทบเลย เพราะสามารถกลับมาจำได้อย่างรวดเร็ว |
ระยะเวลา | เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นระยะเวลานาน | เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และมักกลับมาจำได้ภายในเวลาอันสั้น |
การรักษา | ควรได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและหาทางรักษา | ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต คลายความเครียด สร้างบรรยากาศที่ทำให้ตัวเองมีสมาธิมากขึ้น |
ตัวอย่างอาการ | ลืมเหตุการณ์สำคัญที่เคยเกิดขึ้น หรือลืมชื่อคนที่สนิท | ลืมของ ลืมกุญแจบ้าน หรือลืมชื่อคนที่พึ่งรู้จักกัน |
แชร์วิธีสังเกตอาการหลงลืมเบื้องต้นเพื่อการดูแลสุขภาพสมองที่ดี
เมื่อทราบแล้วว่าอาการหลงลืม ลืมง่ายเกิดจากอะไร? เห็นได้ว่าการลืมง่ายเป็นอาการเตือนปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม เพราะคุณไม่อาจทราบได้เลยว่าอาการเหล่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นเพียง “การขี้ลืม” หรือ “อาการหลงลืม” แต่หากเกิดอาการลืมบ่อยครั้ง จนเริ่มเกิดความวิตกกังวล หรือทำการปล่อยปละละเลยไป อาจนำมาซึ่งผลกระทบด้านปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ เพราะหากคุณมีอาการหลงลืม อาจสื่อได้ว่าคุณกำลังมีปัญหาสุขภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ตั้งแต่ระดับธรรมดาไปจนถึงระดับรุนแรงอย่างโรคทางสมอง อาการเริ่มแรกของอัลไซเมอร์ รวมถึงโรคอื่น ๆ
ดังนั้นในส่วนนี้เราจึงนำเอาวิธีสังเกตอาการหลงลืมมาฝาก เพื่อให้คุณสามารถแยกแยะและรับมือกับอาการหลงลืมได้อย่างทันท่วงที และเข้ารับการปรึกษากับแพทย์เพื่อหาสาเหตุและการรักษาที่เหมาะสม
หลงลืมตามวัย
อาการหลงลืมเป็นสิ่งที่ขึ้นได้ตามช่วงวัย โดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น แต่ปัจจุบันก็สามารถพบอาการหลงลืมได้ในช่วงวัยอื่น ๆ เช่นกัน ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน
วัยกลางคน และวัยสูงอายุ เนื่องจากอาการหลงลืมเกิดจากหลายปัจจัยที่ถูกรุมล้อม ซึ่งวิธีสังเกตอาการตามวัยต่าง ๆ มีดังนี้
วัยรุ่นและวัยทำงาน (ช่วงอายุ 15-50 ปี)
- ลืมสิ่งที่พึ่งทำ ลำดับการทำงาน การตัดสินใจสำคัญ
- ลืมรายละเอียดต่าง ๆ ในการทำงาน
- ลืมสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันบ่อยครั้ง
- มีสมาธิลดลง ไม่สามารถโฟกัสอะไรนาน ๆ ได้
วัยกลางคน (ช่วงอายุ 50-60 ปี)
- ลืมเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นาน
- ลืมสิ่งที่ตั้งใจจะทำ เช่น งานที่ทำค้างอยู่ หรือกิจวัตรประจำวัน
- ลืมชื่อบุคคลหรือสถานที่ที่คุ้นเคย
- เกิดความเครียดและความวิตกกังวลเนื่องจากหลงลืมบ่อยครั้ง
วัยสูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)
- ลืมกุญแจ สถานที่เก็บของ ซึ่งเป็นสถานที่ถูกเก็บไว้เป็นประจำ
- ลืมชื่อคนสนิท
- ลืมเหตุการณ์ที่สำคัญในอดีต
- เกิดความยากลำบากในการจดจำและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
- เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวนร่วม
หลงลืมจากภาวะสมองเสื่อม
อาการหลงลืมจากภาวะสมองเสื่อมเป็นภาวะที่ความสามารถในการจดจำและการนึกคิดลดลง โดยอาการมักมีความรุนแรงขึ้นจนไม่สามารถจำอะไรได้เลย ซึ่งอาการหลงลืมจากภาวะนี้มักมีลักษณะเฉพาะที่ผิดปกติ เช่น พูดไม่รู้เรื่อง เรียงลำดับคำผิด สับสนเรื่องเวลาและสถานที่ อารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีความนิ่งเฉยต่อสิ่งรอบตัว สูญเสียความทรงจำระยะสั้น ลืมชื่อคนสนิท ลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือลืมทิศทางบ้านตัวเอง โดยอาการเหล่านี้ที่รุนแรงขึ้นเป็นเหตุให้ผู้ป่วยที่มีอาการหลงลืมจากภาวะสมองเสื่อมจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
เคล็ดลับป้องกันอาการหลงลืม ช่วยเสริมสร้างความจำให้ดียิ่งขึ้น
การลืมง่ายเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่หากเกิดอาการหลงลืมบ่อยครั้งอาจส่งผลกระทบและรบกวนการดำเนินชีวิตประจำ รวมถึงอาจเป็นสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ได้ แล้วหากไม่อยากมีอาการลืมง่ายทําไงดี วันนี้เราจะพาไปดูเคล็ดลับวิธีป้องกันอาการหลงลืม เพื่อดูแลสุขภาพสมองให้แข็งแรงที่ไม่เพียงทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่ยังรวมไปถึงการลดความเสี่ยงของโรคทางสมองต่าง ๆ จะมีวิธีแก้อาการหลง ๆ ลืม ๆ ยังไงบ้าง ไปดูกันเลย
- ฝึกสมองด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเล่นเกม การทายปริศนา การแก้โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ การอ่านหนังสือ และการร้องเพลง
- สร้างกิจวัตรประจำวันที่เป็นระเบียบ ฝึกวางแผน จัดระเบียบสิ่งของภายในบ้าน ฝึกจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่ต้องทำ
- การทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การเล่นโยคะ หรือการใช้เวลาพักผ่อน คลายความเครียด
- นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับจะช่วยให้ร่างกายและสมองได้รับการฟื้นฟู ทำให้มีความทรงจำที่ดีขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลาแซลมอน ธัญพืช ถั่ว ผักและผลไม้ชนิดต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของสมอง
- มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การพูดคุย ติดต่อสื่อสารระหว่างกันจะช่วยกระตุ้นให้สมองมีการทำงานที่ดีขึ้น
อาการหลงลืม ขี้ลืม จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาหรือไม่?
หากมีอาการขี้ลืม ลืมง่ายทําไงดี การขี้ลืมเป็นอาการที่เกิดปัจจัยภายนอกและเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็สามารถแก้อาการขี้ลืมได้ เช่น การนอนหลับเพียงพอ ลดความเครียด หรือจัดระเบียบกิจกรรมต่างๆ สามารถช่วยแก้อาการขี้ลืมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากคุณเริ่มพบว่าอาการหลงลืมเกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและรับการรักษาอย่างถูกต้อง เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง การรักษาที่ทันท่วงทีจะช่วยชะลอความรุนแรงของอาการและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เห็นได้ว่าอาการหลงลืมเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และสามารถเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน โดยการขี้ลืม ลืมง่ายที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องปกติ หากเกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาอย่างเหมาะสม เพราะการดูแลสุขภาพสมองให้ดีจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของคุณ ดังนั้นชื่อว่าข้อมูลที่นำมาฝากในวันนี้จะช่วยให้คุณทราบว่าอาการลืมง่ายเกิดจากอะไร หากมีอาการลืมง่ายทําไงดี เพื่อให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ทันกาลและสามารถดำเนินชีวิตด้วยสุขภาพที่ดีในระยะยาว