ริดสีดวง…ถ้าไม่ระวัง น้องริชชี่จะถามหา!

Health / Others

รู้หรือไม่ว่า 70% ของคนไทยป่วยเป็นโรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids) ไม่อยากจะเชื่อ!!

ตัวเลขนี้อาจทำให้หลายคนตกใจ แต่ถ้าลองเปิดใจกับคนรอบๆ ตัวดูแล้ว คุณอาจตกใจยิ่งกว่าเมื่อพบว่ามีคนรู้จักเป็นจำนวนมากกว่าที่คุณคิดที่ต้องทนทุกข์กับโรคนี้… และบางทีก็อาจรวมถึงตัวคุณเองด้วย! 

โรคริดสีดวงทวารหรือริดสีดวง พบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในวัยทำงานที่ต้องแบกรับความเครียดและความรับผิดชอบเอาไว้มากมาย รวมทั้งยังอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีวิถีชีวิตเร่งรีบ ก็ดูจะเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้สูงขึ้นกว่าใคร

ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังใช้ชีวิตในบรรทัดข้างบนนี้ล่ะก็ ลองมาดูว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวง และคุณควรจะปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตอย่างไรจะได้รอดพ้นจากโรคนี้

1. ยิ่งรีบก็ยิ่งต้อง “เบ่ง”

การเบ่งในที่นี้คือ การเบ่งอุจจาระ โดยเฉพาะการขับถ่ายในตอนเช้าที่จำเป็นต้องลุล่วงอย่างรวดเร็ว เพื่อที่คุณจะได้รีบออกจากบ้าน ฝ่ารถติด ไปถึงที่ทำงานหรือนัดหมายประชุมได้ทันเวลา นี่เป็นอุปนิสัยข้อแรกที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างมาก เพราะการเบ่งอุจจาระจะทำให้ทวารหนักได้รับแรงดันมาก จนหลอดเลือดดำบริเวณดังกล่าวปูดพอง (ขอด) หรือนูนออกมา ซึ่งก็คืออาการของริดสีดวงนั่นเอง

ควรทำ: ตื่นเช้าขึ้นสักหน่อย เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาทำกิจวัตรในห้องน้ำตอนเช้าได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ แต่ก็อย่าเอ้อระเหยนั่งเล่นโทรศัพท์ระหว่างขับถ่ายจนลืมเวลา เพราะการนั่งขับถ่ายนานเกินไปก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดริดสีดวงเช่นกัน 

2. นั่งทำงานเพลินไปหน่อย

นอกจากการนั่งขับถ่ายนานเกินไปจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นริดสีดวงแล้ว การที่เรานั่งทำงานนานเกิน 5-6 ช.ม. ก็ยังเป็นอีกสาเหตุของโรคนี้เช่นกัน เพราะเมื่ออยู่ในอิริยาบถนั่ง น้ำหนักตัวของเราจะสร้างแรงกดทับไปที่กล้ามเนื้อช่วงก้นและทวารหนัก ซึ่งนานๆ เข้าก็จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว

นอกจากนั้น การที่คุณนั่งแช่ทำงานอยู่กับโต๊ะจนปวดอุจจาระแล้วก็ยังไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำในทันที ก็จะทำให้อุจจาระที่ไม่ได้ขับถ่ายออกมาตกค้างอยู่ในลำไส้ จากนั้น อุจจาระดังกล่าวจะรวมตัวกับของเสียที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ กลายเป็นก้อนอุจจาระที่มีขนาดใหญ่และแข็งเพราะขาดน้ำ ทำให้ยากต่อการขับถ่ายมากเข้าไปอีก

ควรทำ: เข้าใจว่าคุณติดพันกับการทำงาน แถมบางครั้งผู้บริหารอย่างคุณก็ต้องนั่งประชุมทีละหลายๆ ชั่วโมง แต่คุณควรลุกเปลี่ยนอิริยาบถ ยืดเส้นยืดสายให้เป็นนิสัย โดยเฉพาะว่าถ้ารู้สึกปวดอุจจาระเมื่อไรก็ควรรีบปลีกตัวจากงานไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย อย่าอั้นเลยจะดีกว่า 

3. กินอาหารขยะ

มนุษย์ออฟฟิศต่างมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ยิ่งงานและความรับผิดชอบรัดตัวมากเท่าไร ก็ดูจะมีเวลาในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ น้อยลงเท่านั้น เช่นเดียวกับอาหารที่คนทำงานส่วนมากเลือกรับประทาน นั่นคือพวกฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารจานด่วนต่างๆ 

แน่นอนว่าฟาสต์ฟู้ดเหล่านี้อุดมไปด้วยไขมันและมีปริมาณกากใยอาหารน้อยเหลือเกิน ซึ่งส่งผลเสียต่อระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย ทำให้เสี่ยงต่ออาการท้องผูกที่จะนำไปสู่ริดสีดวงในที่สุด นอกจากนั้น การกินอาหารฟาสต์ฟู้ดเป็นประจำก็จะทำให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งเป็นอีกความเสี่ยงหนึ่งของริดสีดวงเช่นกัน

ควรทำ: เลือกกินอาหารที่มีผักมากกว่าเนื้อสัตว์และแป้ง อย่าอ้างว่าคุณไม่มีเวลาเลย เพราะเดี๋ยวนี้บริการ delivery ก็ง่ายแค่ปลายนิ้ว ขอให้คุณเลือกสั่งอาหารที่มีประโยชน์ก็แล้วกัน ส่วนมื้อเช้าก่อนไปทำงานนั้น แม้จะเร่งรีบ แต่คุณก็เลือกรับประทานอาหารพวกธัญพืชและผลไม้ได้เช่นกัน แล้วอย่าลืมที่จะดื่มน้ำมากๆ ด้วย 

4. ดริงค์หลังเลิกงาน

หลายคนติดนิสัย “ดื่ม” กับเพื่อนๆ หลังเลิกงาน ไม่ว่าจะเพราะความเครียดจากการทำงานหรือชอบสังสรรค์ก็แล้วแต่ หรืออีกจำนวนไม่น้อย แม้ว่าเลิกงานแล้วอยากจะตรงดิ่งกลับบ้าน แต่ก็จำเป็นต้องไปร่วมงานปาร์ตี้ งานเปิดตัวสินค้า งานเลี้ยงฉลอง ฯลฯ ไม่ก็ต้องพาลูกค้าไปเอนเตอร์เทนตามบทบาทหน้าที่ที่ได้รับ ซึ่งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดูจะเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อภาวะตับแข็งหรือตับเสื่อมสภาพ ซึ่งก็อาจก่อให้เกิดโรคริดสีดวงตามมาเป็นของแถมด้วย เพราะภาวะตับแข็งจะทำให้เลือดดำไหลเข้าตับไม่ได้ จึงเกิดการโป่งพองที่เส้นเลือดดำบริเวณทวารหนัก

ควรทำ: ถ้าจำเป็นต้องดื่มเพื่อเข้าสังคม ก็ควรดื่มทีละนิดพอหอมปากหอมคอพอ หรือไม่ก็เน้นเครื่องดื่มอย่าง mocktail ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วนมนุษย์ปาร์ตี้หรือพวกที่มักไปจบตามร้านเหล้าร้านลาบหลังเลิกงานนั้น ลองลดความถี่ในการสังสรรค์ลงบ้าง สักเดือนละหนสองหนก็พอ นอกจากจะรักษาสุขภาพได้มากขึ้นแล้ว ยังรักษาเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย

5. ก็งานมันเครียด ชีวิตก็ยิ่งเครียด

ความเครียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ชีวิตส่วนตัว หรืออะไรก็แล้วแต่ จะส่งผลเสียต่อระบบทางเดินอาหาร ซึ่งทำให้เกิดอาการท้องผูกและริดสีดวงตามมา

ควรทำ: หาเวลาพักผ่อนบ้าง ไม่ต้องหนีไปเที่ยงต่างจังหวัดบ่อยๆ ก็ได้ แค่ปลีกตัวจากหน้าคอมพ์ลงไปเดินเล่นในสวนสาธารณะใกล้ๆ ฟังเสียงนกเสียงไม้ หรือหางานอดิเรกที่คุณโปรดปรานทำในวันหยุดหรือหลังเลิกงาน อ้อ… อย่าลืมออกกำลังกายสม่ำเสมอด้วยล่ะ เพราะช่วยทั้งลดความเครียดและลดความเสี่ยงของริดสีดวงด้วย 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 ข้อความเสี่ยงและ 5 ข้อในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดโอกาสในการเกิดโรคริดสีดวงทวาร อ่านดูแล้วน่าจะทำกันได้ไม่ยากใช่ไหม เพียงแค่อย่าละเลยกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน วิธีง่ายๆ เช่นนี้ อยากให้คุณได้พิจารณาและลองทำดู เพราะเราไม่อยากให้คุณต้องทุกข์ทนกับโรคริดสีดวงทวารโดยไม่จำเป็น

ที่มา:
med.mahidol.ac.th
thaihealth.or.th
mayoclinic.org

บทความที่เกี่ยวข้อง