WFH อย่างไรให้ค่าไฟไม่กระฉูด!

Care / Family Care

ช่วงโควิดระบาดหนักแบบนี้ อยู่บ้าน Work From Home ก็สบายใจดี แต่จะหนักใจอยู่อย่างก็ตรงที่ค่าไฟทำไมแพงจัง!

ใครที่ไม่ได้ป่วยเป็นไข้ แต่ดันมีอาการหนาวๆ ร้อนๆ เวลาบิลค่าไฟจะเดินทางมาถึง ลองอ่านเคล็ด (ไม่) ลับ วิธีประหยัดไฟ 7 ข้อ ที่ “ชีวิตดี by HHC Thailand” เอามาฝากกัน

1. จำกัดพื้นที่ทำงานให้อยู่ในห้องเดียว

เมื่อต้อง Work From Home คุณควรเลือกห้องห้องหนึ่งหรือพื้นที่มุมใดมุมหนึ่งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นออฟฟิศสำหรับทำงาน จากนั้นก็เข้า-ออกงานตามเวลาเดิมที่คุณใช้เข้า-ออกและทำงานในออฟฟิศ นอกจากการยึดเอาเวลาทำงานในออฟฟิศเป็นหลักในการ Work From Home จะทำให้คุณมีวินัยและได้ผลงานตามเป้าแล้ว การที่คุณไม่เถลไถลแอบออกไปนอนจมโซฟาดูซีรี่ส์ระหว่างเวลางานก็ยังจะช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย เพราะถ้าคุณเดินไปทั่วบ้าน นั่งตรงโน้นทีตรงนี้ที จะทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะเปิดแอร์ เปิดพัดลม สะเปะสะปะไปหมด

2. เปิดม่านรับแสงธรรมชาติ

สาวๆ คะ อย่ากลัวแดดจนเกินไปค่ะ … โดยเฉพาะถ้าคุณเริ่มทำงานตอนเช้าๆ คุณควรลองเปิดม่าน เปิดหน้าต่าง เพื่อรับแสงแดดอ่อนๆ และลมยามเช้าดูบ้าง เพราะบรรยากาศเหล่านี้จะช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าทีเดียวเชียวแหละ และก็แน่นอนว่ายังช่วยลดการใช้ไฟอีกด้วย แต่ถ้าแดดเริ่มแรงจนแสบตา คุณอาจปิดม่านโปร่งแสงเพื่อให้ยังคงมีแสงสว่างส่องเข้ามาในห้องอยู่บ้าง ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักจนเกินไป หรือในกรณีที่ห้องของคุณไม่ได้รับแสงธรรมชาติเพียงพอ แนะนำให้ใช้โคมไฟเฉพาะจุด จะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าการเปิดไฟบนเพดานที่ให้แสงสว่างทั่วทั้งห้องโดยไม่จำเป็น

3. ปิดเมื่อไม่ใช้

หลักง่ายๆ ที่เด็กประถมยังรู้คือ ปิดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน แต่ในรายละเอียดที่หลายคนอาจหลงลืมไปก็คือ เมื่อคุณชาร์ตแบตเตอรี่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเลตจนเต็มแล้ว ก็ควรรีบถอดปลั๊กออก ไม่เสียบทิ้งไว้ ส่วนอุปกรณ์สำนักงานที่นานๆ คุณจะใช้ที อย่าง พรินเตอร์ สแกนเนอร์ เป็นต้น ก็ไม่ควรเปิดทิ้งไว้ แต่เสียบปลั๊กและเปิดใช้เมื่อต้องการใช้งานเท่านั้น

4. รางปลั๊กพ่วงอัจฉริยะ… ตัวช่วยประหยัดไฟ

เคล็ดลับอีกข้อหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ทราบมาก่อนก็คือ การเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เข้ากับรางปลั๊กพ่วง (power strip) ที่ต่อไปยังเต้ารับติดผนังอีกทีหนึ่ง จะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าการเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ากับเต้ารับติดผนังโดยตรง (แต่คุณต้องปิดสวิทช์รางปลั๊กพ่วงเมื่อไม่ใช้งานด้วยนะ) 

นอกจากนั้น การใช้รางปลั๊กพ่วงอัจฉริยะ (smart power strip) ที่คุณสามารถเปิดปิดผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือหรือตั้งเวลาเปิดปิดได้ ก็จะช่วยประหยัดการใช้ไฟได้มากขึ้นอีกโดยเฉพาะสำหรับคนขี้ลืม เพราะสมมติว่าคุณขึ้นห้องนอนแล้ว แต่นึกได้ว่าลืมปิดสวิตช์รางปลั๊กพ่วง คุณก็สามารถสั่งปิดจากมือถือได้ง่ายๆ แถมรางปลั๊กพ่วงอัจฉริยะบางรุ่นยังสามารถแสดงสถิติการใช้ไฟให้คุณได้ทราบเพื่อวางแผนการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

5. ช่วยแอร์ให้ทำงานน้อยลง

ถึงเราจะบอกให้คุณเปิดหน้าต่างรับอากาศสบายๆ ตอนเช้า แต่พอเริ่มสาย คุณก็อาจต้องยอมปิดหน้าต่างเปิดแอร์ เพราะบ้านเรานั้นไม่ได้ร้อนธรรมดา แต่บางวันร้อนถึงขั้นต้องร้องขอชีวิต! 

เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยประหยัดไฟจากการใช้แอร์คือ ไม่ควรตั้งอุณหภูมิต่ำกว่า 25 หรือจะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ถ้าคุณตั้งอุณหภูมิที่ 27-30 แล้วเปิดพัดลมช่วย 

นอกจากนั้น พยายามหลีกเลี่ยงการนำเอาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เช่น กระติกน้ำร้อน เข้ามาในห้องที่เปิดแอร์ และไม่ควรรีดผ้าในห้องที่เปิดแอร์อยู่ เพราะอุปกรณ์และกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้ภายในห้องมีความร้อนเพิ่มขึ้น เครื่องปรับอากาศจึงต้องทำงานหนักขึ้นอีก

6. จัดระเบียบตู้เย็น

ช่วง WFH เก็บตัวอยู่บ้านแบบนี้ หลายบ้านตุนข้าวของจนตู้เย็นแน่น แต่แหม… อยู่บ้านเยอะขนาดนี้ คุณควรหาเวลาเคลียร์ของกินที่หมดอายุ ของที่ไม่จำเป็นออกจากตู้เย็นให้สม่ำเสมอด้วย เพราะตู้เย็นที่อัดแน่นไปด้วยของจะยิ่งกินไฟ นอกจากนั้น คอยตรวจดูรอยรั่วที่บริเวณขอบยางตู้เย็น หากเจอรอยรั่วควรรีบเปลี่ยนทันที เพราะเมื่อมีความเย็นรั่วไหลออกมา มอเตอร์ก็จะทำงานหนักขึ้นอีก

7. ฉลาดใช้

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกหลายอย่างที่คุณอาจไม่รู้หรือหลงลืม เช่น

– เวลาต้มน้ำในกาเพื่อเอามาชงชาหรือกาแฟ ควรเติมน้ำใส่กาในปริมาณที่คุณต้องการใช้ในครั้งนั้นๆ เท่านั้น เพราะจะประหยัดไฟและแก๊สได้มากกว่าเติมน้ำจนเต็มกา ต้มเดือด แล้วก็เหลือทิ้งไว้จนเย็นชืด หรืออีกวิธีหนึ่งคือ เก็บน้ำที่ต้มจนเดือดแล้วไว้ในกระติกเก็บความร้อน จากนั้นก็ค่อยเอามาชงเครื่องดื่มแต่ละครั้งโดยที่ไม่ต้องต้มใหม่

– รอให้ผ้าเต็มตะกร้าก่อนแล้วค่อยโยนเข้าเครื่องซักผ้าจะช่วยประหยัดทั้งไฟและน้ำได้มากกว่าที่คุณทยอยเอามาซักทีละนิดทีละหน่อย อ้อ แล้วอย่าลืมตั้งโปรแกรม Eco แบบประหยัดไฟด้วยล่ะ 

– ถ้าอยากประหยัดไฟขั้นสุด คุณควรต้องรู้ว่าการฟังเพลงด้วยหูฟังจะช่วยประหยัดไฟกว่าไม่ใช้ และหูฟังแบบมีสายจะกินไฟน้อยกว่าหูฟังแบบไร้สาย 

ว่าแล้วเราก็อยากเชิญชวนให้เอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยง่ายๆ เหล่านี้ไปลองทำดู แล้วรอดูว่าบิลค่าไฟคราวหน้าลดลงไปกี่บาท ถึงจะประหยัดไปแค่หลักสิบก็อย่ามองข้าม เพราะนอกจากในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองอย่างนี้ เงินไม่กี่บาทจะสำคัญต่อเราทุกคนแล้ว คุณยังจะได้ช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย

ที่มา:
saveonenergy.ca
housebeautiful.com
bangkokbiznews.com


บทความที่เกี่ยวข้อง