Gray Area: งานศิลปะบำบัดผู้สูงวัยและโรคสมองเสื่อม เมื่อสีสันกลายเป็นภาษาสุดท้ายของหัวใจ

Care / Social Care

เสียงเพลงคลาสสิกดังขึ้นเบาๆ ในห้องบำบัดที่อบอุ่น ผู้หญิงสูงอายุนั่งอยู่หน้าผืนผ้าใบเปล่า มือที่ครั้งหนึ่งเคยสั่นด้วยความไม่แน่นอนตอนนี้กำลังจับพู่กันอย่างมั่นคง เธอไม่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้เป็นปีไหน หรือจำได้ว่าเมื่อเช้านี้กินอะไร แต่เมื่อสีน้ำเงินผสมกับสีขาวบนผืนผ้าใบ ใบหน้าของเธอผ่อนคลาย และเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ลูกสาวเห็นแม่ยิ้ม

นี่คือพลังลึกลับของศิลปะบำบัด การรักษาที่ไม่อาศัยยาแต่อาศัยความเป็นมนุษย์ที่ยังคงอยู่ภายใต้เปลือกแห่งการลืม

โลกของเรากำลังเผชิญกับคลื่นยักษ์แห่งการเสื่อมสมรรถนะของสมอง ในปี 2021 มีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมกว่า 57 ล้านคนทั่วโลก โดยมากกว่า 60% อาศัยอยู่ในประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง ทุกปีมีผู้ป่วยรายใหม่เกือบ 10 ล้านคน หมายความว่าทุกๆ 3.2 วินาที จะมีคนหนึ่งคนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้

จำนวนผู้ป่วยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า จาก 57 ล้านคนในปี 2019 เป็น 153 ล้านคนในปี 2050 เหตุผลหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของประชากรและการสูงอายุของสังคม

สำหรับประเทศไทย สถานการณ์ไม่ต่างจากแนวโน้มโลก มีการประมาณการว่ามีผู้สูงวัยที่เป็นโรคสมองเสื่อมประมาณ 600,000 คนในปี 2015 อาจเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1 ล้านคนภายในปี 2030 และ 2 ล้านคนภายในปี 2050 ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้สูงวัยที่เป็นโรคสมองเสื่อมในไทยจะมากกว่าออสเตรเลีย 2.4 เท่า มากกว่ามาเลเซีย 3.5 เท่า และมากกว่าสิงคโปร์ 8.6 เท่า

ณ เดือนมีนาคม 2024 สัดส่วนผู้สูงวัยในไทยคิดเป็น 18% ของประชากรทั้งหมด ทำให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในโลก

ในปี 2019 โรคสมองเสื่อมสร้างค่าใช้จ่ายให้กับเศรษฐกิจโลกมากถึง 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยประมาณ 50% ของค่าใช้จ่ายเหล่านี้มาจากการดูแลโดยผู้ดูแลที่ไม่เป็นทางการ เช่น สมาชิกในครอบครัวและเพื่อนสนิท ซึ่งให้การดูแลและดูแลเฝ้าระวังโดยเฉลี่ย 5 ชั่วโมงต่อวัน

ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลโรคสมองเสื่อมต่อปีทั่วโลกในปัจจุบันเกิน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

ในขณะที่การรักษาด้วยยามีข้อจำกัดและผลข้างเคียง การแทรกแซงแบบไม่ใช้ยากำลังได้รับความสนใจอย่างมาก ศิลปะบำบัดเป็นการรักษาทางจิตใจประเภทหนึ่ง หมายถึงการรักษาปัญหาของจิตใจและพฤติกรรม ศิลปะสามารถใช้เป็นวิธีการแสดงออกและสื่อสารความคิดและความรู้สึก

การศึกษาแบบเคสและการทดลองขนาดเล็กหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าศิลปะบำบัดช่วยกระตุ้นความสนใจ สร้างความสุข และปรับปรุงอาการทางจิตประสาท พฤติกรรมทางสังคม และความมั่นใจในตนเอง

การศึกษาล่าสุดมีเป้าหมายเพื่อประเมินผลของโปรแกรมการเล่าเรื่องศิลปะสร้างสรรค์แบบแสดงออกที่มีผู้ดูแลร่วมด้วยในการลดอาการทางพฤติกรรมและจิตใจของโรคสมองเสื่อมในผู้สูงวัยและภาระของผู้ดูแล

การทบทวนอย่างเป็นระบบประเมินประสิทธิภาพของศิลปะบำบัดเป็นการแทรกแซงแบบไม่ใช้ยาสำหรับโรคสมองเสื่อม และตรวจสอบว่าศิลปะบำบัดปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีและคุณภาพชีวิตในขณะที่ลดอาการทางชีวภาพและจิตใจของโรคสมองเสื่อมหรือไม่ การวิจัยที่ดำเนินการระหว่างปี 2015 และ 2020 พบว่าการศึกษาทั้งหมด 17 ชิ้นตรงตามเกณฑ์ มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 853 คน

ผลการศึกษาพบว่า 88% (15 จาก 17 ชิ้น) ของการศึกษารายงานผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญอย่างน้อยหนึ่งด้านที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการแทรกแซง ในขณะที่ 17% (3 จาก 17 ชิ้น) แสดงผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญในทุกด้าน ได้แก่ คุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดี และอาการทางพฤติกรรมและจิตใจของโรคสมองเสื่อม

การวิเคราะห์เมตาแบบเครือข่ายเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของศิลปะบำบัดต่างประเภทพบว่า การเปรียบเทียบโดยตรงแสดงให้เห็นว่าการบำบัดด้วยการเขียนคายกราฟีดีกว่าการดูแลปกติในการปรับปรุงการทำงานของสมองและคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม และการบำบัดด้วยการระลึกถึงอดีตสามารถเพิ่มการทำงานของสมองได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับการดูแลปกติ

เหตุผลที่การเขียนคายกราฟีมีประสิทธิภาพสูง อาจเป็นเพราะการบำบัดด้วยการเขียนคายกราฟีเป็นสาขาหนึ่งของศิลปะบำบัดที่เกี่ยวข้องกับการจัดรูปแบบของตัวอักษรทางภาพและพื้นที่ ช่วยให้ผู้ป่วยมีสมาธิและควบคุมร่างกายเพื่อทำการเคลื่อนไหวในการเขียนคายกราฟี เพื่อส่งเสริมการทำงานของสมอง การผ่อนคลายทางกาย ความมั่นคงทางอารมณ์ และคุณภาพชีวิต

ในด้านพฤติกรรมกระสับกระส่าย การศึกษาแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม 12 ชิ้นที่มีผู้เข้าร่วม 1,240 คนเข้าร่วมเพื่อประเมินผลของศิลปะบำบัดต่างประเภทในการลดพฤติกรรมกระสับกระส่าย การเปรียบเทียบโดยตรงแสดงให้เห็นว่าการบำบัดด้วยการทำสวนดีกว่าการดูแลปกติในการลดพฤติกรรมกระสับกระส่ายในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม

การทำสวนมีประสิทธิภาพสูงเพราะ การสัมผัสกับธรรมชาติมีความสำคัญต่อการปรับปรุงความเป็นอยู่ทางจิตกายและคุณภาพชีวิต ส่งเสริมสภาวะทางอารมณ์เชิงบวก และลดความเครียด

การทบทวนวรรณกรรมอย่างรวดเร็วพบว่า การศึกษา 8 ชิ้นที่วิเคราะห์รวมถึงการบำบัดด้วยดนตรี การวาดภาพและศิลปะภาพ การแสดงละคร และบทกวี ประโยชน์ที่ระบุได้รวมถึงการปรับปรุงคุณภาพชีวิต การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ความมั่นใจในตนเอง การผ่อนคลายและความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม การบรรเทาอาการทางอารมณ์ รวมถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

การศึกษาพบว่าศิลปะบำบัดด้วยการวาดภาพ ศิลปะบำบัดทางภาพ โปรแกรมการศึกษาศิลปะภาพ และโปรแกรมศิลปะแสดงออกทางไกลมีประสิทธิภาพในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ความถี่ของเซสชันหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ จำนวนเซสชันทั้งหมด 8-12 ครั้ง และระยะเวลาของโปรแกรมตั้งแต่ 6 ถึง 12 สัปดาห์

การศึกษาพิเศษหนึ่งได้สำรวจผลกระทบของโปรแกรมในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ผู้เขียนการศึกษาที่พยายามพัฒนาความเข้าใจเชิงทฤษฎีได้พิจารณาว่าโปรแกรมที่ใช้พิพิธภัณฑ์ศิลปะเป็นฐานซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการดูและสร้างศิลปะภายในบริบททางกายภาพและสังคมของพิพิธภัณฑ์ อาจส่งผลต่อผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมและผู้ดูแลของพวกเขาอย่างไร

การศึกษานี้พบองค์ประกอบสำคัญสี่ประการที่เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลกระทบทางอารมณ์และความสัมพันธ์เชิงบวกสำหรับผู้เข้าร่วม: การกระตุ้นทางปัญญา สภาพแวดล้อมที่มีคุณค่าห่างจากกิจกรรมประจำวันหรือความเชื่อมโยงกับความเจ็บป่วย ความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ทางสังคมรวมถึงการสนับสนุนจากเพื่อนและการพักผ่อนสำหรับผู้ดูแล และการเปลี่ยนแปลงการรับรู้เกี่ยวกับโรคสมองเสื่อม

การสำรวจระดับชาติขั้นเดียวแบบตัดขวางเพื่อกำหนดความชุกของโรคสมองเสื่อมในผู้สูงวัยไทย พบว่ามีผู้สูงวัย 668 คน (16.5%) ที่มีคะแนน CMT ต่ำกว่า 15 ในบรรดาผู้สูงวัยเหล่านี้ 132 คนมีการพึ่งพิงในด้านการดูแลตนเองบางด้าน อัตราความชุกคือ 3.3% ของผู้สูงวัยไทย และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 1.0% ในกลุ่มอายุ 60-64 ปี เป็น 31.3% ในกลุ่มอายุ 90 ปีขึ้นไป

การศึกษาในประเทศไทยรายงานสาเหตุของโรคสมองเสื่อมใน 207 ผู้ป่วย: อัลไซเมอร์ 55%, โรคหลอดเลือดสมอง 20%, โรคสมองเสื่อมแบบผสม 14%, โรคพาร์กินสันที่มีสมองเสื่อม 10%, และโรคสมองเสื่อมส่วนหน้า 1%

การศึกษาแบบตัดขวางระดับครัวเรือนในสามภูมิภาคชนบทของประเทศไทยที่มีการริเริ่มเกี่ยวกับการดูแลชุมชนสำหรับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม พบว่าผู้ดูแลส่วนใหญ่เป็นทรัพยากรมนุษย์หลักสำหรับการดูแลและบริการโรคสมองเสื่อมในพื้นที่ชนบท

การศึกษาคุณภาพชีวิตและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของผู้ดูแลครอบครัวของผู้สูงวัยที่เป็นโรคสมองเสื่อมในประเทศไทย พบว่าคุณภาพชีวิตของผู้ดูแลครอบครัวอยู่ในระดับสูง ประสบการณ์ของความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างคู่ดูแลและการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมมีความสัมพันธ์เชิงบวกต่อคุณภาพชีวิตของผู้ดูแลครอบครัว ในขณะที่ความเครียดและภาระที่รับรู้มีความสัมพันธ์เชิงลบ

ข้อจำกัดและอนาคตของการวิจัย

การทบทวนนี้มีข้อจำกัดบางประการ เช่น ความเสี่ยงของอคติเนื่องจากข้อบกพร่องในการทำให้ไม่ทราบกลุ่มในการศึกษาบางชิ้นที่วิเคราะห์ มีการศึกษาศิลปะบำบัดคุณภาพเพียงไม่กี่ชิ้นที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลสำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแล อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางชิ้นที่ทบทวนแสดงประโยชน์บางประการในด้านความเป็นอยู่ทางสมองและจิตใจและคุณภาพชีวิต ด้วยเหตุนี้ การวิจัยในสาขานี้จึงต้องเพิ่มขึ้น

ไม่ทราบว่าประโยชน์เหล่านี้จะขยายไปนอกเหนือจากสตูดิโอหรือไม่ นี่เป็นคำถามสำคัญที่การวิจัยในอนาคตจำเป็นต้องตอบ

ในขณะที่โลกเผชิญกับคลื่นยักษ์แห่งการสูงอายุของประชากรและการเพิ่มขึ้นของโรคสมองเสื่อม ศิลปะบำบัดเป็นเสมือนประภาคารส่องทางในความมืด มันไม่ได้สัญญาว่าจะหยุดเวลาหรือย้อนกลับความทรงจำที่สูญหาย แต่มันให้บางสิ่งที่มีค่ามากกว่า คือ ช่วงเวลาแห่งการเชื่อมต่อ ความสุข และการยืนยันว่าความเป็นมนุษย์ยังคงอยู่

การวิจัยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าศิลปะบำบัดไม่ใช่แค่กิจกรรมเพื่อความบันเทิง แต่เป็นการแทรกแซงที่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในโลกที่เต็มไปด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี บางทีคำตอบสำหรับปัญหาที่ซับซ้อนที่สุดของมนุษยชาติอาจจะเรียบง่ายกว่าที่เราคิด อาจจะอยู่ในการจับพู่กัน การเคลื่อนไหวของมือบนดินสอสี หรือการสัมผัสดินในกระถางต้นไม้

เพราะในที่สุดแล้ว ศิลปะไม่ได้เกี่ยวกับการสร้างผลงานที่สมบูรณ์แบบ แต่เกี่ยวกับการสร้างช่วงเวลาที่มีความหมาย และในโลกของโรคสมองเสื่อม ช่วงเวลาเหล่านี้คือสิ่งมีค่าที่สุด


แหล่งอ้างอิง:

  • Scientific Reports. (2025). Effects of an art-based intervention in older adults with dementia: a randomized controlled trial
  • World Health Organization. (2025). Dementia Fact Sheet
  • Community and Interculturality in Dialogue. (2025). Art Therapy in people with dementia: a rapid literature review
  • PubMed Central. (2018). Art therapy for people with dementia – Cochrane Review
  • Frontiers in Aging. (2022). A Brief Report on Reviews of Existing Creative Art–Based Interventions in Dementia Care
  • Frontiers in Psychiatry. (2023). Comparative efficacy of various art therapies for patients with dementia
  • Alzheimer’s Disease International. (2024). Dementia Statistics
  • BMC Neurology. (2020). Health and long-term care of the elderly with dementia in rural Thailand
  • Journal of Medical Association of Thailand. (2001). Prevalence estimation of dementia among Thai elderly
  • Dementia and Geriatric Cognitive Disorders Extra. (2021). Etiology of Dementia in Thai Patients
  • Quality of life and the associated factors among family caregivers. (2020). PubMed

บทความที่เกี่ยวข้อง